Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

Twitter นั้นมีฐานรายได้หลักอยู่ในอเมริกา เรื่องนี้คงไม่แปลกใจนัก แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าญี่ปุ่น คือประเทศที่เป็นตลาดทำเงินอันดับ 2 ของบริษัทเลยทีเดียว และ Twitter เองก็ยังเห็นโอกาสที่จะเติบโตที่นี่อีกมาก เนื่องจากรูปแบบการใช้งาน เข้ากับพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นได้ดีทีเดียว

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข้อมูลเรื่องนี้ ระบุว่าในไตรมาสที่ผ่านมา Twitter มีรายได้จากโฆษณาเฉพาะในญี่ปุ่นถึง 136 ล้านดอลลาร์ (รายได้รวม 787 ล้านดอลลาร์) และ Twitter ตอนนี้ถือเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลจากฝั่งตะวันตกที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในญี่ปุ่น สูงกว่า Facebook และ Instagram เสียอีก อย่างไรก็จำนวนผู้ใช้นั้นยังน้อยกว่า LINE อยู่มาก

ผู้บริหาร Twitter ในญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่า รูปแบบของ Twitter นั้นเข้ากันได้ดีกับพฤติกรรมของคนญี่ปุ่น ตั้งแต่การไม่ต้องยืนยันตัวตนด้วยชื่อสกุลจริงแบบ Facebook ระบบที่เปิดให้สร้างได้หลายแอคเคาท์ ทำให้คนที่นั่นนิยมสร้างหลายแอคเคาท์ ไว้แสดงออกกับแต่ละหัวข้อที่ตนสนใจโดยเฉพาะ (รวมไปถึงชื่อแอคเคาท์ก็มักสื่อชัดเจนด้วย)

ความนิยม Twitter ในญี่ปุ่นยังสะท้อนให้เห็นตั้งแต่ ธุรกิจหลายแห่งจะเริ่มด้วยการเปิดแอคเคาท์ Twitter ก่อนมีเว็บไซต์, นักเรียนมักใช้ Twitter เพื่อการแชตและตามศิลปิน, แฟนคลับอนิเมะจะลงคิวอาร์โค้ดในนามบัตรที่ลิงก์ไปบัญชี Twitter หรือนักบวชก็ใช้ Twitter เป็นช่องทางสื่อสารหลัก ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ Twitter ทำออกมาช่วงหลัง ก็มาจากความต้องการของผู้ใช้ในญี่ปุ่น อาทิ Bookmark เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตน Like อะไร หรือการเลือกแสดงทวีตใน Timeline ตามเวลา เพราะคนญี่ปุ่นใช้ Twitter ติดตามสถานการณ์ ณ ขณะนั้นเวลามากกว่า

อย่างไรก็ตาม Twitter ในญี่ปุ่นก็พบปัญหาเฉพาะตัวเช่นกัน เนื่องจากการไม่ระบุตัวตนทำให้เกิดการคุกคามผู้อื่นได้ง่าย หลายครั้งคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็มักเริ่มจากใน Twitter ซึ่งทำให้ Twitter ต้องหาทางแก้ไขปัญหาต้องไป

ที่มา: Bloomberg ภาพ Pixabay

alt="People in Tokyo Subway"

Get latest news from Blognone

Comments

By: icez
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 18 May 2019 - 13:11 #1110297

นักบวชก็ใช้ Twitter เป็นช่องทางสื่อสารหลัก

@noppadon_dmc นับมั้ย

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 18 May 2019 - 13:53 #1110301 Reply to:1110297
OXYGEN2's picture

ผมตามแต่ใน Facebook


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: tg-thaigamer
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 18 May 2019 - 21:46 #1110322 Reply to:1110297
tg-thaigamer's picture

นั่นไอดอลเลยนะ 55


มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ

By: tuttap
Android
on 18 May 2019 - 15:22 #1110304
tuttap's picture

พยายามใช้ ละแต่ ใช้ยังไงก็ ใช้ไม่เป็นสัก ที ไม่เข้าใจคอนเซ้ป มันไม่เหมือน เฟส เหรอ

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 18 May 2019 - 15:45 #1110306 Reply to:1110304
big50000's picture

หัวใจหลักเหมือนกัน แต่วิถีต่างกัน

Twitter ไม่มีระบบเพื่อน ไม่มีกลุ่ม ไม่มีเพจ ฉะนั้นจึงไม่มีระบบคัดกรองคนดู ทวีต(โพสต์)ทั้งหมดจะถูกมองเห็นเป็นสาธารณะ ฉะนั้นทุกคน ที่ทั้งมีบัญชี และไม่มีบัญชี Twitter สามารถดูทวีตเราได้ ยกเว้นว่าเราจะสร้างบัญชีแบบปิด เฉพาะบุคคลที่เราอนุญาตให้ติดตามจะสามารถดูทวีตของเราได้

ทุกคนมีสิทธิ์สมัครบัญชี Twitter ได้มากกว่า 1 บัญชี ฉะนั้นเราสามารถเปิดหลายบัญชีแยกกันเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้ เช่น บัญขีเพจ บัญชีส่วนตัว เป็นต้น

การค้นหาเรื่องที่สนใจ โดยปกติจะค้นหาผ่านแฮชแท็ก (#hashtag) อยากทวีตไปอยู่หมวดไหน เราก็เพิ่มแฮชแท็กอันนั้นเข้าไป คนที่สนใจเรื่องเดียวกันก็จะสามารถค้นหาทวีตของเราได้

ถ้าใครสนใจคนไหนเป็นพิเศษ เราสามารถกดติดตามบัญชีนั้นเพื่อรับข่าวสารเข้า news feed ของเราได้เช่นกัน

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 18 May 2019 - 22:31 #1110324 Reply to:1110304
hisoft's picture

ไม่เหมือนครับ เราไม่ตามเพื่อนครับ เราเห็นใครทวีตแบบที่เราชอบเราก็กดตามไปเรื่อยๆๆๆๆ ?

By: Pinery
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 19 May 2019 - 10:51 #1110339 Reply to:1110304

ระบบการติดตามเหมือน Instagram น่ะครับ คืออยาก follow ใครก็ follow เลยตามที่เราสนใจตราบใดที่คนโพสเปิด public

แต่ instagram มัน base รูปภาพ แนบข้อความ
ส่วน Twitter base บนข้อความ แนบรูปภาพ

เทียบแบบง่ายๆ นะ

By: zipper
ContributorAndroid
on 20 May 2019 - 14:52 #1110496 Reply to:1110304

สไตล์การเล่นของ Twitter บางคนก็เหมือนคุยคนเดียว มีอะไรก็โพส บ่นอะไรก็โพส คือ Facebook เราจะไม่ค่อยอยากบ่นอะไรมากเพราะกลัวไปรบกวน timeline คนอื่น แต่คนเล่น Twitter อยากเห็นคนอื่นบ่นเพราะไม่งั้นมันจะเงียบไม่มีอะไรอ่าน

บางคนก็เลยมี Facebook เอาไว้ลงอะไรสวยๆ อะไรดีๆ แต่จะมาบ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ลง Twitter

และเวลาคุย Topic อะไรก็จะคุยผ่าน Hashtag เช่น ละคร, เชียร์กีฬา ถ้าเทียบกับ Facebook ก็คงไปคุยในเพจ ดังนั้นใน Twitter จะมีคนเล่น tag เยอะกว่าใน Facebook

หลายคนใน Twitter เลยที่เล่นเพราะอยากบ่นอยากเขียนอะไรที่เขียนที่อื่นไม่ได้