Dyson เปิดตัวหูฟังไร้สายครอบหูรุ่นใหม่ชื่อ Dyson OnTrac ชูจุดเด่นระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ตัดเสียงรบกวนได้ 384,000 ครั้งต่อวินาที ลดเสียงได้สูงสุด 40 เดซิเบล สามารถตรวจจับและรายงานเสียงภายนอกแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน MyDyson
ไดรเวอร์ลำโพงของ Dyson OnTrac แบบนีโอไดเมียมขนาด 40 มิลลิเมตร 16 โอห์ม สามารถสร้างความถี่ต่ำสุดที่ 6 Hz ไปจนถึงสูงสุดที่ 21,000 Hz ตัวลำโพงถูกออกแบบให้เอียง 13 องศาไปทางหูเพื่อให้เสียงเข้าตรงหูมากขึ้น ส่วนแบตเตอรี่ถูกวางไว้ในส่วนครอบศีรษะ ช่วยให้การกระจายน้ำหนักของหูฟังได้สมดุลมากขึ้น ใช้งานได้ยาวนานสุด 55 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (สแตนบายได้นาน 2 สัปดาห์)
Dyson Zone หูฟังไร้สายรุ่นแรกของบริษัท Dyson ที่สามารถใส่หน้ากากกรองอากาศเพิ่มไปกับหูฟังได้ หลังจากวางขายในต่างประเทศเมื่อปลายปี 2022 ล่าสุดประกาศวางขายในไทยแล้วในราคาเริ่มต้น 28,900 บาท
หูฟัง Dyson Zone ที่วางขายในไทยมี 2 รุ่นย่อย
ตอนนี้เปิดรับพรีออเดอร์ในไทยแล้ว วางขายจริง 27 พฤศจิกายน
Dyson เปิดราคาของหูฟังรวมร่างกับหน้ากากกันฝุ่น Dyson Zone ซึ่งหน้าตาของมันก็คือหูฟังแบบครอบศีรษะ แล้วมีหน้ากากปิดจมูกและปากให้ด้วย
ฝั่งของหูฟัง รองรับ advanced noise cancelling (ANC) โดยมีไมโครโฟนทั้งหมด 11 ตัว ในจำนวนนี้ 8 ตัวนำมาใช้ฟังเสียงรอบตัวเพื่อฟีเจอร์ ANC, เสียงที่ออกจากหูฟังมีความถี่กว้าง 6Hz-21kHz ครอบคลุมเสียงทุกแบบ, มีฟีเจอร์ลดความผิดเพี้ยน (distortion) ลง, แบตเตอรี่หูฟังใช้ได้นาน 50 ชั่วโมง
ฝั่งของหน้ากากกันฝุ่น มีฟิลเตอร์แบบ electrostatic ป้องกันฝุ่นละอองขนาด 0.1 ไมครอนได้ 99%, มีฟิลเตอร์คาร์บอนที่ช่วยดักจับแก๊สพิษจากมลภาวะในเมือง ถ้าเปิดใช้ทั้งหูฟังและหน้ากากพร้อมกันใช้ได้นาน 4 ชั่วโมง
Dyson เปิดตัวแผนกพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ โดยการนำเสนอนี้เพื่อบอกว่าบริษัทเตรียมจ้างงานวิศวกรอีกหลายร้อยอัตราภายใน 5 ปี เป้าหมายคือการสร้างหุ่นยนต์สารพัดประโยชน์สำหรับงานในบ้าน ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาตอนนี้ยังอยู่ในขั้นความลับ
ปัจจุบัน Dyson มีวิศวกรหุ่นยนต์ในฝ่ายดังกล่าวราว 250 คน ที่เชี่ยวชาญทั้งด้าน Computer Visions, Machine Learning, Sensors และ Mechatronics บริษัทวางแผนเพิ่มวิศวกรฝ่ายนี้อีกประมาณ 700 คน ใน 5 ปีข้างหน้า
ในวิดีโอที่นำเสนอแผนกดังกล่าว Dyson พูดถึงความสามารถของหุ่นยนต์คร่าว ๆ เช่น การจัดจาน, ทำความสะอาดโซฟา, เก็บของในบ้าน และบางส่วนก็ไม่เปิดเผย
Dyson เปิดตัวหูฟังตัดเสียงรบกวนแบบบลูทูธรุ่นแรกของบริษัท ชื่อ Dyson Zone แต่ยังไม่ทิ้งคอนเซปต์ความล้ำด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับอากาศ เพราะเป็นหูฟัง over-ear ที่สามารถกรองอากาศได้ โดยจะดูดอากาศมากรองทางหูฟัง และปล่อยออกมาที่ด้านหน้าของผู้ใช้ ที่จะไม่ได้สัมผัสกับใบหน้าโดยตรง แต่จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาบริเวณใกล้ปากและจมูก เพื่อให้หายใจเข้าไปได้แทน
ตัวที่ปล่อยอากาศด้านหน้าสามารถเปิดปิดได้ ปรับเปลี่ยนความแรงได้ มีระบบอัตโนมัติที่ใช้ accelerometer จับความเร็วของผู้ใช้ เพื่อตรวจสอบว่ากำลังวิ่งอยู่หรือไม่ และปรับแรงลมให้แรงขึ้นตามอัตโนมัติ และสามารถถอดเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์เพื่อใช้ร่วมกับหน้ากากที่ปิดใบหน้าได้
Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ Dyson V12 Detect Slim หัวแปรงดูดฝุ่นมีไดโอดเลเซอร์สีเขียว ช่วยฉายให้เห็นฝุ่นที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น หัวแปรงออกแบบใหม่ แถบแปรงเป็นทรงกรวย แบบ anti-tangle hair screw ลดการติดพันของเส้นผมและเส้นขนต่างๆ
ที่หัวแปรงยังมีเซ็นเซอร์ Acoustic Piezo ที่จะใช้เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ตรวจจับและคำนวณจำนวนอนุภาคฝุ่นที่เครื่องกำลังดูดอยู่ถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที และไปแสดงขนาดและปริมาณฝุ่นที่เครื่องดูดได้บนจอ LCD
คนเก่งประจำบ้านที่นอกจากช่วยให้บ้านสะอาดแล้ว ยังช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Dyson อย่างระบบกรองที่ดักจับได้แม้กระทั่งเชื้อรา แบคทีเรีย ไรฝุ่น ที่เติบโตและอาศัยอยู่ในอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเรา การใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สายอย่าง Dyson Digital Slim สามารถช่วยจัดการต้นเหตุของอาการภูมิแพ้อย่าง ไอ จาม หรืออาการคัน ได้
Blognone เคยรีวิวเครื่องดูดฝุ่น Dyson V11 Absolute กันไปแล้ว ล่าสุด Dyson มีของใหม่มาให้ลอง เป็น Dyson Digital Slim Fluffy เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่นอกจากจะคงพลังดูดในมาตรฐานของ Dyson ไว้ได้แล้ว ยังมาพร้อมน้ำหนักเบากว่ารุ่น V11 Absolute ถึง 30% หรือประมาณน้ำขวด 2 ลิตร ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.9 กก. เมื่อต่อเครื่องกับด้ามและหัวดูดลูกกลิ้ง และเพียง 1.3 กก. เมื่อใช้แบบมือถือ ช่วยให้ทำความสะอาดบ้านได้นาน ๆ โดยไม่เหนื่อยล้าอีกด้วย
Blognone จะพาไปรีวิวความเบาและฟังก์ชั่นใหม่ๆ น่าสนใจในบทความนี้
Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ Dyson Digital Slim ที่มีขนาดเล็กลง 20% และเบาลงกว่า 30% จากรุ่นก่อนหน้าอย่าง V11 ขณะที่ด้ามจับก็สั้นลง 15% หัวแปรงลูกกลิ้งสำหรับดูดพรมก็เล็กและเบาลง 40%
ในแง่ประสิทธิภาพ Dyson บอกว่าใกล้เคียงกับ V11 เพราะการออกแบบมอเตอร์และระบบดูดฝุ่นภายในไม่ต่างกัน ขณะที่ฐานแบตเตอรี่สามารถถอดได้ ใช้งานได้ 40 นาทีในโหมดประหยัดพลังงานและใช้งานได้ 5 นาทีโหมด Boost ใช้เวลาราว 3.5 ชั่วโมงในการชาร์จ
Dyson Digital Slim วางขายแล้วที่ราคา 19,990 บาท
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอังกฤษประกาศผลิตเครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยสนับสนุนการแพทย์ของสหราชอาณาจักรสำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วย COVID-19
เครื่องช่วยหายใจของ Dyson นี้มีชื่อว่า CoVent ซึ่งทาง Dyson ใช้เวลาดีไซน์และสร้างตัวเครื่องจริงเพียง 10 วันหลังได้รับคำสั่งซื้อจากภาครัฐเท่านั้น โดยโฆษกของ Dyson ระบุว่าเครื่องช่วยหายใจล็อตนี้จะเริ่มใช้งานจริงได้ในต้นเดือนเมษายน
สำหรับออร์เดอร์เครื่องช่วยหายใจที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรสั่งซื้อ Dyson อยู่ที่ 10,000 เครื่อง และ James Dyson ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเผยว่าทางบริษัทจะบริจาคเครื่องช่วยหายใจเพิ่มอีก 5,000 เครื่องให้องค์กรทั่วโลก โดย 1,000 เครื่องจะใช้งานภายในสหราชอาณาจักร
Dyson เปิดตัว Lightcycle Morph หลอดไฟรุ่นใหม่ที่มาพร้อมความยืดหยุ่น ปรับได้หลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน
