Oracle รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน มีรายได้รวม 14,059 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวเวลาเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 3,151 ล้านดอลลาร์
บริษัทมีรายรับผูกพันตามสัญญาคงเหลือที่ยังไม่เป็นรายได้ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์, รายได้เฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับคลาวด์ (IaaS กับ SaaS) เพิ่มขึ้น 24% เป็น 5.9 พันล้านดอลลาร์ มาจาก Infrastructure 2.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 52% และ Application 3.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10%
JavaFX เป็นความพยายามของ Sun/Oracle ที่จะสู้กับ Flash ในยุคนั้น เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ต้องเปิดเป็นโครงการโอเพนซอร์ส OpenJFX โดยมีบริษัท Gluon รับไปพัฒนาต่อ และถูกถอดออกจาก Oracle JDK ตั้งแต่เวอร์ชัน 11 ในปี 2018
อย่างไรก็ตาม JavaFX เวอร์ชันเดิมยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของ Java SE 8/JDK 8 รุ่นมหาอมตะนิรันดร์กาล เพราะ Oracle ยังคงซัพพอร์ต Java SE 8 ต่อไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ลูกค้ายังไม่ยอมย้ายออก (ล่าสุดคือถึงปี 2030 สำหรับลูกค้าจ่ายเงิน Extended Support)
Oracle ออก Java 23 ซึ่งเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะสั้น 6 เดือน (LTS ตัวล่าสุดคือ Java 21)
Java 23 มีของใหม่ที่สำคัญคือ ปรับโหมดการทำงานของ Z Garbage Collector (ZGC) มาใช้ generational mode เป็นค่าดีฟอลต์ หลังจากเริ่มทดสอบมาตั้งแต่ Java 21 ผลคือประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นในเกือบทุกกรณี ส่วนโหมดการทำงานแบบเดิมที่เรียกว่า non-generational จะถูกถอดออกในอนาคตระยะยาวต่อไป
ฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นๆ ยังมีสถานะเป็นพรีวิว เช่น Primitive Types in Patterns, Module Import Declarations , Flexible Constructor Bodies, Class-File API, Vector API, Scoped Values, Structured Concurrency เป็นต้น
Larry Ellison ซีทีโอของออราเคิล เล่าถึงความพยายามซื้อชิปกราฟิกจาก NVIDIA ว่าเขาต้องไปกินข้าวกับ Elon Musk และ Jensen Huang พร้อมกับขอให้ NVIDIA รับเงินค่าชิปกราฟิกไปอีกเยอะๆ พร้อมกับระบุว่าคำขอร้องได้ผล
ออราเคิลค่อนข้างประสบความสำเร็จจากการให้บริการคลาวด์สำหรับปัญญาประดิษฐ์ หลังจากปีที่ผ่านมาให้บริการคลาวด์กับไมโครซอฟท์
ปีที่ผ่านมาชิป NVIDIA H100 มีปัญหาการส่งมอบล่าช้าพอสมควร โดยชิป H100 นั้นอาจจะต้องรอสินค้านานถึง 6 เดือน แม้ในช่วงหลังระยะเวลารอคอยเริ่มลดลงจนเหลือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แต่ชิป Blackwell รุ่นล่าสุดกลับประสบปัญหาส่งมอบล่าช้าเช่นกัน
Oracle และ Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวบริการ Oracle Database@AWS ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถใช้งานฐานข้อมูลอัตโนมัติของ Oracle ได้บนโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการ และบริการ Oracle Exadata Database Service บน AWS ทำให้โครงสร้างของ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ทำงานร่วมกับ AWS ได้อย่างต่อเนื่อง
Larry Ellison ประธานและซีทีโอ Oracle กล่าวว่าลูกค้าจำนวนมากมีความต้องการใช้งานฐานข้อมูลแบบมัลติคลาวด์ เพื่อรองรับความต้องการนี้จึงเป็นความร่วมมือกับระหว่าง Amazon กับ Oracle ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานแพลตฟอร์มดีที่สุดที่ต้องการใช้งาน
