Carrie Lam ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กล่าวถึงเรื่องการประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Regulations Ordinance) ว่าตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาประกาศใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าวเพื่อควบคุมสถานการณ์ชุมนุมประท้วง
กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินของฮ่องกง จะให้อำนาจรัฐบาลในการควบคุมต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเซนเซอร์หรือจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย โดยกฎหมายไม่ได้ถูกประกาศใช้มาราว 50 ปีแล้ว
ล่าสุด สมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในฮ่องกงหรือ HKISPA ได้ออกคำแถลงเร่งด่วนหลังจากที่ Lam ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่าทุกวันนี้ฮ่องกงถือเป็น core node ขนาดใหญ่สุดของเครือข่ายไฟเบอร์ออฟติกในเอเชีย และมีศูนย์ข้อมูลกว่า 100 แห่งที่ดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นและบริษัทต่างชาติ รวมถึงทราฟฟิกของจีนแผ่นดินใหญ่กว่า 80% ก็ผ่านฮ่องกงด้วย
HKISPA ระบุว่า ความสำเร็จทั้งหมดนี้อยู่บนอินเทอร์เน็ตเสรีของฮ่องกง การออกกฎมาจะทำลายการเป็นฮับการสื่อสารซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักความสำเร็จของการเป็นศูนย์กลางทางการเงินโลก
HKISPA ให้ความเห็นว่าเทคโนโลยีอย่าง VPN คลาวด์ และการเข้ารหัสก็สามารถข้ามผ่านการบล็อคไปได้ ดังนั้นวิธีเดียวที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือนำอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของฮ่องกงอยู่หลังไฟร์วอลขนาดใหญ่ และนั่นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาล รวมถึงขัดขวางการทำธุรกิจขององค์กรระหว่างประเทศในฮ่องกงด้วย
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก Shutterstock
Comments
ดูแล้วอาจบานปลายได้เลยนะเนี่ย ปัญหาประท้วงฮ่องกงที่อาจจบลงที่จีนควบคุมทั้งหมดเร็วกว่าสัญญาที่ทำกับอังกฤษตอนคืนเกาะ หรือจบที่แยกจากจีนเป็นประเทศอิสระโดยมีชาติอื่นเข้ามาแทรกแซง ซึ่งอาจรวมไต้หวันด้วยแต่
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ใครจะกล้างัดข้อกับจีน
ชาติไหนจะกล้าแซกแทรง
ไม่คุ้มเสียแน่ๆ ลาก่อนฮองกง อดีตเมืองเคยรุ่ง
เหมือนจีนจงใจทำลายฮ่องกง และชูเซิ่นเจิ้นมาแทนที่ฮ่องกง
ถ้าฮ่องกงมีมูลค่าสูง จีนก็อยากจะเอาคืนไปก่อนเวลา
ถ้าฮ่องกงมีมูลค่าต่ำและต้นทุนในการเอาคืนสูง จีนก็อาจจะไม่เร่งที่จะเอาคืน
... และรู้สึกว่าคนฮ่องกง พร้อมที่จะทำลายทรัพย์สินของตัวเอง เพื่อแลกกับอิสระภาพนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อิสรภาพนั้นมีราคาแพง ... แต่มันเป็นราคา ที่ผมยอมจ่าย, Steve Rogers(Captain America)
?
เหมือนยิ่งนานไป จีนมีแต่ได้กับได้ ไม่ต้องทำไรมากเลย สู้ไปเหมือนจะมีแต่แพ้
จบแล้วฮ่องกง จีนคงยอมทำให้ฮ่องกงเป็นเมืองง่อยๆ แล้วไปพัฒนาเมืองอื่นมาแทน ดีกว่าปล่อยฮ่องกงไป หรือเป็นฉนวนให้เกิดการแข็งเมือง อย่างใต้หวันเป็นต้น
จีนรวยแล้ว ไม่ต้องใช้ฮ่องกงแล้วครับ ตอนนี้เหมือนใช้กลอุบายแบบในสามก๊กตีเมืองแตกแล้วด้วย ใครไม่อยากอยู่ก็ย้ายออกไปยุโรปอ่ะครับ มีทางเลือกเดียว
เท่าที่ดูกลุ่มคนรุ่นใหม่ฮ่องกง พวกที่เก่งแต่ประท้วงแต่ไม่เก่งด้านธุรกิจก็เตรียมเละได้เลย
เคยฟังคนวิเคราะห์แรงจูงใจ (ถูก-ผิด อีกเรื่องนึง) จีนใหญ่หนุนเศรษฐีฮ่องกงเพื่อความสงบ และเศรษฐีฮ่องกงส่วนใหญ่ก็มาจากอสังหาฯ
เงินเดือนเด็กจบใหม่ตีเป็นเงินไทยประมาณ 30~40k ห้องถูกสุดราคา 10M อนาคตไม่มี เลยอยากได้ผู้นำคนใหม่
เมื่อสู้แล้วแพ้ กับอยู่เฉยๆ มีจุดจบเดียวกัน ผมก็สู้นะ
ออกไปสู้อาจโดนยิงครับ อยู่เฉยๆอาจรอด
โดยค่อยๆตายลงอย่างช้าๆแทน คนที่มีทางไปเลยหาทางย้ายออกไปตทป.แทน
หายนะจริงๆนั้นแหละถ้าเกิดอยู่ๆปิดขึ้นมา server ของ cloud ใหญ่ๆอยู่กันครบเลย migrate กันหัวโต และผมคือหนึ่งในนั้น ?
ยังไงจีนก็ไม่ใช้วิธีรุนแรงกับฮ่องกงหรอก อย่างมากก็แค่ขู่ แต่ระยะยาวอาจลดความสำคัญของฮ่องกงลงเรื่อยๆ แล้วโปรโมทเมืองข้างเคียงขึ้นมาแทน ใกล้ๆ ก็มีเซิ่นเจิ้นอยู่ แต่ฮ่องกงคงต้องบริหารแบบเดิมไปก่อน จนกว่าเมืองเซิ่นเจิ้นจะได้รับการยอมรับระดับนานาชาติแทนฮ่องกง
ระยะสั้นอย่างน้อยก็ก่อนเลือกตั้ง ก็ขู่กันไปมาอย่างนี้แหล่ะ แต่ถ้าหลังเลือกตั้งทัมป์ยังได้เป็น ปธน. สหรัฐ อาจมีการจัดการระดับหัวๆ ด้วยวิธีการทางกฎหมาย คุ้นๆ ไหม คล้ายๆ แถวๆ นี้ แต่ใช้รถถังวิ่งบนถนน น่าจะไม่ได้เห็นในยุคที่จีนต้องการได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยุคนี้จีนเดินวิธีการทางการฑูตไม่โผ่งผ่างเหมือนทางสหรัฐ