จากข่าว WarnerMedia ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือ AT&T ประกาศชื่อสตรีมมิ่งใหม่เป็น HBO Max ทำให้หลายคนอาจสับสนว่า แล้วแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่ง HBO GO และ HBO Now ที่มีอยู่คืออะไร มีความแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร ทำไมต้องมีแยกกันหลายชื่อ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใช้งาน HBO GO และ HBO Now อยู่แล้ว
HBO Now คือ สมาชิกแบบออนดีมานด์ เพื่อดูผ่านทีวี มือถือ แท็บเล็ตได้ ผู้ใช้งานสามารถสมัครใช้งานตรงกับ HBO ได้เลยในราคา 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกเคเบิลทีวีใดๆ มาก่อน
ปัจจุบัน HBO Now ให้บริการแค่ในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวเท่านั้น
ส่วน HBO Go บริการวิดีโอออนไลน์ออนดีมานด์แบบแพ็กเกจเสริม (add-on) สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกเคเบิลทีวีหรือบริการทีวีออนไลน์อยู่แล้ว และต้องการดูเนื้อหาของ HBO แบบสตรีมมิ่งเพิ่มเติม โดยเป็นการจ่ายเงินค่าสมาชิกให้กับผู้ให้บริการในแต่ละประเทศแทน ไม่ได้จ่ายให้ HBO โดยตรง ตัวอย่างในประเทศไทยคือสมัครผ่านแอพ AIS Play (ตอนนี้ย้ายไปอยู่กับ 3BB แล้ว)
การผูก HBO Go กับผู้ให้บริการรายอื่น ทำให้คอนเทนต์ HBO สามารถส่งไปถึงกลุ่มคนดูนอกสหรัฐฯ ได้กว้างขึ้น ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการในแต่ละประเทศ มีโปรโมชั่นอะไร อย่างใน AIS Play ถ้าจะดูคอนเทนต์ HBO ก็ต้องจ่าย 199, 299, 399 บาทต่อเดือน
ปัจจุบัน HBO GO มีให้บริการในสหรัฐฯ อังกฤษ ไทย เวียดนาม โปรตุเกส สเปน ฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์มาเลเซีย
กล่าวโดยสรุปคือ HBO Go และ HBO Now คอนเทนต์เหมือนกัน แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่พื้นที่ให้บริการและวิธีที่ผู้ใช้งานเลือกรับบริการนั่นเอง
ตัดมาที่ HBO Max ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ นั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งผลต่อ HBO GO และ HBO Now อย่างไร รวมถึงยังไม่รู้ว่าราคาเท่าไรด้วย แต่สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือ "คอนเทนต์" เยอะกว่า HBO Go และ HBO Now อย่างเห็นได้ชัด
ในแถลงการณ์ของ Time Warner ระบุว่านอกเหนือจากคอนเทนต์ HBO ที่ขึ้นชื่ออย่าง Game of Thrones, Westword แล้ว ยังจะมีคอนเทนต์จากผู้ผลิตคอนเทนต์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ WarnerMedia อย่าง Warner Bros., New Line, DC Entertainment, CNN, TNT, TBS, truTV, The CW, Turner Classic Movies, Cartoon Network, Adult Swim, Crunchyroll, Rooster Teeth, Looney Tunes เป็นต้น
ตัวแทนของ HBO บอกกับเว็บไซต์ Fast Company ว่าการเปิดตัวของ HBO Max จะไม่ส่งผลต่อ HBO Go หรือ HBO Now ของเดิม โดย HBO Max จะเป็นบริการอีกตัวที่แตกต่างออกไป สมาชิก HBO Go หรือ HBO Now จะไม่ถือว่าเป็นสมาชิก HBO Max และต้องสมัครบริการแยกต่างหาก
ในประกาศเปิดตัว HBO Max ทางบริษัท WarnerMedia เผยรายชื่อคอนเทนต์ที่ทั้ง original contents และ คอนเทนต์ลิขสิทธิ์ต่างๆ ดังนี้
ตัวอย่าง original contents บน HBO Max
HBO Max จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 และคาดว่าคงจะโฟกัสแค่ในตลาดสหรัฐฯก่อนในช่วงแรก คนไทยก็คงต้องรอไปอีกสักพักใหญ่
ที่มา - Fast Company, Variety
Comments
ตัวเลือกในการดูเยอะแบบนี้ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง คือเน้นเลือกดูแนวที่ตัวเองชอบ ดูวันละไม่เกินชั่วโมง ไม่ตามดูทุกเรื่องทีกำลังดัง ไม่งั้นคงได้อดนอนกันยาวๆ
My Twitter
พูดจริงๆ ตอนนี้ content ที่ผมชอบดู มันกระจัดกระจายไปหลายค่ายมากๆ
จะให้สมัครทั้งหมดก็คงไม่ใช่ ผมไม่มีเวลาดูขนาดนั้น
วิธีที่ผมใช้ตอนนี้คือ
สมัครดูแต่ละค่ายแค่บางเดือน
ผมก็จะดูเฉพาะค่ายนั้นๆให้เต็มอิ่มก่อน แล้วยกเลิก
พอเดือนถัดไปก็ไปสมัครอีกค่ายต่อ วนไปเรื่อยๆ
ผมว่าสรุปแบบนี้มักง่ายไปหน่อยนะครับ เพราะ HBO GO นอกอเมริกาตัวรายการนี่ provider เค้าเลือกเอามาลงอีกทีนะครับ ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว อย่าง Last week tonight ที่เป็น OC ของ HBO เองด้วยซ้ำก็ไม่มีบน AIS play หรือ HBO Go Asia
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
สารดคี => สารคดี
ที => ที่
อยากให้เช่าหนังมาดูได้เหมือนร้านเช้าสมัยก่อน เรื่องล่ะ 30 บาทอ่ะ ผมเช่าบน apple tv เรื่องนึง 129 บาทเลย แพงไป ส่วน netflix ก็ไล่ดูเรื่องที่ชอบไปจนครบแล้ว ไม่ชอบแบบจ่ายรายเดือนเลย เพราะผมไม่ชอบดูซีรี่ร์
📸
Netflix มีแบบรายอาทิตย์นิ
มีเยอะ อีกหน่อยก็จ่ายมะไหวแล้ว