หลังจาก ASUS ROG Phone รุ่นแรกสร้างชื่อในกลุ่มตลาดมือถือเกมมิ่งไปแล้ว ทาง ASUS ก็ส่ง ROG Phone II รุ่นต่อที่ปรับปรุงสเปคให้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วมาก โดยผู้สนใจสามารถอ่านข้อมูลสเปคได้ที่นี่
ถึงชื่อเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนแล้วเน้นเรื่องการเล่นเกมเป็นหลักก็ตาม ฟีเจอร์ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องก็นับว่าครอบคลุมการใช้งานหลากหลายแบบจนคนทั่วไปที่ชอบเล่นเกมก็เหมาะกับสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เช่นกัน
รูปลักษณ์ของตัวเครื่องเทียบกับรุ่นที่แล้วนับเป็นไมเนอร์เชนจ์ จากที่สังเกต คือแถบสีส้มของลำโพงทั้งบนและล่างจะบางลงจากรุ่นก่อน, ช่องระบายอากาศที่แถบสามเหลี่ยมหลังเครื่องหายไปและเพิ่มแฟลชมาให้อีกหนึ่งดวง ฝาหลังใช้เป็นกระจกและปรับลวดลายให้ดูเรียบร้อยขึ้น ไม่หวือหวาแบบรุ่นก่อน งานประกอบแข็งแรงและแน่นมาก
พอร์ตรอบตัวเครื่องมีให้ใช้เหมือนรุ่นที่แล้ว โดยฝั่งซ้ายของเครื่องเป็นพอร์ต USB-C ดีไซน์รูปร่างช่องเป็นพิเศษเอาไว้ติดตั้งอะแดปเตอร์ระบายความร้อน AeroActive Cooler II ที่แถมมาในกล่อง
ฝั่งขวาของเครื่องเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียงและล็อคหน้าจอ
ริมเครื่องฝั่งขวาทั้งสองข้างจะมีลวดลายพิเศษสลักอยู่เป็นจุดติดตั้งเซนเซอร์ Ultrasonic ใช้แทนปุ่ม L1/R1 ของจอยเกมที่ ASUS เรียกว่า AirTriggers ตั้งค่าให้เป็นปุ่มเสริมตอนเล่นเกมได้ การตอบสนองทำได้เร็วไม่แพ้การแตะสัมผัสบนจอ
เซนเซอร์ AirTriggers ของ ROG Phone II
ด้านล่างเครื่องเป็น USB-C กับช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรเหมือนรุ่นก่อน
ตัวเครื่องของ ROG Phone II ขนาด 6.6 นิ้ว อัตราส่วนจอ 19.5:9 เมื่อถือใช้ดูแล้ว แม้ผู้เขียนจะเป็นผู้ชายมือใหญ่เวลาถือมือเดียวก็ยังล้นมือ เทียบแล้วขนาดจะไม่ต่างกับ iPhone 11 Pro Max แต่ ROG Phone II จะหนากว่านิดหน่อย ขอแนะนำให้ใส่เคสเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมและป้องกันเครื่องลื่นหลุดมือ
AeroActive Cooler II เป็นอุปกรณ์เสริมชิ้นเดียวที่แถมมาให้ในกล่อง เมื่อต่อเข้ากับพอร์ต USB-C ฝั่งซ้ายแล้วต้องจับเครื่องเป็นแนวนอนถึงจะถนัด ที่ตัว AeroActive Cooler II จะมีพอร์ต USB-C และช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอยู่ มีลูกเล่นคือตอนต่อ USB-C เข้ากับหน้าจอ จะทำให้ภาพจากมือถือถูกส่งขึ้นจอใหญ่ แล้วมือถือจะกลายเป็นจอยเกมแทน