Oracle รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม รายได้รวม 13,307 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ที่ 2,929 ล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจคลาวด์ทั้งหมด (IaaS กับ SaaS) เพิ่มขึ้น 21% เป็น 5,623 ล้านดอลลาร์ เฉพาะ IaaS 2.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 45% และ SaaS 3.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% ส่วนรายรับผูกพันตามสัญญาคงเหลือที่ยังไม่เป็นรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์
AIS จับมือกับ Oracle ให้บริการไฮเปอร์สเกลคลาวด์ครั้งแรกในไทยบน AIS Cloud โดยพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 1 ปี 2025
บริษัท Azul Systems Inc. ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Java โดยทำ JVM ของตัวเองมาแข่งกับเวอร์ชันของ Sun/Oracle เปิดเผยผลสำรวจความเห็นผู้เชี่ยวชาญและประกอบอาชีพสาย Java ทั่วโลกประมาณ 660 คน มี 86% ระบุว่ากำลังพยายามย้ายออกจาก Oracle Java ด้วยเหตุผลเรื่องค่าใช้จ่าย
หลังจากเมื่อปี 2023 Red Hat มีนโยบายปิดกั้นการเข้าถึงซอร์สโค้ดของ RHEL จากสาธารณะ ต้องเป็นลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ถึงเข้าได้ เพื่อบีบให้ดิสโทรทางเลือกของ RHEL นำซอร์สโค้ดไปใช้งานได้ยากขึ้น (ตามสัญญาอนุญาตโอเพนซอร์ส Red Hat ต้องเปิดซอร์สโค้ดของ RHEL แต่ไม่มีระบุวิธีการว่าต้องเป็นทางใด ดังนั้น Red Hat ไม่ทำผิดสัญญา แต่ทำให้นักพัฒนารายอื่นลำบากกว่าเดิม)
เมื่อต้นเดือนนี้ Oracle ออก MySQL 9.0 มาแบบเงียบๆ โดยเรียกว่าเป็น "Innovation Release" ที่เน้นฟีเจอร์ใหม่ ยังไม่เน้นการใช้งานในระดับโปรดักชัน และออกมาขนานกับ MySQL 8.0.38 และ 8.4.1 LTS ที่ใช้งานอยู่เดิม
ฟีเจอร์ใหม่ของ MySQL 9.0 เองก็มีไม่เยอะนัก มีเพียงการแก้ไขบั๊กเล็กๆ น้อยๆ หลายจุด ฟีเจอร์เด่นที่เพิ่มเข้ามาอยู่ในเวอร์ชัน HeatWave ที่ต้องจ่ายเงินเท่านั้น เช่น การรองรับตัวแปรประเภท Vector และ การเขียนรูทีนด้วย JavaScript Stored Programs
Oracle เปิดเผยในช่วงแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมา ว่าบริษัทได้ปิดส่วนธุรกิจโฆษณาแล้ว ซึ่งกระทบต่อรายได้ตลอดปีการเงินประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้านี้ธุรกิจโฆษณาทำเงินให้ Oracle ในปี 2022 ถึงประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์
Oracle เพิ่มส่วนธุรกิจบริการด้านโฆษณามากว่าสิบปี และซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องมาเสริมหลายบริษัท ที่โดดเด่นคือ Datalogix ในปี 2014 ซึ่งมูลค่าดีลประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์
Oracle ประกาศด้านความร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ทีเดียวทั้งสองรายใหญ่คือ Microsoft Azure และ Google Cloud มีรายละเอียดดังนี้
โดยส่วนของไมโครซอฟท์นั้น Oracle ประกาศขยายความร่วมมือจากเดิม เพื่อให้แพลตฟอร์ม Microsoft Azure Al มาใช้คลาวด์ของ Oracle สำหรับรองรับความต้องการของ OpenAI บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ไมโครซอฟท์เป็นผู้ลงทุนและให้ความร่วมมือด้านคลาวด์ประมวลผลโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ Oracle เคยประกาศความร่วมมือกับ Azure มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี
