เทรนด์บริษัทใหญ่ยุคใหม่คือการ transform องค์กรให้เป็นดิจิทัล และพัฒนากำลังคนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เราจึงเห็นเทรนด์ที่บริษัทใหญ่ๆ เข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีรายเล็กที่มีความยืดหยุ่นและปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ง่ายกว่าองค์กรใหญ่
แต่เอไอเอส มองมุมต่าง คือแทนที่จะเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพภายนอกเพียงอย่างเดียว ก็ใช้วิธีกระตุ้นพนักงานภายในให้ทำสตาร์ทอัพเสียเอง ผ่านการกระตุ้นแนวคิด Innovative Culture ชู "นวัตกรรม" เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กร พร้อมจัดตั้งหน่วยงานใหม่คือ NEXT เข้ามาหนุนไอเดียที่เกิดจากพนักงานของตัวเอง ให้สำเร็จออกเป็นผลงานที่สามารถสร้างรายได้ได้จริง
อราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม หรือ NEXT กล่าวว่า การจะปรับเปลี่ยนองค์กรจาก Mobile Operator ไปสู่ Digital Life Service Provider ได้นั้น นอกจากจะต้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้บริการลูกค้าแล้ว หัวใจหลักในการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ก็คือทรัพยากรบุคคลที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนองค์กร
ด้วยเหตุนี้ เอไอเอสจึงตั้งองค์กรภายในขึ้นมาคือ NEXT หรือ Novel Engine Execution Team ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางกระตุ้นให้พนักงานคิดไอเดียใหม่ เปิดกว้างให้พนักงานออกไอเดียทำธุรกิจที่แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเอไอเอสโดยตรง แต่ถ้าตอบโจทย์ pain point ลูกค้า ก็สามารถเข้าโครงการได้ โดยบริษัทจะสนับสนุนงบประมาณให้ทีมสร้างโปรโตไทป์ ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ทดลองใช้งานและพัฒนาสู่เวอร์ชั่นจริงพร้อมออกสู่ตลาด
ที่ผ่านมา มีพนักงานส่งผลงานเข้าร่วมพิจารณากว่า 200 ไอเดีย โดยมีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับทุนไปขยายผลต่อ จำนวน 11 โครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทีม School Van Clever ที่เป็นพนักงานเอไอเอสจากภาคใต้ รวมตัวกันทำฮาร์ดแวร์ดูแลความปลอดภัย ติดตั้งในรถตู้รับส่งนักเรียน โดยฮาร์ดแวร์มาพร้อมกล้องวงจรปิด ให้ครูและผู้ปกครองติดตามดูความปลอดภัยของเด็กๆ ขณะเดินทางได้ผ่านแอพพลิเคชั่น และยังมีเซนเซอร์จับอุณหภูมิและความเคลื่อนไหวในกรณีที่ยังมีเด็กตกค้างอยู่ในรถตู้โดยที่คนขับไม่รู้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว
ทางทีมงาน School Van Clever ระบุว่าได้ทดลองใช้งานมาก่อนหน้านี้ที่โรงเรียนในหาดใหญ่ และนครศรีธรรมราช ได้รับผลตอบรับที่ดี เตรียมขยายผลไปยังโรงเรียนอื่นๆ ต่อไป เบื้องต้นจะยังโฟกัสที่ภาคใต้ก่อน เพราะทีมงานเป็นคนท้องถิ่นทั้งหมด ตั้งเป้าปีแรกจะมีการติดตั้งฮาร์ดแวร์ในรถตู้รับส่งนักเรียน 250 คัน
อราคิน หัวหน้าหน่วยงาน NEXT พูดถึงกลยุทธ์การปรับตัวในครั้งนี้ว่า NEXT คือทีมขับเคลื่อนนวัตกรรมในองค์กร แต่ได้นิยามกระบวนการใหม่ว่าเป็นความสามารถในการปรับตัว และสวมหัวใจคนทำงานแบบสตาร์ทอัพให้ได้ โดยโครงการใหม่นี้จะทำต่อเนื่องทุกๆ ปี และจะปรับกลยุทธ์ใหม่ตลอดเพื่อตามให้ทันเทรนด์เทคโนโลยีโลก