AIS Fibre เปิดตัวบริการ Speed Toggle สำหรับสลับความเร็วดาวน์โหลดอัพโหลด หรือตั้งให้ความเร็วดาวน์โหลดหรืออัพโหลดสุดทางใดทางหนึ่งโดยไม่เกินความเร็วตามแพ็คเกจ
ล่าสุด AIS Fibre เพิ่มตัวเลือกใหม่ Overdrive ทั้งขาดาวน์โหลดและอัพโหลด โดยเอาความเร็วของขาดาวน์โหลดและอัพโหลดมารวมกัน เช่นใช้แพ็คเกจ 200/50 เมื่อเลือก Overdrive Download สามารถปรับสปีดเป็น 250/1 ได้เลยทันที เช่นกันหากเลือก Overdrive Upload ก็จะเป็น 1/250
บริการนี้สำหรับลูกค้าที่ใช้แพ็คเกจความเร็วดาวน์โหลด 100Mbps ขึ้นไปเช่นเดิม สามารถเข้าไปปรับได้ที่เว็บ myaisfibre
ที่มา - Saran Phaloprakarn
Comments
ปีหน้าปิดเพราะมันเป็นภาระระบบช่วงพีคเพราะทุกคนปรับเป็นโหลดหมด
มุกนี้ประจำ!!
AIS เคยเป็นแบบที่คุณว่าเหรอครับ?
เป็นกับเน็ตมือถือ pack unlimited แบบตำกัดความเร็ว ยกเลิกไปหมดและ
ถ้าอยู่อเมริกา ฟ้องกันสบายเลยฮะ
แล้วลูกค้าที่โดนแบบนี้ทำไงต่อไปอ่ะครับ
ของผมโปรเน็ต unlimited ก็ยังอยู่นะครับ แต่สมัครใหม่ไม่ได้แล้ว
อยู่ที่ต่อรองครับ โดยมากจะย้าย(บังคับ)
ให้ใช้แพ็คที่มีปริมาณไม่น้อยกว่าแพ็คตั้งต้นเดิม
เช่นตอนนั้นผมโดนบังคับให้ใช้ 300 นาที 3 กิ๊ก
บอกมีปริมาณเท่ากับตั้งต้นเดิม แต่ผมบอกไม่พอ
เพราะลูกค้าที่ใช้ swop นี่คือการใช้งานแต่ละเดือนไม่คงที่
เลยต่อรอง ขอ 800 นาที 7 กิ๊ก ไม่ให้ก็ย้าย
ฟลุ๊คได้มา (จริงๆคือ ระยะเวลาฉีกสัญญา
ที่เป็นประเด็นเพราะ ตอนนั้นต่อได้แปปเดียว
ต่อมายกเลิกเฉยยยย)
แต่พวกอันลิมิตที่ไม่ต่อสัญญาผมไฟท์แล้วไฟท์อีก
นี่จนปัญญาโดยจะเสนอ 10-15 gb fub 128
ด้วยราคาต่อเดือนที่ถูกมากๆ รวมแวทแล้วแค่
สองร้อยกว่าบาท
ผมบอกไม่เอาเลยปิดเบอร์ทิ้งเลย
เพราะผมเคยใช้พีคๆอยู่ที่ 20+
ฟังดๆ ดูก็เลวร้ายนะ ไม่ค่อยเห็นมีคนโพสท์เรื่องแนวนี้ของ ais เคยแนะนำคนที่อยากย้ายจากดีแทคไป ais แต่พอได้ยินเรื่องนี้แล้วความศรัทธาลดฮวบ
ความผิดพลาดภายในแต่ให้ลูกค้ารับกรรม อันนี้ถือว่าแย่
อย่างกับย้ายเกราะยานเอ็นเตอร์ไพร์ส
แพคเกจ eSports ไม่ได้แฮะ
ขอแค่ได้ Full Speed ในช่วง Peak ได้มั๊ย
ได้แค่ครึ่งเดียวประจำ บางวันเหลือ 20-30
พี่ทำเหมือนวิ่งเต็มสปีดได้ตลอดช่วง -_-
ถ้าแบบ Up หรือ Down บีบจนเหลือ 1 Mbps เนี่ย อีกฝั่งที่ได้ความเร็วมันไม่น่าจะเร็วได้แบบเต็มที่นะเนี่ย ยิ่ง speed สูงๆ Traffic มันก็คุยไปกลับมาซะส่วนใหญ่
ถ้าแค่ speed test ก็ยังได้อยู่นะครับ
ใช้งานจริงผมไม่รู้นะ
สำหรับผมนะ เรื่องสปีดเทสเนี่ย มันวัดแค่ว่าเน็ตเราได้ตามโปรหรือเปล่า แต่กับการใช้งานจริง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเซิร์ฟเวอร์ต้นทางว่าเขาปล่อยมาให้เท่าไหร่
อันน้้นมันแน่อยู่แล้วครับ
แบบนี้แสดงว่าน่าจะจำกัดความเร็วที่ layer 6(5?) ลงไปหล่ะมั้งครับ
ถ้าจำกัดความเร็วที่ layer 5(4?) ขึ้นไปนี่ TCP ACK ไม่น่าจะพอให้ค่าอีกฝั่งนึงพุ่งสูงได้ขนาดนั้น
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อันนี้ผมจำกัดเองผ่าน Chrome throttle น่ะครับ ?
