โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ประกาศยุทธศาสตร์ Medical Technology นำโรงพยาบาลสู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำด้านนวัตกรรมสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาในระยะเวลา 3-5 ปี ทางโรงพยาบาลได้นำเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงมาใช้ดูแลรักษาคนไข้

ดร. ธีรเดช เวียงธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บอกว่าการจัดเก็บข้อมูลเชิงการแพทย์ การบริหารจัดการ Big Data และมีฐานข้อมูลสุขภาพมหาศาลที่จะนำไปสู่การประมวลผลการตัดสินใจรักษา และยังมีข้อมูลคนไข้ที่เป็นชาวต่างชาติถึงครึ่งหนึ่ง รพ. จึงลงทุนในระบบการจัดการ Big Data หรือ Bio Computing Platforms (BCP) เชื่อมโยงข้อมูล DNA ของผู้ป่วยกับแพลตฟอร์มโรงพยาบาลได้ และกำลังศึกษาความสัมพันธ์ของยีน และยา เพื่อทำการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลด้วยการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมของคนนั้นๆ นอกจากนี้ยังลงทุนซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด

ทางโรงพยาบาลระบุว่า บำรุงราษฎร์เป็นที่แรกๆ ที่นำหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดระบบดาวินชีมาใช้ในการผ่าตัดหลายรูปแบบทั้งการผ่าตัดใน ระบบทางเดินอาหาร, ระบบตับ, ระบบทางเดินปัสสาวะ, โรคผู้หญิง, ระบบหายใจ และโรคทั่วไป นอกจากนี้ยังนำหุ่นยนต์ช่วยจัดยา จ่ายยา บรรจุหีบห่อ

ด้านระบบปรึกษาแพทย์ทางไกล โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ทำภายใต้ชื่อ Anywhere Application ทำร่วมกับ iDoctor มาช่วยให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย ลดข้อจำกัดต้องเดินทางขับรถมาไกลสามารถเชื่อมต่อสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศได้ 40 แห่งทั่วโลก โดยในมีระบบล่ามช่วยแปลแก่ผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างชาติด้วย

ด้านการรักษาโรคมะเร็ง ทางโรงพยาบาลก็ได้นำ IBM Watson เข้ามาช่วยประมวลผลเพื่อให้แพทย์ตัดสินใจแผนการรักษา ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมมะเร็ง 13 ชนิด และใช้ Zebra AI ร่วมกับ CT Scan มาช่วยเรื่องการฉายรังสีรักษา สามารถตรวจได้ 4 โรคในครั้งเดียว คือ ถุงลมโป่งพอง, เลือกออกในสมอง, ไขมันพอกตับ, ภาวะกระดูกแตก

เทรนด์อนาคตของวงการดูแลสุขภาพ จะมีการแข่งขันสูงขึ้นไม่เพียงแต่สถานพยาบาลด้วยกันเอง แต่จะยังมีสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่คิดค้นนวัตกรรมการแพทย์เข้ามา เช่น สร้างแอพตรวจเบาหวาน ตรวจมะเร็ง แอพสังงานหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด แอพผู้ช่วยพยาบาลเสมือน เป็นต้น และการดูแลสุขภาพในอนาคตจะเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันไม่ให้เป็นโรคมากขึ้น โดยการใช้ข้อมูลพันธุกรรมของแต่ละคน และนำ AI ไปวิเคราะห์ จะได้แผนการดูแลสุขภาพที่เหมาะกับแต่ละรายไป ซึ่งโรงพยาบาลได้เปิดตัวบริการ DNA Scientific Weiines Screening เพื่อรองรับเทรนด์นี้