สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวจากแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ตั้งเป้าเล่นงานแค่ Huawei เท่านั้น แต่เตรียมจะเล่นงานบริษัทกล้องวงจรปิดสัญชาติจีน และบริษัทด้านเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าอีกด้วย
บริษัทที่ระบุชื่อมี 5 รายคือ Hikvision ผู้ขายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ของโลก, Dahua Technology ผู้ขายกล้องรายใหญ่ และ Megvii บริษัทด้าน AI เจ้าของเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า, iFlytek บริษัทซอฟต์แวร์แยกแยะเสียงพูด, Meiya Pico บริษัทด้านความปลอดภัยและ digital forensic
Bloomberg บอกว่ารัฐบาลสหรัฐมองว่าทั้ง 5 บริษัทนี้ มีบทบาทช่วยเหลือรัฐบาลจีน ทำระบบสอดส่องชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง และรัฐบาลจีนอาจใช้เทคโนโลยีชุดนี้เข้ามาสอดแนมสหรัฐได้เช่นกัน
รัฐบาลสหรัฐเตรียมนำบริษัททั้ง 5 รายใส่ชื่อลงใน Entities List เพื่อห้ามทำธุรกิจกับบริษัทอเมริกัน จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากรัฐบาล
ที่มา - Bloomberg
ภาพจาก Hikvision Thailand
Comments
โห ไปกันใหญ่แล้ว ไล่แบนขนาดนี้
ทรัมป์ต้องบีบจีนให้ซื้อถั่วเหลือง ... กลุ่มฐานเสียงของตัวเองให้ใด้
... แต่จีนเป็นคอมมิวนิสเล่นเกมส์ยาวใด้ อีกทั้งยังกำทั้งแร่ธาตุ และแรงงานผลิตสินค้า (ซึ่งสามารถขึ้นในรูปภาษีส่งออกราย บ. ใด้ระดับหนึ่ง ตราบที่ยังถูกกว่าผู้ผลิตอันดับถัดไป) ... ตอนนี้ บ. ใน usa ที่ไช้บริการจากจีน โดยเฉพาะ nike และ adidas เริ่มโวยวายกันแล้ว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ข้อดีของจีนคือถูกและดี
เมกา ไม่ไว้ใจเลยเลือกจะใช้ของที่แพงกว่า
ผลตกอยู่ที่ ประชาชนคนใช้ที่ต้องใช้ของแพงขึ้น
ยักษ์ใหญ่ 2 ยี่ห้อนี้ ทำ OEM ODM... กับหลายแบรนด์ทั่วโลก รวมของอเมริกาอยู่ด้วยนะ
หนักแล้ว ทรัมป์
เจอความบ้าของทรัมพ์เข้าไป หงายกันเป็นแถบๆ
เรื่องที่ตลกคือ ช่วงแรกที่ทรัมพ์ได้เป็นประธานาธิปดี มีคนกลุ่มนึงใน Blognone เห็นด้วยและยินดี/ชื่นชอบที่ทรัมพ์ได้เป็น
พอตอนนี้ทรัมพ์ออกอาการ(ซึ่งคนอีกกลุ่มที่ไม่ชื่นชอบประเมินไว้แล้วว่าน่าจะเกิด) คนกลุ่มนั้นดันมาด่าอเมริกาซะงั้น(แต่ไม่ด่าทรัมพ์ที่ตัวเองชื่นชอบนะ อิอิ)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่าคนส่วนนึงก็ไม่ได้มองที่ระบบอ่ะนะ เชียร์เพราะตรงกับความคิด ความชอบตัวเอง แต่ไม่เคยมองว่ามันส่งผลกระทบเชิงระบบอย่างไร แถมสารพันจะสรรหาเหตุผลมาอวย มายกยอกันจนเละเทะไปหมด
คนส่วนนี้เค้ามองมุมกลับเป็นกันรึเปล่าไม่รู้อ่ะครับ
คนมันเปลี่ยนใจโดยที่ยังแอ๊ปอยู่ได้มั๊งครับ 555
ตอนเลือกตั้ง US นี่ตัวเลือกมันน้อยไปนะ
ฮิลารี่ก็ดูธรรมดาที่รู้สึกสู้โอบามาไม่ได้ กับคนดูบ้าๆอย่างทรัมพ์ ถ้าผมเป็นคน US ก็เลือกลำบากแหละ
ถ้า US มี 3 - 5 พรรคนี่กำลังสวยนะผมว่า
มีแบบประเทศเราผมก็ไม่เอา...