หลอดไฟใหม่จาก Dyson นี้ ลักษณะยังคงคล้ายกับ Lightcycle ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว มีฟีเจอร์คล้าย ๆ กัน เช่น ปรับแสงตามแสงอาทิตย์ มีแกนสามแกนสำหรับการปรับหมุนไปในทิศทางต่าง ๆ โดยวิธีใช้งานก็มีตั้งแต่การใช้หลอดไฟส่องแสงสว่างตรง ๆ หรือจะใช้สะท้อนแสงกับผนัง, พื้น หรือเพดานก็ได้ ควบคุมแสงไฟได้จากแอป Dyson Link
Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเกรดพรีเมียมจากอังกฤษได้ประกาศยกเลิกโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว โดยให้เหตุผลว่าบริษัทประเมินแล้วพบว่าไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ และได้พยายามขายโครงการนี้ให้บริษัทอื่นแต่ก็ไม่มีใครซื้อ
Dyson ประกาศเริ่มโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในปลายปี 2017 จากนั้นในเดือนตุลาคม 2018 ก็บอกว่าจะตั้งโรงงานในสิงคโปร์
ถ้าพูดถึงเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ยี่ห้อแรกๆที่น่าจะถูกนึกถึงคงหนีไม่พ้น Dyson ที่ล่าสุดเปิดตัว V11 เครื่องดูดฝุ่นที่ทรงพลังและชาญฉลาดที่สุดของ Dyson [1] รุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจากเครื่องดูดฝุ่น V10 รุ่นเดิม ที่ยังคงความโดดเด่นเรื่องดีไซน์ กล่องเก็บฝุ่นที่ถอดไปเททิ้งได้ง่าย ดิจิทัลมอเตอร์พลังแรงดูดมหาศาล รุ่นนี้ได้เพิ่มหน้าจอ LCD ที่แสดงโหมดการทำงานที่ใช้, รายงานผลแบบเรียลไทม์และมาพร้อมกับหัวดูดที่ชาญฉลาด มีเทคโนโลยีใหม่ที่ปรับเปลี่ยนความแรงในการดูดได้ตามพื้นผิวที่กำลังทำความสะอาด
Dyson เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Lightcycle โคมไฟที่สามารถปรับความสว่างและอุณหภูมิได้จากฐานตั้ง รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับแอป Dyson ให้หลอดไฟสามารถปรับความสว่างและอุณหภูมิให้อัตโนมัติ จากปัจจัยทั้งเรื่องแสงธรรมชาติในห้อง, ตำแหน่งที่ตั้งตามแผนที่,และอายุของผู้ใช้งาน (ไม่ให้สว่างเกินความเหมาะสมต่อสายตาของคนช่วงอายุหนึ่งๆ)
นอกจากนี้ยังมีโหมดให้เลือกตามการใช้งานด้วย เช่นโหมดอ่านหนังสือและโหมด Precision ที่ Dyson บอกว่าเหมาะกับพวกวิศวกร, ศิลปินหรือคนที่ทำงานหัตถกรรม)
Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายใหม่ V11 ตามรอบ โดยดีไซน์ของตัวเครื่องไม่แตกต่างจาก V10 ที่มีการปรับปรุงดีไซน์ถังเก็บฝุ่น ขณะที่ของใหม่ใน V11 คือมีโหมดในการดูดเพิ่มมาเป็น 3 โหมดได้แก่โหมดอีโค่ที่เบาสุด, โหมดบูสท์ที่แรงและโหมดออโต้ ที่จะปรับความแรงของมอเตอร์ตามพื้นที่ผิวที่ทำความสะอาด
นอกจากเรื่องโหมดใหม่แล้ว บริเวณฐานแบตเตอรี่ยังมีหน้าจอ LED แสดงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู๋แล้วด้วย รวมถึงปรับปรุงแบตเตอรี่และมอเตอร์ใหม่ด้วย ส่วนอุปกรณ์เสริมอย่างหัวที่เอาไว้ดูดพื้นก็มีรุ่นใหม่ที่ Dyson เรียกว่า High Torque เอาไว้ดูดฝุนที่ติดแน่นอยู่ตามพรม
ราคาของ V11 ยังคงแรงเช่นเดิม แบ่งเป็นรุ่น Animal ที่อุปกรณ์เสริมน้อยกว่าที่ 599.99 เหรียญและ Absolute ตัวท็อปที่ราคา 699.99 เหรียญ
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอังกฤษ กำลังพัฒนาโครงการผลิตหน้ากากกันฝุ่นละออง ที่มีคุณสมบัติเสริมคือมีส่วนของหูฟังอยู่ในตัวด้วย ทำให้นอกจากใส่หน้ากากนี้เพื่อกันฝุ่นเวลาอยู่ภายนอกอาคารแล้ว ยังสามารถฟังเพลงไปได้พร้อมกัน
