Samsung Galaxy A80 เปิดตัวในไทยไปแล้ว ราคาเต็มอยู่ที่ 21,990 บาท ถือเป็นมือถือซีรีส์ A ที่ราคาแตะหลัก 2 หมื่นตัวแรก นอกจากนี้ยังเป็นมือถือรุ่นแรกของซัมซุงที่เป็นกล้องหมุนได้หน้าหลังตามสมัยนิยมอีกด้วย ซึ่ง Blognone จะรีวิวให้เห็นชัดๆ ว่า กล้องหมุนได้ของ Galaxy A80 ทำอะไรได้บ้าง
ด้วยความที่เป็นกล้องหมุนได้ ทำให้หน้าจอไม่ต้องมีรูกล้อง เป็นรูปแบบ New Infinity ได้พื้นที่หน้าจอเต็มๆ, ตัวเครื่องยังหนาและใหญ่มากๆ ใช้งานมือเดียวลำบาก เพราะใช้พื้นที่ไปกับกลไกกล้อง โดยสีที่ได้มารีวิวคือ Ghost White
ใน Galaxy A80 ไม่มีปุ่ม Bixby เหมือน Galaxy S โดยปุ่มเปิด-ปิด และล็อกหน้าจอจะอยู่ฝั่งขวามือของเครื่อง ปุ่มเพิ่มและลดเสียงอยู่ด้านขวาของเครื่อง ซึ่งถือว่าเป็นการจับถือที่คนใช้มือถือจะคุ้นเคยมากที่สุด ซึ่งส่วนตัวใช้ Galaxy S10 อยู่ มือไปโดนปุ่ม Bixby บ่อยทำให้เกิดความหงุดหงิด
Galaxy A80 มีกล้องหลังสามเลนส์ คือ กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F2.0, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้ภาพกว้าง 123 องศา, F2.2, และกล้องวัดระยะลึก ToF (Time Of Flight) และแฟลช LED
กล้องทั้งสามสามารถหมุนกลับมาข้างหน้าได้เมื่อเปิดโหมดกล้องหน้า นั่นหมายความว่าความละเอียดของภาพที่ได้จากกล้องหน้าและกล้องหลังจะมีคุณสมบัติเท่ากัน
รูปกล้องหลัง โหมด Photo ธรรมดา ไม่เปิดโหมด AI
รูปกล้องหน้า โหมดธรรมดา ไม่เปิดบิวตี้
กล้องวิดีโอใน Samsung Galaxy A80 ยังสามารถสลับถ่ายได้ทั้งกล้องหน้าและหลังโดยไม่ต้องกดหยุดวิดีโอ หรือนำไปตัดต่อทีหลัง แต่สามารถใช้ได้เฉพาะโหมดถ่ายวิดีโอธรรมดาเท่านั้น ไม่สามารถใช้ในโหมดถ่ายวิดีโอ Live Focus ได้ ดูตัวอย่างได้จากคลิปด้านล่าง
ในคลิปกลไกการทำงานของกล้องหมุนได้ เผยแพร่โดยวิศวกรจีน เขาแกะเครื่องและลองใช้งานกล้องหมุนได้ให้ดูให้เห็นชัดๆ ว่ามันทำงานอย่างไร จะเห็นได้ว่าใช้ตัวดันกล้องที่อยู่ด้านข้างดันทั้งสองฝั่ง เพื่อยกกล้องทั้งสามตัวให้สูงเพื่อหมุนมาเป็นกล้องหน้าได้
This is the mechanical structure of the Galaxy A80 camera, which is very complicated but takes up space.Video from a Chinese Samsung engineer pic.twitter.com/YTdLfyqIFI
— Ice universe (@UniverseIce) July 3, 2019
แม้ Galaxy A80 จะใช้กล้องชุดเดียวกันเป็นทั้งกล้องหน้าและหลัง แต่ที่ระดับความกว้างสุดนั้น ใช้งานได้เฉพาะเมื่อทำงานเป็นกล้องหน้าเท่านั้น ทำให้การใช้งานกล้องหน้าสามารถปรับได้ 3 ระดับ ขณะที่การใช้กล้องหลังสามารถใช้งานได้ 2 ระดับเท่านั้น
