Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

การใช้งานคลาวด์ในองค์กรทุกวันนี้ นอกจากความสะดวกในการเพิ่ม-ลดทรัพยากรต่างๆ เช่น ซีพียู ขนาดหน่วยความจำ หรือ ขนาดสตอเรจ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้องค์กรสนใจใช้งานคลาวด์คือความสะดวกในการบำรุงรักษา ที่ผู้ให้บริการคลาวด์ มักมีโครงสร้างชั้นดีสามารถให้บริการได้ต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดให้บริการ (zero downtime) โดยที่บริการต่างๆ ยังได้รับการซ่อมบำรุงต่อเนื่อง โดยเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยต่างๆ

No Description

แต่องค์กรจำนวนมากไม่สามารถใช้งานคลาวด์สาธารณะจากข้อจำกัด เช่น แบนวิดท์การเชื่อมต่อกับคลาวด์สาธารณะที่มีขนาดจำกัด มาตราฐานและความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย หรือกฎหมายและการกำกับดูแลบางอุตสาหกรรมไม่เอื้อให้ใช้งานคลาวด์สาธารณะ

การสร้างคลาวด์ภายในองค์กรจึงเป็นทางเลือกนึง โดยเฉพาะในกรณีที่องค์กรต้องการควบคุมระบบไอทีด้วยตัวเอง แต่การสร้างคลาวด์ด้วยตัวเองทั้งหมด สามารถสร้างความยุ่งยากในการจัดซื้อที่ต้องซื้อบริการจากผู้ผลิตหลายราย กระบวนการเซ็ตอัพ ที่กินเวลานานกว่าที่บริการจะเริ่มใช้งานได้จริง และกระบวนการซ่อมบำรุงที่ยุ่งยาก

Oracle Private Cloud Appliance คืออะไร

Oracle Private Cloud Appliance เป็นชุดเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสร้างคลาวด์ในองค์กร ด้วยระบบงานแบบบูรณาการ (Engineered System) เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ เน็ตเวิร์ค และสตอเรจ ไว้ล่วงหน้า (pre-integrated) และเดินสายเคเบิลไว้พร้อมใช้งาน (pre-cabled) กระบวนการติดตั้งมีเพียงการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า, เน็ตเวิร์ค, และการคอนฟิกระบบครั้งแรกภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ระบบก็พร้อมสำหรับการเปิดใช้ virtual machine ให้บริการได้ โดยออราเคิลรวมเอาซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่จำเป็นต่อการให้บริการคลาวด์ไว้ในชุด เช่น Self-service provisioning, Provisioning Quota และ Metering & Chargebacks เป็นต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม

ซัพพอร์ตโดยออราเคิลทุกระดับ ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์, ระบบปฎิบัติการ, เอนจินคอนเทนเนอร์, แอปพลิเคชั่น

ความครบถ้วนของซอฟต์แวร์ของออราเคิลทำให้องค์กรสามารถวางโครงสร้างทั้งหมดขึ้นมาถึงระดับแอปพลิเคชั่น โดยได้รับการซัพพอร์ตจากออกราเคิลเต็มรูปแบบ นับแต่ระบบปฎิบัติการ Oracle Linux, เอนจินสำหรับ Docker, Kubernetes, Ansible, และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ทั้งของออราคิลเอง และจากผู้ผลิตอื่นที่สามารถรันบน เอนจินของออราเคิลได้

แอปพลิเคชั่นหลักๆ ของออราเคิล อย่าง Oracle Database, Oracle WebLogic, หรือ Oracle Tuxedo ล้วนซัพพอร์ตการใช้งานรูปแบบคอนเทนเนอร์ทั้งสิ้น องค์กรสามารถพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้อยู่บนแพลตฟอร์ม Java ซัพพอร์ตการใช้งานแบบคอนเทนเนอร์โดยออราเคิลเช่นเดียวกัน