Oracle รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดเดือนพฤษภาคม มีรายได้รวม 14,287 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 3,143 ล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจคลาวด์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20% เป็น 5,311 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น IaaS 2 พันล้านดอลลาร์ และ SaaS 3.3 พันล้านดอลลาร์ เฉพาะ Fusion Cloud ERP เพิ่มขึ้น 14% เป็น 0.8 พันล้านดอลลาร์ และ NetSuite Cloud ERP เพิ่มขึ้น 19% เป็น 0.8 พันล้านดอลลาร์
เว็บไซต์ VentureBeat รายงานข่าวว่า Arvind Krishna ซีอีโอของ IBM ตอบคำถามในงานสัมมนา Think 2024 ของบริษัทเอง ที่เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์โอเพนซอร์ส Granite โดยเขาชี้ว่า Granite เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์เพียงไม่กี่ตัว ที่ใช้สัญญาอนุญาตโอเพนซอร์สที่แท้จริง (กรณีนี้คือ Apache license)
Krishna ย้ำว่าสัญญาอนุญาตแบบเปิดอื่นๆ ที่บริษัทต่างๆ นิยมใช้งานนั้นไม่ใช่โอเพนซอร์ส เป็นแค่เทคนิคการตลาดเท่านั้น และยืนยันว่าการใช้สัญญาแบบโอเพนซอร์สแท้ๆ เท่านั้นถึงจะช่วยดึงให้นักพัฒนาภายนอกเข้าร่วมได้อย่างจริงจัง
Oracle ประกาศออกฐานข้อมูล Oracle Database รุ่นเสถียรตัวใหม่ ที่เรียกเลขเวอร์ชันว่า... 23ai
สิ่งที่น่าสนใจคือ Oracle เปิดตัวฐานข้อมูลเวอร์ชันนี้รุ่นทดสอบมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเรียกมันว่า Oracle Database 23c ซึ่งตัว c ห้อยท้ายหมายถึงคำว่า "cloud" และใช้มายาวนานตั้งแต่ Oracle Database 12c ที่เปิดตัวในปี 2012
ฐานข้อมูลของ Oracle เริ่มใช้เลขเวอร์ชันแบบมีตัวห้อยครั้งแรกใน Oracle 8i (i = internet) แล้วขยับมาเป็น Oracle 10g (g = grid) และ Oracle 12c (c = cloud) สะท้อนถึงเทคโนโลยีการใช้งานฐานข้อมูลในแต่ละยุคสมัย
Oracle ออก Java 22 รุ่นซัพพอร์ตระยะสั้น 6 เดือน (Java 21 เป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาวนาน 2 ปี)
ของใหม่ที่สำคัญของ Java 22 คือ Unnamed Variables & Patterns เปิดให้ตั้งชื่อตัวแปรที่ถูกบังคับให้ต้องมี แต่ไม่ต้องเรียกใช้งาน เป็นสัญลักษณ์ขีดล่าง (_) แทนการต้องตั้งชื่อตัวแปรอะไรก็ได้สักอย่าง
จากภาพตัวอย่างคือตัวแปร order ไม่ถูกเรียกใช้งานจริง แต่ต้องประกาศ (แถมโดนคอมไพเลอร์ด่าซ้ำว่ามีตัวแปรไม่ใช้งาน) ในสเปกของ Java 22 เปิดให้ใช้ตัว _ เพื่อบอกอย่างเจาะจงว่าเป็นตัวแปรที่ไม่ต้องตั้งชื่อได้แล้ว
ออราเคิลแจ้งเตือนว่า macOS 14.4 รุ่นล่าสุดทำให้แอปจาวาจำนวนหนึ่งมีปัญหาบางกรณีจนทำให้แอปแครช หากองค์กรใดใช้แอปจาวาอยู่ให้ระวังการใช้งาน
ปัญหาเรื่องนี้เกิดจากแอปจาวานั้นอาจจะมีบางครั้งที่ไปพยายามเข้าถึงหน่วยความจำส่วนที่ห้ามใช้งานอยู่ เดิม macOS จะส่ง SIGBUS หรือ SIGSEGV ออกมา และแอปพลิเคชั่นสามารถรับ signal นี้และทำงานต่อไปได้ แต่ใน macOS 14.4 แอปเปิลกลับเปลี่ยนเป็น SIGKILL ที่ตัวโปรเซสทำอะไรไม่ได้
ออราเคิลระบุว่าไม่พบปัญหานี้ในเวอร์ชั่น early access ของ macOS 14.4 ทำให้ไม่สามารถแจ้งปัญหาให้แอปเปิลล่วงหน้า และตอนนี้ต้องรอแอปเปิลแก้บั๊ก โดยกระทบตั้งแต่แอป Java 8 จนถึงรุ่นล่าสุด
ที่มา - Oracle
Oracle รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ มีรายได้รวม 13,280 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,401 ล้านดอลลาร์
รายได้จากบริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 12% เป็น 9,963 ล้านดอลลาร์, รายได้จากไลเซนส์คลาวด์และไลเซนส์ออนพรีมิส ลดลง 3% เป็น 1,256 ล้านดอลลาร์, รายได้จากฮาร์ดแวร์ลดลง 7% เป็น 754 ล้านดอลลาร์ และรายได้ส่วน Services ลดลง 5% เป็น 1,307 ล้านดอลลาร์
