อยู่ๆ Donald Trump ก็เปิดศึกกับสายเหรียญ เมื่อเจ้าตัวทวีตว่าตัวเขาเองไม่ได้ชื่นชอบบิทคอยน์หรือเงินคริปโตเท่าไหร่นัก เพราะเขามองว่าของเหล่านี้ไม่ใช่เงิน มูลค่าของมันขึ้นอยู่กับอากาศธาตุและไม่มีความแน่นอนเลย ขณะที่เงินคริปโตที่ไม่ถูกควบคุมก็มีโอกาสจะถูกนำไปเป็นเครื่องมือของการกระทำที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ยังพูดถึง Libra ของ Facebook ด้วยว่ามันจะมีความน่าเชื่อถือต่ำ หาก Facebook หรือบริษัทอื่นๆ ต้องการจะทำตัวเป็นธนาคาร ก็ควรจะยื่นเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตในการเป็นธนาคารและเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเหมือนธนาคารอื่นๆ
โครงสร้างของ Libra เองเป็นโครงสร้างสองชั้น ตัวเงิน Libra ไม่ได้ขออนุญาตจากชาติใดชาติหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ตั้งสำนักงานบริหารกองทุนสำรองอยู่ในเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ตัวบริการที่ผู้ใช้ทั่วไปจะใช้งานได้นั้น ทางเฟซบุ๊กตั้งบริษัท Calibra เป็นบริษัทลูกที่ระบุว่าจะทำตามกระบวนการกำกับดูแลในสหรัฐฯ เต็มที่
สุดท้าย Trump ชี้ว่าสหรัฐมีสกุลเงินเดียวคือดอลลาร์ เป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่ง เชื่อถือได้และเป็นสกุลเงินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว และมันก็จะเป็นเช่นนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตามหลังการทวีตของ Trump ฝั่งตลาดเหรียญแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก มูลค่าของ Bitcoin ล่าสุดอยู่ที่ 11,305 เหรียญต่อ BTC
ที่มา - @realDonaldTrump
....Similarly, Facebook Libra’s “virtual currency” will have little standing or dependability. If Facebook and other companies want to become a bank, they must seek a new Banking Charter and become subject to all Banking Regulations, just like other Banks, both National...
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) July 12, 2019
...and International. We have only one real currency in the USA, and it is stronger than ever, both dependable and reliable. It is by far the most dominant currency anywhere in the World, and it will always stay that way. It is called the United States Dollar!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) July 12, 2019
Comments
บิทคอย => บิตคอยน์
สวิสเซอร์แลนด์ => สวิตเซอร์แลนด์
Warren Buffet ก็ถูกใจสิ่งนี้
แหม่เห็นวิสัยทัศน์ชัดเจน ระหว่างผู้นำจีน กับผู้นำสหรัฐ ปล่อยไว้นานเรื่องเทคโนโลยีอาจแพ้จีนก็ได้ การป้องกันก็แค่หยุดได้ชั่วคราว แต่การเอาชนะในระยะยาวคือ การสร้างโอกาสแข่งขันให้เอกชน ถึงเงินคริปโตจะยังมีข้อกังวล และปัญหาอำนาจรัฐอีกเยอะ แต่มันก็คือทิศทางของอนาคตที่ยากจะปฏิเสธ เพียงแต่หาแนวทางที่เหมาะสมให้ควบคุมได้ ไม่สร้างปัญหาให้กับรัฐ แล้วปล่อยให้เอกชนดำเนินการภายใต้กรอบการดูแลดูน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
วิสัยทัศน์ของทั้งสองท่านก็ไปในทางเดียวกันนี่ครับ
ทางจีนก็พยายามสกัดบิตคอย์นอยู่เห็นผ่าน ๆว่าอ้างเรื่องการใช้พลังงาน
ส่วนคนที่สนับสนุนบิตคอย์น(หรืออื่น ๆ)ถ้าไม่อยากให้รัฐเข้ามาควบคุม
ก็ต้องแน่ใจว่าเกิดถ้าปัญหาอะไรขึ้นต้องแก้กันเองโดยไม่มีอำนาจรัฐเข้ามาช่วย
เรื่องพวกนี้ผมว่ารัฐบาลส่วนใหญ่ก็ต้องพยายามปกป้องเงินสกุลหลักของตัวเองก่อนอยู่แล้วครับ ส่วนจะทำอะไรอยู่เบื้องหลังอันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
จีนนี่ห้ามมี exchange crypto ในประเทศเลยนะครับช่วงปลายปี2017 นี่กวาดล้างระลอกใหญ่เลย ในขณะที่เมกายังมีได้แต่โดนกำกับดูแลอย่างเข้มงวด
สำหรับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลง คุณไม่ชอบมันได้ คุณต่อต้านมันได้ แต่คุณหยุดมันไม่ได้
ดอลล่า จะอยุ่ ได้ตลอด ไปไหม เห็นจีน พยายาม ดัน เงิน หยวน มา สุ็
อีกหน่อยเงินสกุลต่างๆ คงเป็นดิจิตอลหมดแล้ว แต่ผมก็ไม่ชอบเงินcrypto เหมือนกันนะ มันตรวจสอบไม่ได้ เป็นช่องว่างสำหรับสิ่งผิดกฎหมาย เป็นได้ชัดก็พวก ransomware
เห็นด้วยกับเรื่องการที่ต้องเข้าไปอยู่ในระบบเดียวกับธนาคาร ถ้าเกิดว่า facebook อยากจะดำเนินธุรกรรมเหมือนเป็นธนาคาร
ผมเห็นด้วยเรื่องการที่จะทำอะไรแบบนี้ควรทำแบบเดียวกับระบบธนาคารที่รัฐนั้นๆ สามารถควบคุมได้ ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นการตั้งประเทศและระบบเงินขึ้นมาใหม่ ทั้งๆ ที่บริษัทที่ทำก็ตั้งอยู่ในประเทศนั้นๆ เพราะไม่อย่างนั้น ระบบการเงินของทั้งโลกอาจจะมีปัญหาได้ ถ้าปล่อยให้เกิดความอิสระเกินไป
ส่วนเรื่องสกุลเงินออนไลน์นั้นผมเห็นด้วยแต่ควรเป็นอะไรที่รัฐควบคุมได้เล่นกัน
The Dream hacker..
เห็นด้วยเรื่องการควบคุมนะครับ อยากให้ทำแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วด้วยเพราะปล่อยแล้วเละมาก
ถ้าโดนไวรัสเรียกค่าไถ่ โอนเงินมาบัญชี้นี้นะ ก็จะแกะรอยได้ คนอื่นก็จะไม่กล้าทำ
แต่พอมีเงินดิจิตอลก็แกะรอยไม่ได้
การมองแต่ประโยชน์ อย่างเหล้ามองว่าทำให้ลืม แต่โทษของมัน มีมากกว่ารึเปล่า
แกะรอยได้นะครับ บัญชีไหนโอนไปบัญชีไหน แต่ส่วนใหญ่ไม่มีคุมการเปิดบัญชีเลยไม่รู้ใครเป็นคนเปิดบัญชี อยู่ที่ออกแบบระบบครับ ถ้าระบบลงทะเบียนเพื่อใช้งานมีการยืนยันตัวตนก็ระบุคนได้ครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว