WhatsApp ประกาศจำนวนผู้ใช้แบบแอคทีฟในอินเดียมีจำนวนถึง 400 ล้านคนแล้ว ถือเป็นการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ที่น่าสนใจเนื่องจากเมื่อราวสองปีที่แล้ว WhatsApp ยังมีผู้ใช้ในอินเดียอยู่ที่ 200 ล้านคน
ปัจจุบัน จากรายงานของ Counterpoint ระบุว่า อินเดียมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนราว 450 ล้านคน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับตัวเลข 400 ล้านคนของ Facebook ก็พอจะกล่าวได้ว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนในอินเดียเกือบทั้งหมดใช้ WhatsApp ทำให้ WhatsApp เป็นแอปแชทที่แข็งแกร่งมากในอินเดีย ส่วนแอปที่พอจะเทียบเคียงได้ก็คือ Facebook Messenger แต่ก็ยังถือว่ามีส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับ WhatsApp
อินเดียถือเป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ ดังนั้นมือถือที่ขายในประเทศจะค่อนข้างราคาไม่แพง โดยเฉพาะ KaiOS ที่เป็นระบบปฏิบัติการฟีเจอร์โฟนนั้นเป็นที่นิยมมากในอินเดีย และ WhatsApp ก็เพิ่งออกแอปใน KaiOS อย่างเป็นทางการ แต่ก่อนหน้านั้นก็มีแอปสำหรับมือถือ KaiOS บางรุ่นบ้างแล้ว
ปัจจุบัน ผู้ใช้ WhatsApp แบบแอคทีฟทั่วโลกอยู่ที่ราว 1,500 ล้านคน และอินเดียยังคงเป็นประเทศที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ WhatsApp จึงทำให้ Facebook ออกฟีเจอร์ WhatsApp โดยเริ่มต้นที่อินเดียหลายอย่าง เช่น ระบบจ่ายเงินบนมือถือ WhatsApp Pay และการเป็นแอปแชทที่นิยมกันมากก็ส่งผลให้ WhatsApp ต้องมีฟีเจอร์ตรวจสอบข่าวปลอมให้ใช้งานในอินเดียด้วย
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก WhatsApp
Comments
ปัจจุบัน ผู้ใช้ WhatsApp แบบแอคทีฟทั่วโลกอยู่ที่ราว 1,500 ล้านคน
เทียบกับ Line ที่ 164 ล้าน (https://www.blognone.com/node/111008)
ต่างกันเยอะมากกกกกก
. . . แต่ รอบข้างไม่มีใครใช้ WhatsApp เลยสักคน (ทั้งๆ ที่อยากใช้มาก แต่ลงแล้วไม่รู้จะคุยกะใคร 555+)
Line เดี๋ยวนี้ รกเหลือเกิ๊นนน -*-
เป็นเรื่องที่แปลกมาก เมื่อ8-9 ปีก่อน ใครๆก็ใช้ whatapp กัน ขนาดผมยังต้องลงไว้ในเครื่อง ทั้งๆที่ไม่ได้คุยกับใครเท่าไหร่ line ทำยังไงถึงกวาดล้าง whatapp ออกไปจากประเทศไทยได้ มีกรณีศึกษาให้อ่านหรือเปล่า อยากอ่าน
น่าจะเพราะ sticker ถูกใจคนไทยครับ
สมัยนั้น whatsapp มีข่าวว่าจะเก็บเงินครับ คนก็เลยหนีมา line เป็นเพราะสติกเกอร์โดนใจด้วย