พัดลมของ AeroActive Cooler II จะเริ่มทำงานดูดอากาศเข้ามาเป่าที่ด้านหลังมือถือเมื่อเราเริ่มเล่นเกมและระบายลมออกทางด้านข้างเป่ามือผู้ใช้ จากที่ทดลองเล่นเกมอย่าง Call of Duty Mobile สักพักไม่รู้สึกว่าเครื่องร้อนขึ้นมาเลย กลับกัน มือถือส่วนตัวของผู้เขียนที่เล่นเกมเดียวกันระยะเวลาเท่ากันจะเริ่มอุ่นแล้ว นับว่าระบบระบายความร้อนและพัดลมนี้ทำงานได้ดี
อัตรา Refresh rate ของสมาร์ทโฟนทั่วไปจะอยู่ที่ 60 Hz หรือ 90 Hz สำหรับเรือธงบางรุ่นเช่น OnePlus 7T ส่วน ROG Phone II จะเปิดให้เราตั้งค่าได้สูงสุดที่ 120 Hz เท่ากับ Razer Phone 2 ตั้งค่าโดยเข้าที่ Settings > Display > Refresh rate แล้วเลือกที่ 120 Hz
จากการทดลองเล่นเพียงสั้น ๆ ก็สัมผัสการแสดงผลที่ต่อเนื่องและนุ่มนวลได้ทันที ตอนใช้งานโซเชียลหรือเข้าเว็บทั่วไปอาจจะสัมผัสได้ไม่ชัดเจนนัก เมื่อไหร่ที่ทดลองเล่นเกมจะสัมผัสได้ทันทีว่าหน้าจอให้ภาพที่ต่อเนื่องและนุ่มนวล ไม่มีการกระตุกแม้แต่น้อย ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้งานทั่วไปอาจจะตั้งไว้ที่ 60-90 Hz ก็เพียงพอ แล้วตั้งค่าให้เป็น 120 Hz ตอนเล่นเกมจะดีที่สุด
กล้องของ ROG Phone II ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จับคู่กับกล้องถ่ายภาพมุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ภาพที่ทดลองถ่ายอาจจะไม่ถึงระดับมือถือเรือธงที่เน้นพัฒนากล้องอย่างเต็มที่ มีแค่ซูมดิจิทัลที่ 8X แต่ก็ใช้ถ่ายภาพทำงานดีในระดับน่าพอใจ สีสันสดและตัดขอบภาพคม สามารถคาดหวังกับกล้องของ ROG Phone II ไว้ถ่ายภาพตอนไปเที่ยวและทำงานได้ รวมทั้งเลนส์มุมกว้างก็เก็บภาพได้กว้างไม่แพ้เรือธงรุ่นอื่น ๆ เช่นกัน
ASUS ROG Phone II จากที่ทดลองจับในเวลาสั้น ๆ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีเครื่องหนึ่ง ถึงจะดีไซน์มาเพื่อเกมเมอร์อย่างไร ฟีเจอร์ที่มียังถือว่าครบครันจะไว้ใช้เป็นมือถือทั่วไปก็ดีเช่นกันไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นเกมเมอร์เท่านั้น
Comments
ถ้าไม่ใช่เพราะข้อกำหนดของทาง Google ที่ให้พันธมิตรต้องอัพเดทมือถือไปอีก2ปีครึ่ง น่าสนใจว่าถ้าจะอัพเดทแบบ Apple ได้อีกกี่ปี?
ดูสเปก rog แล้วมาดู iphone pro max 64gb ในมือแล้วขัดใจมาก
มีนักกีฬา E-sport ใช้ andriod แข่งบ้างไหมครับ? นั่่งดูหลายๆเกมส์ ใช้แต่ 8+
มือถือฝั่งแอนดรอยที่อ้างว่าทำมาสำหรับเกมมิ่งนี่เหมือนทำออกมาหลอกขายเด็ก
ไอโฟนตกรุ่นไปปี 2ปียังเล่นหลายๆเกมลื่นกว่าแอนดรอยเกมมิ่งที่อวดอ้าง
ที่ตลกคือทำหน้าจอ refresh rate สูงๆเลียนแบบคอม แต่เกมที่กิน spec สูงๆรันให้ 30fps นิ่งๆยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่รู้เอาไปเล่นเกมเรียงเพชรลื่นๆหรืออย่างไร