Solaris ระบบปฎิบัติการยูนิกซ์ระดับตำนานที่เริ่มจากบริษัท Sun Microsystems และถูกออราเคิลซื้อไปเมื่อปี 2009 ส่วนตัว Solaris ที่มาด้วยกันก็เลิกพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2018 แต่จนตอนนี้ก็ยังมีองค์กรจำนวนหนึ่งใช้งานเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เป็นหัวใจของธุรกิจอยู่ และซื้อซัพพอร์ตจากออราเคิลอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดออราเคิลก็ประกาศขยายเวลาซัพพอร์ตอย่างเงียบๆ
ซัพพอร์ตของ Solaris นั้นมี 3 ระดับ คือ Premier ซ่อมบำรุงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตามปกติ, Extended ซัพพอร์ตแบบยืดอายุ, Sustaining ซัพพอร์ตระยะยาวแบบไม่มีกำหนดหมดอายุ
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา MySQL ประกาศเพิ่มฟีเจอร์การรันโค้ดภาษา JavaScript จากในฐานข้อมูลโดยตรง (stored programs) ลักษณะเดียวกับที่ Oracle Database ทำได้มาก่อนหน้านี้ (เวอร์ชัน 21c เป็นต้นมา)
Oracle รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน รายได้ 12,941 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,503 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 44%
รายได้จากบริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 12% เป็น 9,639 ล้านดอลลาร์, รายได้จากไลเซนส์คลาวด์และไลเซนส์ออนพรีมิส 1,178 ล้านดอลลาร์ ลดลง 18%, รายได้จากฮาร์ดแวร์ลดลงเป็น 756 ล้านดอลลาร์ และรายได้ด้วย Services อยู่ที่ 1,368 ล้านดอลลาร์
ออราเคิลประกาศลงนามข้อตกลงเป็นระยะเวลาหลายปีกับไมโครซอฟท์ โดยไมโครซอฟท์จะใช้งาน Oracle Cloud Infrastructure ที่เป็นบริการคลาวด์ของออราเคิล ควบคู่ไปกับ Azure ของไมโครซอฟท์ในการรันงานโมเดล AI ที่ใช้ในระบบค้นหาของ Bing
ก่อนหน้านี้ทั้งสองบริษัทเคยมีความร่วมมือกันด้านคลาวด์ โดย Azure เพิ่มบริการ Oracle Database
ความร่วมมือนี้อาจสะท้อนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของการประมวลผล AI บนคลาวด์ ที่ออราเคิลบอกว่าต้องใช้จีพียูระดับหลายหมื่นตัวในการประมวลผล จึงทำให้ไมโครซอฟท์ขยายความร่วมมือมาที่ออราเคิลซึ่งมีบริการจีพียูสำหรับงาน AI จำนวนมากนั่นเอง
Oracle ออกส่วนขยาย Oracle Java Platform Extension ให้กับ Visual Studio Code ซึ่งถือเป็นส่วนขยายอย่างเป็นทางการของ Java ตัวแรกบน VS Code
Oracle บอกว่าแนวโน้มของวงการนักพัฒนาเปลี่ยนไป จากเดิมที่ใช้ IDE เฉพาะทางของภาษานั้นๆ เปลี่ยนมาใช้ IDE ที่รองรับทุกภาษาแบบ VS Code กันมากขึ้น ความคาดหวังของนักพัฒนาคือ VS Code ทำงานได้ดีกับทุกภาษาโปรแกรม จึงเห็นโอกาสตรงนี้ออกส่วนขยายมาซัพพอร์ตแพลตฟอร์ม Java ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
Oracle ประกาศเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ vector search เข้าไปยังซอฟต์แวร์ Oracle Database 23c รองรับการใช้งานมากขึ้นเนื่องจากช่วงหลังมีการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในกลุ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language model - LLM) จำนวนมาก
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับออราเคิล นำฐานข้อมูล Oracle Database ไปรันบน Azure ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรก (ที่ไม่ใช่ออราเคิลเอง) ที่มีฐานข้อมูลของ Oracle ให้บริการลูกค้า
บริการนี้มีชื่อทางการว่า Oracle Database@Azure ครอบคลุมฐานข้อมูล Oracle Exadata Database, Oracle Autonomous Database, Oracle Real Application Clusters (RAC) บริการทั้งหมดรันอยู่บนคลาวด์ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) บนเครื่อง Oracle Exadata ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลของ Azure อีกที (collocating) โดยออราเคิลเป็นคนบริหารจัดการเครื่อง OCI ทั้งหมด