ผมคิอว่าเพราะมัน"ฟรี"นี่แหละครับ ใครใช้ iOS ตอนนั้น ต้องซื้อมาคนละ 1$ ฝั่งดรอยนี่ผมไม่แน่ใจ แถมพอตอนที่ line ออกมาแล้วฝั่ง whatapp ยังมีปัญหาเรื่องแหล่งรายได้เงินทุนอยู่เลย จนกระทั่ง Facebook มาซื้อกิจการนี่แหละ ส่วน line ที่บอกว่าฟรีแต่ฐานเดิมเขามาจากบริษัทที่มีรายได้จากธุรกิจสื่อสารอยู่แล้ว แถมมีการขาย sticker เพิ่อหารายได้มาตั้งแต่ต้นอีก ซึ่ง model นี้ใช้กับฝั่งอเมริกาที่เน้นความ clean ไม่ได้เลย #เอวัง
ถ้าจำไม่ผิด สมัยก่อน WhatsApp บน iOS คิดค่าซื้อแอป 1 ดอลลาร์ครับ (สมัยนั้นผมเก็บตอนฟรี) ส่วน Android คิดค่าใช้จ่ายปีละ 1 ดอลลาร์ แล้วตอนหลัง iOS ก็ปล่อยแอปฟรีแล้วเปลี่ยนมาคิดรายปีแบบ Android
ผมว่ามีหลายๆอย่างประกอบเข้าด้วยกัน นอกจากที่ข้างบนๆกล่าวไปแล้ว ยังมีเหตุผลของสิ่งต่อยอดจากไลน์ที่เป็นที่นิยมและถูกจริตคนไทย
เช่น
- ช่วงยุคนั้นเกมส์จากไลน์อย่าง คุกกี้รัน บูมมาก กลุ่มวัยที่เล่นเกมส์นี้ก็จะใช้ไลน์ด้วย ยุคปัจจุบันก็ลุกลามไปถึงรุ่นพ่อแม่ด้วย
- แอพจากไลน์ก็เป็นที่นิยมใช้ อย่าง LINE Camera ยุคนั้นคนที่รู้จักใช้สมาร์ทโฟนใหม่ๆ ยังไม่รู้จักแอพแต่งภาพอื่นๆก็เริ่มจาก LINE Camera นี่แหละ
- LINE Official ก็มีส่วนหนึ่ง การมี LINE Official ก็ทำให้เกิดสติ๊กเกอร์แบบฟรีขึ้นมามากมาย มีสติ๊กเกอร์น่ารักๆ ฟรีๆให้ใช้ คนก็ยิ่งชอบ
- ต่อยอดไปถึงนอกโปรแกรมซึ่งเอาคาแรกเตอร์จากสติ๊กเกอร์ไปใช้อย่างชาญฉลาด มีทั้ง การ์ตูนอนิเมชัน, ของพรีเมี่ยมคาแรกเตอร์จากไลน์, แม้กระทั่งบัตรเครดิต เดบิต บัตรโดยสารต่างๆที่มีคาร์แรกเตอร์พวกนี้ไปปรากฏอยู่
ด้วยการต่อยอดอย่างชาญฉลาดมันทำให้ LINE ไปปรากฏอยู่ทุกที่ มันไม่ใช่แค่แอพแชท แต่วางตัวเองเข้าไปอยู่ในส่วนอื่นๆในชีวิตของผู้บริโภคด้วย
ต่างจาก WhatApp ซึ่งเป็นแอพแชท อย่างเดียว
ผมก็อยากกลับมาใช้ Whatsapp นะ จริงๆ ก็ใช้บ้าง คุยกับแฟน ^^
เอาจริงๆนะ ถ้านับแบบนี้เขารู้ได้อย่างไรว่า 1 บัญชีเท่ากับ 1 คนอ่ะครับ ถ้านับเป็นบัญชีผมไม่แปลกใจแต่นับเป็นคนนี่ไม่แน่นะ เพราคนนึงอาจใช้หลายบัญชี เพราะเอาไว้ติดต่อบุคคลหลายทาง
อยากใช้มากเลย WhatsApp ดูเรียบง่าย ไม่มีโฆษณาแปะอยู่เหนือห้องแชท
ในโทรศัพท์มีรายชื่อ 300 กว่ารายชื่อ โหลด WhatsApp มามีเพื่อนใช้อยู่ 3 คน เคยแชทถามนางเรื่องงานเหวี่ยงใส่เราอีก บอกให้เราแชทผ่านไลน์สิ WhatsApp เอาไว้คุยกับผัวฝรั่ง อ้าว!!!!
เชื่อว่าหลายคนอยากกลับไปใช้ whatapps แต่เมืองไทยมันโดน line กลืนไปจริงๆ
เคยลองพยายามใช้ app อื่นคุยกับคนในครอบครัว เริ่มคุยไปตอบกลับมาก็โอเคตามแผน แต่เวลาเค้าเริ่มคุยมาก็จะเป็น Line ทุกครั้งไป ลองอยู่เดือนนึงสรุปก็พ่ายแพ้ต่อ Line 5555
ปวดหัวมากฮะ คนในทีมมีทั้งใช้ Line, Skype, Whatsapp, Viber, Wechat....
ในเวลางานปกติไม่เท่าไหร่ จะปวดหัวเวลาเรืองด่วนนี่แหละ ต้องมาไล่หาว่าออนอยู่แอพไหน