Huawei เปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยหลายชิ้นด้วยกัน ได้แก่ Huawei Watch GT 2, Huawei Band 4 นาฬิกาพร้อมฟีเจอร์ออกกำลังกายขนาดเล็ก, Huawei x Gentle Monster Eyewear แว่นตาพร้อมลำโพงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้, Huawei Freebuds 3 หูฟัง True Wireless รุ่นล่าสุดของทางค่าย

โดยสเปค, ราคาและประสบการณ์การทดลองเล่นคร่าว ๆ ของสินค้าแต่ละชิ้นจะมีดังนี้:

Huawei x Gentle Monster Eyewear

• ดีไซน์ร่วมกับ Gentle Monster แบรนด์แว่นตาแฟชั่น
• ขาแว่นติดตั้งชุดควบคุมและลำโพงไว้
• รองรับการควบคุมด้วยการแตะที่โคนขาแว่น แตะสองครั้งเปลี่ยนเพลงหรือเรียก Assistant ได้
• ตรวจจับการสวมแว่น มีเสียงแจ้งเตือนกำหนดการต่าง ๆ ตามที่บันทึกไว้ในแอพปฏิทิน
• แว่นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 2 ชั่วโมงครึ่ง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง กล่องแว่นจะเป็นแท่นชาร์จไร้สายในตัว มีแบตเตอรี 2,200 mAh

สำหรับราคาและวันเวลาวางจำหน่าย ทาง Huawei จะประกาศในภายหลัง

ความคิดเห็นหลังทดลองเล่น
งานกระเป๋าแว่นตาตัดเย็บได้สวยและดูหรูหรา ด้านในจะมีเซนเซอร์เช็คว่าแว่นตาใส่เข้าที่หรือไม่โดยหลอดไฟสีเขียวในกระเป๋าแว่นจะติดเมื่อใส่พอดี จับคู่ด้วยระบบ Bluetooth เชื่อมต่อได้เร็วและขาแว่นจะจับกรอบหน้าได้พอดี ไม่บีบและตัวแว่นไม่หนักเมื่อเทียบกับแว่นกรอบแบบพลาสติกทั่วไป

ลำโพงที่ติดตั้งมากับตัวแว่นอาจจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้เวลาเปิดคลิปหรือฟังเพลงต้องเปิดเสียงดังเกือบสุดเสมอ ไม่เช่นนั้นเสียงจะเบามาก คุณภาพของเสียงฟังชัดเจนแต่ค่อนข้างเรียบไม่ค่อยมีเบส เหมาะกับการเปิดฟัง Podcast หรือดูคลิปทั่ว ๆ ไปมากกว่าฟังเพลง

Huawei Freebuds 3

• ดีไซน์กล่องทรงกลม เป็นหูฟัง Earbuds มีก้านแบบ AirPods
• ชิปเซ็ต Kirin A1
• เชื่อมต่อด้วย BT-UHD บิตเรทที่ 2.3Mbps
• มีระบบ Noise Cancellation ปรับการตัดเสียงได้ถึง 15 เดซิเบลผ่านแอพ
• ติดตั้ง Bone Sensor ช่วยตรวจจับและตัดเสียงรบกวน
• มี Anti-Wind ตัดเสียงลมระหว่างคุยโทรศัพท์
• ไดรเวอร์ขนาด 14 มิลลิเมตร มี Base Tube
• ค่าความหน่วง (Latency) ที่ 190 ms
• หูฟังใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมงและใช้กับเคสจะใช้ได้สูงสุด 20 ชั่วโมง

ราคาของ Huawei FreeBuds 3 ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2019 นี้

ความคิดเห็นหลังทดลองเล่น
Huawei FreeBuds 3 จะเน้นเสียงเบสมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Huawei FreeBuds 2 Lite ที่เคยทดลองฟังมา ได้เสียงที่ชัดเจนมากขึ้นและเบสหนักแน่น สเตจเสียงใกล้กับคนฟังพอควร ถ้าใครชอบสเตจเสียงกว้างอาจจะต้องคิดสักหน่อย สามารถเร่งเสียงได้ดังมากขอแนะนำให้เปิดเสียงเพียง 60-65% ก็เพียงพอแล้ว ระบบการตัดเสียงรบกวนทำงานได้ดี