ปัจจุบัน Dyson มีไลน์สินค้าที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงเครื่องกรองอากาศตั้งพื้น ที่มีความสามารถเลือกกรองให้ออกมาเป็นลมร้อนหรือลมเย็นได้ อย่างไรก็ตามด้วยคุณสมบัติของหน้ากากกันฝุ่นที่เป็นหูฟังเพลงในตัว ก็ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับ Dyson เช่นกัน
ตัวแทนของ Dyson ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
เมื่อปลายปี 2017 เคยมีรายงานข่าวว่า Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหรูจากอังกฤษเตรียมเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเมื่อต้นปีนี้ก็มีข่าวความคืบหน้าออกมาว่าจะใช้แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ล่าสุด Dyson เลือกตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ประเทศสิงคโปร์ หวังตีตลาดจีน
Dyson ระบุว่าบริษัทจะตั้งโรงงานเองมากกว่าจะไปเซ็นสัญญากับซัพพลายเออร์ภายนอก โดยคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2020 และเริ่มขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในปี 2021 ซึ่งบริษัทมีงบลงทุนกับตลาดรถยนต์ถึง 2 พันล้านปอนด์หรือราว 85,000 ล้านบาท
Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียมเปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ โดยใช้ชื่อว่า 360 Heurist ซึ่งเป็นรุ่นอัพเดตจาก 360 Eye ที่เปิดตัวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
หุ่นยนต์ของ Dyson ใช้ชิพควอดคอร์ 1.4GHz ซึ่งเร็วกว่ารุ่นเก่าถึง 20 เท่า ทำให้ตัวหุ่นยนต์เก็บข้อมูลสภาพรอบ ๆ ได้ละเอียดขึ้นถึง 60% และสามารถลดการกระแทกกับเฟอร์นิเจอร์ลงได้ถึง 50% พร้อมทั้งยังมีกล้องด้านบนและไฟ LED แปดดวงล้อมรอบที่ทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวในที่มืดได้ดีขึ้น
Dyson แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่โด่งดังจากพัดลมไร้ใบพัดและเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (อ่านประวัติ Dyson คร่าวๆ ได้ที่นี่) ได้เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดอย่าง Dyson V8 ที่มีความโดดเด่นทั้งในแง่ของความสะดวกในการเคลื่อนย้าย (mobility), ระบบทำความสะอาดถังเก็บฝุ่นและอุปกรณ์เสริมสารพัดที่ครอบคลุมแทบจะทุกสถานการณ์ในการทำความสะอาด
ผมมีโอกาสได้ใช้งานมาซักระยะ เลยขอเขียนถึงสักเล็กน้อยครับ
Dyson ได้เปิด Dyson Demo หน้าร้านและพื้นที่ทดลองสินค้าของ Dyson บริเวณชั้น 2 ของห้างสยามพารากอน โดยสินค้าที่นำมาโชว์และเปิดให้ทดลองก็มี
Blognone เคยรายงานข่าวว่า Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียมจากอังกฤษกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดมีอัพเดตออกมาบ้างแล้ว
รายงานระบุว่า Dyson กำลังตัดสินใจใช้แบตเตอรี่แบบ lithium ion เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันแรกของบริษัท แทนแบตเตอรี่แบบ solid-state ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้องการลดความซับซ้อนทางเทคนิคลงในรถยนต์รุ่นแรก
James Dyson ผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบรนด์ Dyson ทวีตข้อความว่าทางบริษัทเตรียมเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง Dyson กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เขาคิดไว้แล้วกว่า 30 ปี