ผมก็ไม่ได้ชอบทรัมป์นะ แต่ในมุมมองในฐานะของนักการเมือง ผมว่าทัมป์ทำได้ดี เพราะตอนนี้ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เข้ากับคำว่า America first สิ่งที่เป็นอยู่ผมว่าเป็นเพียงแค่การสร้างเงื่อนไขเพื่อการต่อรอง เพราะรู้ดีกว่าถ้าปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตัวเองเสียเปรียบแน่นอน
ผมเฉยๆ ครับทรัมพ์ แต่ผมมองว่าสิ่งที่ทรัมพ์ทำอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นแค่การหาทางต่อรองการค้ามันจะดีต่ออเมริกามากๆ แต่ผมมองว่าทำเพื่อต่อรองทางการค้าแค่นั้นแหละครับ พอได้ดังใจแล้วก็จบละ
ที่ผมบอกว่าทรัมพ์บ้านี่คงเป็นลูกบ้านะ ไม่ใช่บ้าบอคอแตก
อันนี้แยกออกจากปัญหาที่ทรัมพ์พยายามปิดประเทศโดยบอกว่าชาวต่างชาติเป็นตัวปัญหานะครับ
แบนในทัศนะของอเมริกาไม่ใช่แค่ห้ามนำเข้าอเมริกา แต่ห้ามบริษัทอเมริกาและบริษัททั่วโลกที่ทำธุรกิจกับอเมริกาไปทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกอเมริกาแบนด้วย มีฉะนั้นจะถูกขึ้นบัญชีด้วย ฉิปหายสิครัชแบบนี้
ไม่ห่วงสหรัฐ ไม่ห่วงจีน ผมเป้นห่วง ทรัมพ์ มากกกว่า
ตอนลงจากตำแหน่งนี่ มีบาทา รอ...อยู่เพียบเลย
จะรอดมั้ยเนี่ย ?
ปกติจะมีการ์ดคุ้มครองให้อยู่นานนะครับหลังลงจากตำแหน่ง ไม่แน่ใจเปลียนยัง ถ้าสมัยก่อนนี่คุ้มครองตลอดชีวิตเลย
เพราะบริษัทเดียวทำตายยกประเทศ ฮ่าๆ
บริษัทเดียว แต่เป็นบริษัทที่มีรัฐบาลจีน Support นะครับ
ซึ่งจะมองว่า เป็นน บริษัทของรัฐบาลจีน ก็น่าจะได้
หือ ซินเจียงอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเหรอ ? คนในประเทศของเขาก็ยังหาข้ออ้างไปยุ่งได้อีก ข้างๆ คูๆ กันไปเรื่อย การต่อรองโดยแสดงวัตถุประสงค์ชัดเจนขนาดนี้ ถ้าไม่จบให้ชนะแบบรวดเร็ว ก็โดนซัดอ่วมถ้าปล่อยยืดเยื้อ ถ้าจีนดึงได้เลยปลายปีขึ้นไป อยากรู้เหมือนกันว่าทรัมป์จะทำไงต่อ
ตามประวัติศาสตร์การคว่ำบาตรทางการค้าไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศนั้นๆ ก็ได้ครับ
ส่วนที่ว่าหาข้ออ้าง ... ถูกแล้วครับ มีอำนาจอ่ะนะ ลองบอกว่าไทยจะคว่ำบาตรสหรัฐฯ อันนี้คนอาจนั่งฮากัน (จำได้ว่ามีพลพรรคฝั่งนึงทางการเมืองรณรงค์ให้แบนอเมริกาผ่านเฟสบุค ผ่านทวิตเตอร์ ... ผมว่าไม่ต้องมีกัญชาเสรีก็ฮาได้)
เมื่อคืนเห็นข่าว dji แว็บๆ ไม่รู้ว่าเรื่องทำนองเดียวกัน หรือเปล่า
ได้ข่าว(ลือ)ว่า Drone ของ DJI ก็กำลังจะโดนนะครับ
โดรนน่าจะโดน
โดรนถูกแล้วครับ โดรนคือหุ่นยนต์ ถ้าโดนแปลว่าถูกกระทำ
ใช่ครับ ผมเล่นมุกแป้กครับ
ได้ยิ้มมุมปาก + ถอนหายใจนิดนึงยู่ครับ
555555555
นี่คือเปลือกหอยใช่มั้ยคะ...