Huawei Watch GT 2

• ชิปเซ็ต Kirin A1
• มีขนาดหน้าปัด 42 และ 46 มิลลิเมตร เป็นจอ OLED ความสว่าง 1,000 nit
• หน้าจอแบบ Always-on
• เปลี่ยนหน้าปัดที่ชอบได้ ตั้งค่าผ่านแอพฯ
• มีโหมดออกกำลังกาย 15 โหมด
• มีโหมดช่วยฝึกวิ่ง 13 คอร์ส
• กันน้ำระดับ 5 ATM กันน้ำลึกสุด 50 เมตร สามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจใต้น้ำได้
• ฟีเจอร์ TrueRelax ตรวจจับความเครียดระหว่างวัน
• มีฟีเจอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ, ตรวจจับการหลับ, แนะนำวิธีการนอน และนับก้าวเดิน
• รับสายและฟังเพลงบนตัวเรือนนาฬิกาได้ จุเพลงได้มากสุด 500 เพลง
• มีฟีเจอร์ตามหามือถือที่เชื่อมต่อกับ Huawei Watch GT 2
• รองรับภาษาไทย
• แบตเตอรีใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 14 วัน

Huawei Watch GT 2 ราคา จะแบ่งตามขนาดหน้าปัด เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 18 ตุลาคมเป็นต้นไป

• รุ่นหน้าปัด 42 มิลลิเมตร สายยางสีดำและแดงที่ 5,990 บาท / สายหนัง 6,490 บาท ละสายเหล็กสีเทาราคา 6,990 บาท แถมสายแบบยางในกล่องเฉพาะรุ่นสายหนังและสายเหล็ก
• รุ่นหน้าปัด 46 มิลลิเมตร สายยางสีดำและแดงที่ 6,490 บาท / สายหนัง 6,990 บาท ละสายเหล็กสีเทาราคา 7,990 บาท แถมสายแบบยางในกล่องเฉพาะรุ่นสายหนังและสายเหล็ก

ความคิดเห็นหลังทดลองเล่น
Huawei Watch GT 2 ในงานจะมีรุ่น 46 มิลลิเมตรให้ทดลองเล่น โดยขนาด 46 มิลลิเมตรนั้นดูเหมาะกับผู้ชายเพราะตัวเรือนค่อนข้างใหญ่และหนักอยู่บ้าง งานประกอบทำได้เรียบร้อยและแข็งแรง หน้าจอสัมผัสตอบสนองได้ดีและเร็วพอควร

Huawei Band 4

• ชิปเซ็ต Kirin A1
• หน้าปัดขนาด 0.96 นิ้ว แบบ TFT
• น้ำหนัก 20 กรัม หนา 12.5 มิลลิเมตร
• แบตเตอรีใช้งานต่อเนื่องได้ 6 วัน ถอดสายรัดข้อมือหนึ่งข้างเป็นพอร์ต USB เชื่อมกับปลั๊ก USB ได้โดยตรง
• กันน้ำระดับ 5 ATM
• มีฟีเจอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจและตรวจจับการหลับ
• มีโหมดตรวจจับการออกกำลังกาย 9 แบบ
• รับสายและอ่านแจ้งเตือนได้บนตัวนาฬิกา รองรับภาษาไทย
• มีฟีเจอร์ตามหามือถือที่เชื่อมต่อกับ Huawei Band 4
• ใช้เป็นรีโมตคุมกล้องสมาร์ทโฟนได้

Huawei Band 4 วางจำหน่ายราคา 990 บาท มีสามสีได้แก่สีแดง, ดำ และชมพู ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป

ความคิดเห็นหลังทดลองเล่น
เป็นนาฬิกาที่มีขนาดเล็กและงานประกอบทำได้ดีและเบา การตอบสนองทำได้ดีไม่ติดขัดนัก เหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายและหานาฬิกาที่มีฟีเจอร์ช่วยจับการออกกำลังกายเบื้องต้น แต่คนที่ชอบออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหลายแบบอาจจะเหมาะกับ Watch GT 2 มากกว่า