Dyson ได้ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่าตอนนี้เขาได้สร้างทีมพัฒนาแบตเตอรี่ขึ้นมาแล้ว โดยมีวิศวกรกว่า 400 คนอยู่ในทีมนั้น และแบตเตอรี่ของ Dyson พัฒนามาแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่ง ซึ่ง Dyson เตรียมจะจ้างผู้มีความสามารถเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลงทุนในการพัฒนารถยนต์กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงคาดหวังว่าจะเปิดตัวรถยนต์ให้ได้ในปี 2020
Dyson ผู้ผลิตเครื่องดูดฝุ่นและเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง เปิดตัวเครื่องกรองอากาศ (air purifier) รุ่นใหม่ Dyson Pure Cool Link หลังจากเปิดตัวในประเทศจีนเมื่อปีก่อน แน่นอนว่าความสามารถที่เพิ่มขึ้นสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุคนี้คือเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดยมีแอพสำหรับควบคุมเครื่อง ดูสถิติ และตรวจสอบสภาพอากาศในบ้าน
เครื่องกรองนี้มีสองรุ่น คือ รุ่นตั้งพื้น และรุ่นตั้งโต๊ะ เครื่องกรองนี้สามารถลดสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ในอากาศถึงร้อยละ 99.97 และสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน
Dyson เป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอังกฤษที่เน้นเรื่องดีไซน์และนวัตกรรมอย่างมาก ถึงขนาดสินค้าของ Dyson ถือเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของแอปเปิลด้วย
Blognone เคยรีวิว พัดลมไร้ใบพัด Dyson AM08 ไปแล้ว คราวนี้มาดูสินค้าที่สร้างชื่อให้บริษัทอย่าง "เครื่องดูดฝุ่น" กันบ้างครับ
Dyson มีเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่น แต่ที่ทางบริษัทส่งมาให้ทดสอบเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่น DC74 (ในต่างประเทศใช้ชื่อรุ่นว่า Dyson V6) ที่มีจุดเด่นที่หัว Fluffy (ซึ่งจะกล่าวต่อไป)
ผู้อ่าน Blognone น่าจะพอรู้จักกับ Dyson แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากอังกฤษ ล่าสุดทางทีม Blognone ได้รับเชิญไปฟังแนวคิดและการออกแบบผลิตภัณฑ์จากวิศวกรของ Dyson ในงาน Dyson Design Talk จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
เครื่องดูดฝุ่นรุ่นแรกของ Dyson รุ่น DC01 ถูกคิดค้นและพัฒนาโดย James Dyson จากสาเหตุที่เครื่องดูดฝุ่นรุ่นที่ดีที่สุดในท้องตลาดที่เขาซื้อมา มีประสิทธิภาพแย่ลงเมื่อฝุ่นในถุงเก็บใกล้เต็ม ชื่อรุ่น DC ย่อมาจาก Dual Cyclone ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกรวยดักฝุ่นของโรงงานอุตสาหกรรม สามารถอ่านประวัติแบรนด์เพิ่มเติมจากรีวิวพัดลมไร้พัด Dyson Cool AM08
วันนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศมารีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้ากันบ้างครับ แต่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ธรรมดาเพราะมาจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Dyson ที่มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมและการออกแบบ โดยสินค้าที่ได้มารีวิวคราวนี้ก็แปลกใหม่เพราะมันคือ "พัดลม" ที่ไม่มี "ใบพัด"
ก่อนจะเข้าเรื่องสินค้า ขอใช้โอกาสนี้แนะนำแบรนด์ Dyson ก่อนเผื่อใครไม่รู้จัก
Dyson (อ่านว่า "ไดสัน") เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากอังกฤษ มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องดูดฝุ่น บริษัทก่อตั้งโดยนักออกแบบชาวอังกฤษ James Dyson ในปี 1993
James Dyson เป็นนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในมาก่อน เขาจบการศึกษาจาก Royal College of Art ในกรุงลอนดอน จากนั้นหันมาสนใจงานด้านวิศวกรรมควบคู่ไปกับการออกแบบ