ฟีเจอร์กล้องหมุนได้ทำให้ความแข็งแรงของตัวโทรศัพท์ลดลง หากเกิดเหตุกระทบกระแทกระหว่างกล้องกำลังหมุนก็อาจจะสร้างความเสียหายต่อกลไกได้ ตัวเครื่องเองมีขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก การใช้งานก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
ซ้ายกล้องหลัง ขวากล้องหน้า
รูปกล้องหน้าสามระดับ Galaxy A80 จากแคบไปกว้าง
ภาพกล้องหลัง ระยะปกติ
ภาพกล้องหลัง ระยะกว้าง wide
รูปโหมดธรรมดา ไม่เปิดโหมด AI
โหมดถ่ายภาพกลางคืน
รูปโหมด Live Focus กล้องหลัง
Live Focus ไม่ทำเบลอหลัง
โหมด Live Focus ดันขีดเบลอหลังจนสุด
พลังแบตเตอรี่ของ Galaxy A80 ให้มา 3,700mAh ถือว่าน้อยกว่าที่คาดหวังจากความใหญ่และหนักของเครื่อง เพราะขนาดใน Galaxy A70 ก็ยังให้มาถึง 4,500mAh แต่จากการทดสอบใช้งานแบบคร่าวๆ ไม่หนัก เพียงแค่ถ่ายรูป ส่งข้อมูลรูป เช็กอีเมล เล่นโซเชียลและ YouTube ก็สามารถใช้งานได้ทั้งวัน
Galaxy A80 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9 ซึ่งเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดในตอนนี้ ผู้อ่านสามารถอ่านฟีเจอร์ของ Android 9 ได้ ที่นี่ ซึ่งฟีเจอร์หลักๆ เช่น ควบคุมเวลาใช้งานมือถือ, ใช้นิ้วปาดจากด้านล่างแทนปุ่ม back, ปุ่มโฮม แต่ถ้าใช้งานไม่ถนัดก็สามารถตั้งค่าให้กลับมาเป็นปุ่มกดบนหน้าจอแบบเดิมได้
จากการรันเบนช์มาร์คใน Geekbench ในด้านต่างๆ ของ Samsung Galaxy A80 ได้ผลลัพธ์ดังนี้
จากการลองใช้งาน มองว่า Samsung Galaxy A80 เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานถ่ายคลิป บล็อกเกอร์ คนชอบทำ vlog เพราะสลับกล้องหน้ากล้องหลังระหว่างถ่ายวิดีโอได้ และนี่คือสิ่งที่กล้องหมุนหน้าหลังตอบโจทย์การใช้งานด้านนี้ได้ดี ยิ่งบวกกับฟีเจอร์กันสั่นแล้วยิ่งทำให้ตอบโจทย์คนทำ vlog แบบง่ายๆ ได้ แต่ยังติดที่ราคาอาจจะสูงไปนิดสำหรับซัมซุงซีรีส์ A คือ 21,990 บาท และความทนทานของกลไกลกล้องหมุนที่อาจจะต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
Comments
, และ ?
ไม่รองรับ SD ?
เช็ค => เช็ก
Andriod => Android
ประโยคหน้าเป็น "ข้อดี" ประโยคหลังเป็น "ข้อเสีย" ใช้คำว่า "นอกจากนี้" มันฟังดูแปลกๆ ลองเปลี่ยนเป็น
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
มันเป็นปุ่มเปิด/ปิด/ล็อกหน้าจอไม่ใช่เหรอครับ
ขนาดเอากล้องหลังถ่าย ภาพยังฟุ้งๆไม่ชัดเลย =__=
รีวิวยังไงให้คนไม่ซื้อ