Digital Foundry เป็นเซคชั่นฮาร์ดแวร์และทดสอบประสิทธิภาพของเว็บเกม Eurogamer ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างสูงในแง่ความรู้จริง ก่อนหน้านี้เพิ่งออกมาประเมินสมรรถนะของ Xbox Series X ว่าอยู่ที่ 12 TFLOPS โดยอิงจากข้อมูลแหล่งต่างๆ
ล่าสุด Digital Foundry ออกมาประเมินสมรรถนะและสเปกของ PlayStation 5 (ที่ยังไม่เปิดตัวแบบเดียวกับ Xbox Series X) โดยคาดว่ามีสมรรถนะจีพียูต่ำกว่า Xbox Series X พอสมควร แต่น่าจะทำให้โซนี่กดราคาเครื่องลงมาได้ต่ำกว่าไมโครซอฟท์เช่นกัน
ข้อมูลของ Digital Foundry มาจาก GitHub ของทีมงาน AMD ที่รวบรวมผลทดสอบฮาร์ดแวร์หลายรุ่น และหลุดออกสู่สาธารณะ โดยหน่วยประมวลผลของ PS5 ใช้โค้ดเนมว่า "Oberon" คาดว่ามีสเปกดังนี้
Digital Foundry คาดว่าสมรรถนะของ PS5 จะอยู่ราว 9.2 TFLOPS และจีพียูตัวนี้มี 3 โหมด โหมดแรกคือเล่นเกม PS5 เต็มประสิทธิภาพ ส่วนอีก 2 โหมดเป็นการลดสมรรถนะลงเท่ากับ PS4 Pro และ PS4 รุ่นพื้นฐาน เพื่อให้เล่นเกมเก่ายุค PS4 ได้
ส่วนสเปกของ Xbox Series X ถ้าเปรียบเทียบกัน
ฝั่ง Xbox Series X มีจำนวนคอร์จีพียูและแบนด์วิดท์แรมสูงกว่า ทำให้สมรรถนะรวมล้ำหน้าไปไกลกว่าที่ 12 TFLOPS
ทั้งนี้ Digital Foundry ตั้งข้อสังเกตว่า Xbox Series X อาจมีสเปกแรงกว่ามาก แต่ต้นทุนค่าฮาร์ดแวร์ก็น่าจะเยอะกว่ามากเช่นกัน แถมวงการคอนโซลมีตัวเลขราคาที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานคือ 399 ดอลลาร์ (ที่ผู้ผลิตอาจยอมขาดทุนในช่วงแรกเพื่อตั้งราคานี้) การใช้สเปกแรงน้อยหน่อยแบบ PS5 อาจช่วยให้โซนี่ทำราคาเครื่องได้ใกล้เคียง 399 ดอลลาร์มากกว่า
Digital Foundry ย้ำว่าการประเมินครั้งนี้มาจากข้อมูลหลุดที่อาจล้าสมัยหรือเปลี่ยนแปลงไปแล้วในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์อื่นๆ ที่สั่งทำเป็นพิเศษใน custom chip ของแต่ละบริษัท การนำสเปกหลักๆ มาเทียบกันโดยตรงอาจไม่สะท้อนภาพรวมทั้งหมด
ที่มา - Eurogamer
Comments
สุดท้ายก็ตัดสินกันที่ ราคาเครื่อง กะ exclusive อยู่ดีครับ ดูจากสมัย PS3 กะ PS4 pro ได้
ข่าวต่อไป ข้อมูลภายในหลุด Sony เปลี่นยไปใช้ THREADRIPPER ใน PS5
(จินตนาการ สำคัญกว่าคววามรู้ ฮ่าๆๆ)
เครื่องนึงทะลุห้าหมื่นแน่ๆ
ผมว่า Microsoft ยอมขายขาดทุนแบบแรงๆแน่นอน เพื่อที่จะให้ราคาเท่ากับ PS5 เพราะเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับบริษัทระดับ 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่ประเด็นคือ Sony อาจเล็งว่าไม่ว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพให้เท่า Xbox X Series ก็ยังรันเกมที่ 8K หรือ 4K with ray-tracing ไม่ได้อยู่ดี อาจเก็บไว้เป็น feature หลักของ PS6 ไปเลย
คอนโซลยุคนี้ ยังไงก็ดูเกม exclusive อยู่ดีอะ
ต้องรอดู Microsoft จะดันขึ้นมาได้ขนาดไหน