อยากเห็น DJI โดนแบนเหมือนกัน
ไม่ได้เกลียด DJI นะ กล้บกันคือชื่นชมในความเจ๋งของมันมากด้วย (ที่ทำงานผมมี Phantom 4 อยู่ ได้ใช้ประจำ) แต่อยากรู้ว่ายี่ห้อโดรนที่ดีที่สุดในโลก ใชักันทุกวงการ ถ้าโดนแบนขึ้นมา ประเทศที่สั่งแบนเนี่ย เค้าจะอยู่กันยังไง ไม่มีโดรนแล้วจะทำงานกันยังไง
มันก็มีโดรนเจ้าอื่นที่ใช้ได้แหละครับ ผมว่า dji ได้ตรงราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่าเพื่อน
ทำระบบสอดส่องชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง
ทุกชีวิต เราดูแล
แบนของจีนให้หมดเลยครับ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง ฮา
dvr จีนพวกนี้ใช้กันทั่วไทยหลากหลายยี่ห้อ oem มากันหมด ที่บ้านเคยเจออาการแปลกๆ มีipจากจีนพยายาม login ตลอด(log ใน dvr มันเตือนเอง) จนเปลี่ยน port ทั้งหมดเป็นแบบสุ่มก็ไม่เจออีกเลย ถ้ามองเรื่องความปลอดภัยมันก็ดูไม่ค่อย secure เท่าไรจริงๆนั่นแหละ
แต่กรณีนี้คงไม่กระทบไทยมากมั๊ง
ป.ล. พวก p2p นี่น่ากลัวมากๆ วิ่งผ่าน server จีนหมด
นั้นสิ ผมก็มองในมุมนี้เหมือนกัน
ทำไมคนใน Blognone ส่วนใหญ่ถึงมองแค่ ขอดี ราคาถูก ? ไม่สนใจคำว่า ความปลอดภัย เลยเหรอ ?
จะพูดไป พวก router wifi ของค่าย Internet บ้านเราก็ตั้ง password default ไว้เหมือนกันทุกบ้านเลยนะครับ เผื่อไว้ login เข้ามาแก้ปัญหา
พวกทำอะไรชุ่ยๆ แบบนี้โคตรอันตราย
TR069 น่ากลัวมาก เปลี่ยน port เปลี่ยน pass วันดีคืนดี ชุมสายสั่ง reset กลับมาเหมือนเดิม
แง่ดีคือชุมสายแก้ไข config แทนเราได้ตลอด ข้อเสียก็ ถ้าหลุด หรือมีช่องโหว่ ก็เจาะถึงบ้านสบายๆ
ได้อ่านบทวิเคราะห์จากหนูเนย ผมคิดว่า Trump ทำถูกแล้วเหมือนกันนะ เพราะจีนกีดกันทางการค้าต่อบริษัทเทคโนโลยี เช่น YouTube, Google และขโมยสิทธิบัตรต่าง ๆ ของทางฝั่งอเมริกาไปใช้นานแล้วจริง ๆ เหมือนกัน
มันก็คงมีปัญหาสะสมมาหลายด้านล่ะ ส่วนเหตุผลที่ฝั่งอเมริกาใช้ก็ต้องเป็นข้ออ้างอะไรทำนองนี้ล่ะครับ เพราะพอเทียบกับทางฝั่งจีน เวลาที่ฝั่งจีนละเมิดสิทธิบัตรหลาย ๆ ตัวนี่ไม่เคยให้เหตุผลอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ถือว่าตลาดประเทศตัวเองใหญ่ ตัวเองมีกฎหมายอยู่ในมือ ไม่มีใครสามารถทำอะไรกับการซื้อขายบริโภคภายในประเทศตัวเองได้
That is the way things are.
