Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเกรดพรีเมียมจากอังกฤษได้ประกาศยกเลิกโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว โดยให้เหตุผลว่าบริษัทประเมินแล้วพบว่าไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ และได้พยายามขายโครงการนี้ให้บริษัทอื่นแต่ก็ไม่มีใครซื้อ
Dyson ประกาศเริ่มโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในปลายปี 2017 จากนั้นในเดือนตุลาคม 2018 ก็บอกว่าจะตั้งโรงงานในสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม Dyson ไม่ได้จะยกเลิกเสียทั้งหมด แต่จะเปลี่ยนทิศทางไปโฟกัสกับการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่แบบ solid state แทน รวมถึงพัฒนาระบบ computer vision, หุ่นยนต์, Machine Learning และ AI โดยจะยังลงทุนในสิงคโปร์เหมือนเดิม รวมมูลค่าการลงทุนราว 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.4 หมื่นล้านบาท
James Dyson ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dyson ระบุว่าทีมพัฒนารถยนต์ได้สร้างรถที่วิเศษ และว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของบริษัทจะพาไปสู่ทิศทางใหม่ๆ นอกจากนี้เขายังบอกว่านี่ไม่ใช่ความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน
ที่มา - TechCrunch
Comments
มาถาม ปตท. หรือยัง เห็นช่วงนี้กำลังสนใจอยู่ น่าจะจับมือกันได้ง่าย
ปตท.มีข่าวว่าจับมือกับบ.จีนนะ ชื่อบ.เว้ยหม่า
https://www.blognone.com/node/111821
ดูส่อไม่รอดตั้งแต่คิดจะตั้งโรงงานในสิงคโปร์ล่ะ (ส่วนคอมเม้นท์แซะไมยนี่ก็นะ)
คอมเม้นชังชาติหายเกลี้ยงเลยครับ ข่าวแบบนี้ ไม่เหมือนข่าวเก่า
ชังชาติหรือชังผู้นำ?
อีกอย่างนึง
เค้าแค่บอกว่าจะไม่เล่นตลาดรถไฟฟ้าเพราะเหตุผลทางการตลาดและการแข่งขัน ไม่ได้บอกว่าจะไม่ลงทุนที่สิงคโปร์นะ? เข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่าครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
มีทั้ง 2 แบบครับ
อันนี้คิดไปเองหรือเปล่าครับ? หรือเป็นวาทกรรมของกลุ่มพูดต่อๆกันมา?
คนที่ไม่ชอบอะไรซักอย่างในชาติ และอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ได้แปลว่าชังชาติครับ กลับกันผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นว่ารักชาติกว่าพวกบอกว่าอยู่ๆไปเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วเยอะ
การพัฒนามันเริ่มจากการหาข้อเสีย และยอมรับข้อเสียครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เฉียบ!
จริง อยากเปลี่ยนแปลงเพราะรักชาติเนี้ยแหละ
ค่อนข้างเห็นด้วยในมุมนี้ครับ ตอนนี้การมองมุมต่างหรือมีความเห็นที่ต่างออกไปมักจะถูกเหมารวมกลายเป็นคนชังชาติไปแล้ว ซึ่งจากประสบการณ์อันน้อยนิดของผมยังไงก็มองพ้องกับคุณ McKay อยู่ว่า การพัฒนาในด้านต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นมาจากการโต้แย้งกันกัน(ด้วยเหตุผล) ส่วนการอยู่เงียบๆ อยู่เฉยๆ คอยฟังคนไม่กี่คน (ที่ก็ไ่รู้ว่าว่ามีความรู้ความสามารถพอหรือเปล่า) จูงจมูกไปทางนี้ทางนั้นอย่างเดียว แล้วบอกว่านี่คือการรักชาติ ดูยังไงก็มองไม่เห็นอนาคตและคิดว่าไม่น่าจะไปรอดหรือแข่งขันได้ในระยะยาว
โอ๊ยถูกใจ! การมองเห็นข้อเสียที่เป็นอยู่โดนติดป้ายว่าเป็นพวกชังชาติเนี่ย คนที่อ้างว่ารักชาติและงัดหาข้อลบล้างเนี่ย คือไม่คิดจะพัฒนาอะไรกันเลยรึไง
Solid State ทำได้แล้ว..ค่อยทำรถก็ยังไม่สาย