จากการที่ตัวเองเล่นเกมในตลาดคอนโซลอยู่ ค่อนข้างมองที่ตัวเนื้อหาและเกมที่ exclusive เป็นหลัก
ด้วยวงจรชีวิตของคอนโซลที่ยาวนาน 6 ปีขั้นต่ำ แถมเครื่องคอนโซลยุคหน้าจะเล่นเกมยุคปัจจุบันได้ ยิ่งทำให้ PS5 ได้เปรียบอย่างมาก
ประกอบกับเครื่องคอนโซลยุคนี้ ได้ลองตลาดสเปคเครื่องที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น PS4 ที่มี 2 รุ่น อย่าง PS4 และ PS4 Pro ซึ่งทำให้ช่วงแรกจะออกรุ่นปรกติทำตลาดไปก่อน 3-4 ปี แล้วอัพเกรดเพิ่มเติมเพื่อรองรับเนื้อหาและความละเอียดของจอภาพระดับ 8K ฯลฯ ในอนาคตไปอีกที
ฉะนั้นสเปคเริ่มต้น PS5 อาจจะประสิทธิภาพแย่กว่า แต่เน้นต้นทุนราคาและความพร้อมในการพัฒนาสร้างเกมให้เร็ว คือพยายามขายเครื่องขาดทุนในสัดส่วนที่น้อยลง เก็บกินเนื้อหาที่มี และ exclusive ให้มาก แล้วค่อยมาตามเพิ่มประสิทธิภาพทีหลังก็ยังไม่สาย
ผมก็มองว่า เดียวอีกซัก 2 - 3 ปี Sony อาจจะปล่อย PS 5 Pro มาพร้อม CPU Zen 3 12 core รองรับ 8K ที่ 60 FPS หรืออาจทำได้ถึง 120 fps ตามมาที่หลัง รอให้ราคาของพวก TV 8K ให้คนจับต้องได้ง่ายกว่านี้ก่อน
ส่วน PS5 เอาให้เล่น 4K 120 fps ได้ก็ หรูหราแล้ว
12 vs 9
= 4 / 3 = 133.33%
นั่นคือ xbox แรงกว่า 33%
นับว่าไม่น้อยเลย
โค้ดเนมโอเบรอน นี่แสดงว่าฮิวโก้อยู่เบื้องหลังใช่มั้ย งั้นก็จะได้เห็นโบทจังอีกรอบสินะ เอาแบบรีเมคใน PS2 นะ ต่อคอมโบมันส์ดี (ใครทันแสดงว่าแก่)
ถ้า ps5 มีย้อนหลังอย่างน้อยๆ ps3 ให้ไม่น้อยหน้า xbox ก็จะดีมาก
ยากมากครับ PS3 ใช้ชิป Cell ซึ่งใช้งานยาก ผมว่าเล่นเกม PS4 ได้นี่ก็ยอดเยี่ยมแล้ว อีกอย่างเกม PS3 หลายๆ เกมก็ทำรีมาสเตอร์มาขายใหม่บน PS4 แล้ว เช่น god of war 3, the last of us.
ใช่ครับ ตรงนี้ microsoft ได้เปรีัยบเพราะมองเกมขาด ใช้ x86 มาตั้งแต่สมัย XBOX รุ่นแรก จนสุดท้าย sony ก็ต้องยอมมาใข้ตามในสมัย PS4
Xbox 360 ก็ใช้ชิปคล้าย ๆ กับ PS3 แต่ออกแบบเรียบง่ายกว่า แค่ตอนนี้กระแสมันมาทาง x86 เลยกลับลำมาเหมือนกัน
ต้องเรียกว่า generation 7 IBM เหมางาน cpu เพราะทั้ง PS3/Xbox360/Wii based on PowerPC หมดเลย
ว่ากันว่า มันคือ Cell เวอร์ชันเพิ่มหนึ่งคอร์ และตัด SPU ทิ้งครับ :)
ถ้าจำไม่ผิด Xenon ที่ใช้ใน Xbox 360 มันคือ PPE 3 core ที่ถูกปรับแต่ง แต่ Cell BE ที่ใช้ใน PS3 มันคือ PPE 1 core ที่มี SPE 6 core (จริงๆ มี 8 แต่เกมใช้ได้แค่ 6) เข้ามาช่วยประมวลผลครับ
นึกว่ามี simulator ใน PS4 แล้ว
เดาว่า PS4 เครื่องคงแรงกว่า PS3 มาก มากพอจะรัน simulator ได้
ส่วนตัวถ้าซื้อ PS5 คงเอามาเล่น PS4 + PS5 มากกว่า PS3 ภาพค่อนข้างกากกว่า แถมราคาถูกมาก ซื้ออีกเครื่องไม่มีปัญหาอะไร
ผมว่าเกมดีๆบน PS3 ก็ทำรีมาสเตอร์ลง PS4 ซะเยอะแล้วนะครับ
ดีครับที่ย้อนหลังไป ps4 ได้แต่จะดีกว่านี้ถ้าย้อนหลังไปได้เยอะกว่านี้อีกหน่อย
ซื้อคอนโซล ไม่เคยดูเสป็คมันเลย ซื้อเพราะเกมล้วนๆ