สำหรับการพัฒนายุคใหม่ที่มักสร้างคลัสเตอร์ Kubernetes ทางออราเคิล Oracle Container Services ที่ทำงานเข้ากับ Kubernetes ได้อย่างสมบูรณ์ โดยได้รับการรับรองจาก Cloud Native Computing Foundation (CNCF) ทั้งหมดทำให้ออราเคิลสามารถพาลูกค้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ทุกระดับตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงแพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชั่น

No Description

ระบบรองรับการสร้างศูนย์ข้อมูลสำรองในตัว และย้ายโหลดได้จากหน้าจอคอนโซล

ความได้เปรียบของ Oracle Private Cloud Appliance ยังมีอีกหลายข้อ เช่น

  • ขยายระบบรองรับอนาคตได้ ระบบออกแบบให้รองรับโหนดประมวลผล (compute note) ได้ตั้งแต่ 2 โหนดจนถึง 25 โหนด รวม 1,200 คอร์ต่อตู้แร็ค แต่ละโหนดคอนฟิกแรมได้สูงสุด 1.5TB
  • ย้ายจากโครงสร้างเดิมสะดวก ออราเคิลเตรียมเครื่องมือสำหรับการย้ายโหลดประมวลผลจากโครงสร้างเดิม เช่น VMware เข้ามาใน Oracle Private Cloud Appliance ได้อย่างรวดเร็ว
  • คอนฟิกเน็ตเวิร์คได้เต็มรูปแบบ ไม่ต้องเข้าถึงตัวตู้ ระบบทั้งหมดใช้ software-defined network (SDN) ทำให้สามารถคอนฟิกเน็ตเวิร์คเพิ่มเติม แยกเน็ตเวิร์ตสำหรับผู้ใช้แต่ละส่วนออกจากกันโดยไม่ต้องปรับการเชื่อมต่อใหม่อีก
  • เชื่อมต่อกับระบบสตอเรจเดิมได้ทันที Oracle Private Cloud Appliance ใช้งานได้กับระบบสตอเรจหลายรูปแบบ ทั้ง Oracle ZFS ที่มาในชุด, NFS, iSCSI, และ Fibre Channel จากผู้ผลิตอื่น
  • ประหยัดค่าไลเซนส์ซอฟต์แวร์อื่น เซิร์ฟเวอร์ที่รันบน Oracle Private Cloud Appliance จะได้รับสิทธิ์ Trusted Partitions ทำให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ของออราเคิลโดยใช้ไลเซนส์ตามจำนวนคอร์ของ virtual machine ไม่ใช่จำนวนคอร์ทั้งหมดในเครื่อง
  • ความปลอดภัยสูง รองรับมาตรฐาน PCI-DSS
  • บริหารจัดการได้ง่าย ทั้งชุดตั้งแต่ ฮาร์ดแวร์, ระบบปฏิบัติการ, และ virtual machine ทำให้ออกแบบและทำ DR (disaster recovery) ได้จากเครื่องมือเดียวโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • เร่งความเร็วการนำบริการออกสู่ตลาด การทำงานแบบ DevOps มี template ที่ช่วยให้ deployment ทั้งแบบ IaaS และ PaaS รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับทั้ง Docker, Kubernetes, และ Ansible

การสร้างคลาวด์ในองค์กรเป็นเส้นทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่สำคัญและจำเป็นต่อการรองรับความเปลี่ยนแปลงที่มีแต่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต Oracle Private Cloud Appliance เปิดทางให้องค์กรสามารถสร้างคลาวด์ในองค์กรได้ใกล้เคียงกับคลาวด์สาธารณะ สามารถนำระบบขึ้นใช้งานจริงได้ในเวลาอันรวดเร็ว และขยายระบบเพิ่มเติมไปกับองค์กรได้ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ oracle.com/pca หรือให้ติดต่อตัวแทนของออราเคิลได้ทาง LINE ตาม QR ด้านล่างนี้

No Description

นอกจากนี้ท่านที่สนใจสามารถพบกับเทคโนโลยี PCA และ Infrastructure Modernisation ในงาน Oracle Systems Advantage 11 ก.ย.นี้ ที่ รร. Renaissance สนใจลงทะเบียนได้บนเว็บ Oracle

Get latest news from Blognone