ในงาน Tencent Global Digital Ecosystem Summit ที่ยูนนาน ผู้บริหารของ Tencent ออกมาเผยยุทธศาสตร์ของบริษัท Tencent จะไป disrupt อุตสาหกรรมต่างๆ เองไม่ได้ แต่ต้องอาศัยพันธมิตรเพื่อสร้างโซลูชั่นของแต่ละอุตสาหกรรม โดย Martin Lau ประธานของ Tencent บอกว่า อนาคตของอินเทอร์เน็ต คือ จะไม่ไช่แค่เป็นอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตอย่างเดียวแล้ว แต่อินเทอร์เน็ตจะเป็นความสามารถสำคัญในทุกๆ อุตสาหกรรม
ภาพจาก Shutterstock
Dowson Tong รองประธานอาวุโสของ Tencent และประธานกลุ่มคลาวด์กล่าวว่า อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบการวิจัยและพัฒนาไปจนถึงการผลิต การจัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย มันจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่จะต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลแบบครบวงจร ซึ่งตอนนี้ Tencent ได้เปิด Tencent Technical Committee ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบโอเพ่นซอร์ส และการพัฒนาตนเองบนคลาวด์ ซึ่งเป็นการวิจัยพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรม
Qiu Yuepeng ผู้บริหาร Tencent Cloud ระบุว่า คลาวด์คอมพิวติ้งมีการทำงานสามขั้นตอนคือ scale effect หรือประเมินผลกระทบ สองคือ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และสามคือ ยกระดับทั้งอุตสาหกรรม ซึ่ง Tencent เป็นผู้นำในการทำงานทั้งหมดที่กล่าวมา ด้วยจำนวนเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์รวมเกิน 1 ล้านหน่วยและแบนด์วิดท์สูงสุดเกิน 100T และ Tencent Cloud ก็จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เรื่องโอเพ่นซอร์ส
ภายในงานมีการยกตัวอย่างถึงแอพ WeChat ว่านอกจากจะเป็นแอพแชท ยังเป็นแอพครอบคลุมบริการหลากหลาย เช่น เรียกรถ ซื้อของ จ่ายเงิน ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานในจีน ในขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจ บริษัทก็สามารถใช้ WeChat เข้าถึงผู้ใช้งานได้ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ร้านค้าปลีกไม่ว่าจะเป็นเชนใหญ่เล็ก สามารถเข้ามาสร้าง Mini Program ใน WeChat เพื่อเข้าถึงผู้ใช้งาน เวลาผู้ใช้งานค้นหาแบรนด์และซื้อสินค้าก็สามารถทำได้ผ่าน WeChat Pay โดย WeChat จะได้เปอร์เซนต์จากตรงนี้ ปัจจุบันมีร้านค้าเชนใหญ่ที่ไม่ใช่ของจีนเข้ามาใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น Watson, Dior, Lawson, Uniqlo, Carrefour เป็นต้น
นอกจากนี้ WeChat ยังมีบริการ WeChat Work เป็นแอพเดี่ยวแยกสำหรับองค์กรธุรกิจที่เปิดบริการมาได้ 3 ปีแล้ว เป็นแอพไว้ใช้เวลาบริหารงานในองค์กร เช่นการสื่อสารในองค์กร ระบบลางาน การชำระเงิน ซึ่ง Huang Tieming รองประธานกลุ่มธุรกิจ WeChat เปิดเผยในงานประชุมว่าตอนนี้ WeChat Work มีบริษัทจีนเข้ามาใช้งาน 17,000 บริษัทแล้ว อย่างไรก็ตาม ในจีนมีแอพเพื่อช่วยการทำงานในองค์กรรายใหญ่อยู่แล้วคือ แอพ Dingtalk ของอาลีบาบา ซึ่งมีผู้ใช้งาน 400 ล้านราย
Tencent Cloud ประสบความสำเร็จในจีนแล้ว และก้าวต่อไปคือการขยายไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งจริงๆ ในปี 2014 เป็นครั้งแรกที่ขยายศูนย์ข้อมูลไปยังฮ่องกง ส่วนตอนนี้ Tencent Cloud ได้เปิด Availability Zone 53 แห่งทั่วโลก และพายามมองหาพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศเข้ามาร่วมธุรกิจต่อไป
แต่จากความกดดันทางเศรษฐกิจ สหรัฐฯและจีน อาจเป็นอุปสรรคของ Tencent ในตลาดต่างประเทศ ซึ่ง Tencent ก็เป็นบริษัทไอทีจีนรายใหญ่ก็อาจโดนหางเลขไปด้วย ซึ่ง Pony Ma ซีอีโอ Tencent ให้ความเห็นว่า เกรงว่าสงครามการค้ารอบนี้จะกลายเป็นสงครามการกีดกันทางเทคโนโลยี ด้าน Dowson Tong รองประธานอาวุโสของ Tencent และประธานกลุ่มคลาวด์ ระบุว่า บริษัทจะพยายามทำตามกฎหมายของในแต่ละประเทศ และ Tencent ก็มีการพูดคุยกับ regulator ในต่างประเทศแล้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ตัวอย่างเพิ่มเติมว่าจะทำงานร่วมกับ regulator ในแง่มุมไหนบ้าง และจะทำอย่างไรที่จะช่วยให้ Tencent รอดจากภาวะสงครามการค้านี้
Comments
บริษัทจะพยายามทำตามกำหมาย
ไม่ไช่ ?