หมายถึง 200/1mbps ปกติ 1mbps มันไม่พอให้ TCP ACK(ขา upload) ใช้จนฝั่ง 200mbps(ขา download) สามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่หน่ะครับ
TCP ACK ปกติน่าจะอยู่ที่ 1-2 packet(segment)=1500*1(หรือ2)bit(รวม PPPoE+header) ต่อ 1 ACK ซึ่งผมคิดว่ามันไม่น่าจะพอหน่ะครับ
ปล. กรณีนี้ไม่รวม SACK/RACK หรือเทคนิคอื่นๆในการ optimize ACK ของ TCP ครับ ซึ่งผมคิดว่าถึงจะ optimize แล้วก็ไม่น่าจะพอหน่ะครับ
ปล2. ผมความรู้งูๆปลา+จำไม่ค่อยได้ อย่าถือสากันนะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แจ้งเผื่อใครทราบข้อมูลเพิ่มว่า Chrome มันจำกัดความเร็วด้วยวิธีไหนน่ะครับ ?
ตอนอ่านครั้งแรกก็คิดเหมือนกันว่าการบีบด้านนึงเกินไป
อาจจะทำให้อีกด้านที่ต้องการใช้ ทำงานได้ไม่เต็มที่เอา
แต่ไม่แน่ใจสูตรคิดอัตราส่วนข้อมูลว่า ข้อมูลมาเท่าไหร่ถึงจะส่ง ack 1mb ได้
เช่นถ้าอัตราส่วน 1024:1 ก็จะคำนวนได้ว่าต้อง เกิน 1gb/1mb ถึงมีผล
เข้ามาแก้ความมั่วด้านบนของตัวเองครับ
ในกรณี TCP ACK เท่านั้นไม่ใช่ SACK/RACK และยังไม่รวม packet อื่นๆอย่าง SYN, SYN-ACK
ทุกๆ segment packet จะถูกกำหนดขนาดด้วย MTU ครับ ซึ่งขนาด MTU ของการเชื่อมต่อแบบ PPPoE จะมีขนาด 1492 bytes(ไม่ใช่ bits ตามที่มั่วไปด้านบน)
ขนาดของข้อมูลใน packet จึงอยู่ที่ MSS=1492-20(IP header)-20(TCP header)=1452 bytes
แต่ทุกๆ 1-2 TCP packet จะต้องการ TCP ACK ที่ฝั่งรับข้อมูลต้องส่งกลับมาในฝั่ง upload ซึ่งขนาดของ packet อยู่ที่ 40 bytes(หรือ 52 ถ้ามี timestamp)
ดังนั้นใน data link layer(?) ทุกๆการ download 11616 bits จะใช้ bandwidth ฝั่ง download 11936 bits และฝั่ง upload อย่างน้อย 160 bits (40 bytes ACK สำหรับ 2 segment|40/2*8) ครับ
จะได้ว่า 200mbps ใน application layer จะต้องการ B/W ใน data link layer(?) ฝั่ง download 200*1492/1452=~205.5mbps และฝั่ง upload 200*160/11616=~2.75mbps สำหรับ 2:1ACK หรือ 5.5mbps สำหรับ 1:1ACK ครับ
ปล. ความรู้ด้าน network ผมงูๆปลาๆครับ ไม่แน่ใจเรื่อง layer และยังไม่รวมถึง SACK/RACK ที่ไม่ได้ตามมานานแล้วอีกด้วย ยังไงคงต้องให้คนมีความรู้อย่างคุณ icez และคุณ iDan มาอธิบายเหมือนกันครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แวะมาติดตามครับ ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก้ชอบดูเรื่องน่าสน หาที่อื่นไม่ได้นอกจากใน Blognone
สรุปคร่าวๆ งี้ บีบจนเหลือ 1 Mbps ด้านหนึง ก็คือ น้อยเกิน b/w ไม่พอ ฮ่าๆ
แล้วแต่ว่า cap B/W ที่ layer ไหนด้วยหน่ะครับ ซึ่งจากที่คุณ hisoft ทดสอบคือพอครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คอมเม้นดีๆ มีคุณภาพ มีสาระเกี่ยวกับ IT ที่ดีกว่า blognone ใน facebook มีเยอะเลยครับ
แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราติดตามเพจไหน หรือกลุ่มไหนมากกว่า
ถ้ามีดีกว่านี้ก็แนะนำด้วยครับ
จะได้ว่า 200mbps ใน application layer จะต้องการ B/W ใน data link layer(?)
- ฝั่ง download 2001492/1452=~205.5mbps
- และฝั่ง upload 200160/11616=~2.75mbps สำหรับ 2:1ACK
- หรือ 5.5mbps สำหรับ 1:1ACK ครับ
ถ้าตัวเลขนี้ถูกต้อง เท่ากับว่าการบีบ upload เหลือ 1Mbps จะทให้ได้ความเร็ว d/l
-205.5÷2.75 = 74.72 Mbps ที่ 2:1 ack
-และ 205.5÷5.5 = 37.36 Mbps ที่ 1:1 ack เอง ?
แล้วแต่ว่าบีบความเร็วที่ layer ไหนด้วยครับ ตามที่คอมเมนต์ไปข้างต้น
layer ต่ำๆจำเป็นต้องคิดขนาด header ของ layer สูงๆ แต่ layer สูงๆไม่สนใจ header ของ layer ที่ต่ำกว่าครับ
เช่นที่ data link layer(?)เราจำเป็นต้องคำนวน IP header+TCP header แต่ที่ network layer(?)เราคำนวนแค่ TCP header(ACK=20bytes) ส่วน transport layer(?) เราคำนวนแค่ payload ดังนั้น ACK=0byte ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขอบคุณครับ ???
กระตุ้นรอบสอง?