การห้ามทำธุรกิจบางอย่างก็มีกันทุกประเทศ สหรัฐเองก็มี บ้านเราเองก็มี ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม การเมือง กฎหมายและ ผลประโยชน์ ที่คุณยกตัวอย่างมา youtube หรือ google ที่ทำไม่เพราะประเทศคอมมิวนิสและถ้าทำจริงก็ต้องยอมให้รัฐเข้ามาควบคุมข้อมูลซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในทางปฎิบัติ
ผมอ่านบทวิเคราะห์แล้วก็แปลกดี ตัวเขาเองรู้ดีว่าการขโขมยทรัพสินทางปัญญาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหลายๆบริษัทและก็ประเมินความน่าเกลียดในการขโมยเทคโนโลยีว่าใครน่าเกลียดกว่ากัน ว่าการโขมยของหัวเหว่ยร้ายแรงกว่าคนอื่น และมองข้ามความเสียหายที่ศาลให้ชดใช้ไม่มากพอ ก็ควรโดนประหารทิ้งไปซะ เป็นสิ่งที่สมควรทำ
และ ก็ทำคุณโยงมาเรื่องนี้ว่าการแบนบริษัทอื่นๆตามมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่าถึงเอามาโยงกับเรื่องแบนบริษัทอื่นนอกจากหัวเหวย
ทรัมนี่เก่งจริงๆ สามารถเอาเรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ก็แค่เสียผลประโยชน์ และใช้อำนาจที่มีในการกำจัด มาเปลี่ยนเป็นความชอบธรรม ส่วนข้ออ้างก็เห็นๆอยู่ว่าไร้หลักฐาน ส่วนข้ออ้างที่สื่อต่างๆคิด ก็แค่ข้ออ้าง จะโยงเอาสงครามโลกเลยหรือเปล่า เลยต้องแบนจีน
มันก็คงพูดยากน่ะครับว่าการที่ Trump "ตอบโต้" ด้วยวิธีการไหนถึงจะ "ชอบธรรม" เพียงพอ เพราะคนที่เริ่มก่อนได้ผลประโยชน์ไปแล้ว Trump อาจจะมองว่าวิธีการด้านกฎหมายไม่สามารถทำอะไรจีนได้มากพอ ไม่ว่าอย่างไรก็หยุดการละเมิดสิทธิบัตรในจีนไม่ได้ อีกทั้งพ่วงด้วยผลประโยชน์ของชาติตัวเองที่จะ Trump เองก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้อง มันเลยออกมาเป็นรูปแบบนี้
ส่วนตัวผมว่า Trump ก็ตอบโต้จีนแบบนี้ แม้จะไม่ถูกต้อง 100% แต่ก็มีเหตุควรกระทำได้อยู่บ้าง คนอื่นเล่นนอกกติกาก่อน ดังนั้นตัวเองก็มีสิทธิ์เล่นนอกกติกาบ้างเหมือนกัน จะมาพูดว่า "เฮ้ย เราเล่นนอกกติกา แต่นายต้องตอบโต้เราตามกติกานะ" มันก็ดูเอาเปรียบไปหน่อยหนึ่งนะผมว่า
That is the way things are.
จุดต่างนึงคืออเมริกาพยายามทำตัวเป็นผู้นำโลก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคม กฏกติกาต่างๆมาตลอด
และต่อให้จะเป็นคนที่เกลียดอเมริกามากแค่ไหน ก็คงต้องยอมรับว่ากติกาที่อเมริกาวางไว้ช่วยให้สังคมโลกพัฒนาได้อย่างทุกวันนี้จริงๆ ถึงอเมริกาจะฉวยโอกาสเอาเข้ากระเป๋าตัวเองอยู่ก็เถอะ
แต่จีนนี่สวมหมวกผู้ร้ายมาแต่ต้น แทบจะไม่สนกฏที่ใช้ๆกันอยู่ถ้าไม่จำเป็น
ถ้าอเมริกาที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการตั้งมาตรฐานดันหักมาตรฐานที่ตัวเองตั้งซะเองไม่ว่าจะเหตุผลอะไร มันก็เกิดความไม่ไว้ใจกันไปทั่วโลกน่ะสิครับ
noblesse oblige ครับ มันเป็นทางที่อเมริกาเลือกมาแต่ต้น การที่ทรัมป์จะมาทำลายมันดื้อๆ โดนด่าก็คงไม่แปลก
ถ้าพูดเรื่องระดับ Global การที่เคยเห็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปแพ้คดีละเมิดในจีนได้นี่ก็ถือว่าไม่ปกติแล้วครับ อันนี้คือตัวอย่างหนึ่งที่พอจะนึกออก ซึ่งบางเรื่องมันก็ไม่ได้มีความสมเหตุสมผลในสายตาเราเหมือนกัน และยิ่งเป็นเรื่องระหว่างประเทศก็อาจจะต้องมองด้วยแว่นอีกอัน
เป็นการบีบให้ย้ายโรงงานออกจากจีนทางอ้อมไปในตัว