เมื่อต้นสัปดาห์ Tesla ได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ Tesla Model 3 รุ่นที่ผลิตในจีนล็อตแรกแล้ว 15 คันโดยเป็นของพนักงาน Tesla เองก่อน และจะส่งมอบรถให้ลูกค้าทั่วไปตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมเป็นต้นไป สอดคล้องกับแผนที่วางไว้ว่าจะส่งมอบก่อนวันตรุษจีนปลายเดือนนี้
ล่าสุด Tesla ได้ปรับลดราคา Model 3 รุ่นที่ผลิตในจีนลง 16% จากราคาเดิม 355,800 หยวน (1.5 ล้านบาท) เหลือ 299,050 หยวน หรือราว 1.3 ล้านบาท หลังได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล นอกจากนี้ยังปรับราคาของอุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์ชาร์จไฟด้วย
Tesla ระบุว่าขณะนี้บริษัทใช้ชิ้นส่วนในจีนเองราว 30% แปลว่าชิ้นส่วนนอกเหนือจากนั้นถูกส่งมาจากต่างประเทศเพื่อประกอบรถยนต์ โดย Tesla ต้องการใช้ชิ้นส่วนจากจีนถึง 100% ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงจะเพิ่มจำนวนศูนย์บริการและสถานีชาร์จด่วนในจีนเป็นสองเท่าภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน
ที่มา – Reuters
Tesla Model 3 รุ่นผลิตในจีน | ภาพโดย Tesla
Comments
นึกเดาเอาเองว่าถ้าบ้านเราจะเป็นแบบนี้ได้ก็ต้องรอค่ายญี่ปุ่นพร้อมกับรถไฟฟ้าก่อน ถึงจะมีโปรอะไรแบบนี้จากรัฐบาล
ค่ายญี่ปุ่นเมื่อพร้อมทำรถไฟฟ้าก็จะไปตั้งฐานในอินโดแทนไทยละครับ บ้านเค้ามีแร่ธาตุทำแบตและรัฐบาลเค้ามองเห็นโอกาสจึงสนับสนุนเพื่อดึงนักลงทุน
รัฐบาลเราแค่เอาเวลามาคิดเพิ่มยอดภาษีก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้วครับ
อินโดน่าจะล้าหลังกว่าไทย ทั้งปัจจุบันและ แนวโน้มรวมถึงแผนการ
ลองติดตามศึกษาดูครับ เปรียบเทียบดู
อะไรคือล้าหลังกว่าไทย ถ้าบริษัทแม่เข้าไปเซ็ทให้ทุกอย่างไม่มีอะไรยาก แล้วเมืองไทยปัญหาคือการเมืองไม่นิ่ง จะทหารคุมหรือรัฐบาลประชาชนคุม เอาให้แน่ซักอย่างนักลงทุนก็เบื่อ แผนแม่บทก็งงไปดิ
เมืองไทยค่ายรถที่คุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งญี่ปุ่น ยุโรป โตโยต้า มิตซู นิสสัน เบนซ์ บีเอ็ม ขอ BOI ผ่านหมดแล้ว ซึ่งแปลว่าต้องผลิตรถ แบตเตอรี่ตามที่ขอครับ
เรื่องการเมือง เอาจริงๆ พวกธุรกิจชอบนะ รัฐประหารง่ายดี ทุกอย่างควบคุมได้ (ถ้าไม่ล่มซะก่อน)
ถ้าประเทศไทยไม่มีรัฐประหาร 49 นะ อีโคคาร์ไม่เกิดหรอกครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ นกม เราสนแต่คะแนนเสียง ไม่ค่อยสนว่าอะไรมันดีไม่ดีกับประเทศเท่าไร
ผมแค่คิดว่าเรื่องอินโดล้าหลังกว่าไทยไม่ใช่ปัญหาเรื่องผลิตและขายรถไฟฟ้ามั้งครับ ว่าแต่เจ้าตลาดรถยนต์ในไทยที่ว่ามาไม่มีใครผลิต BEV เลยซักเจ้า
ส่วนการเมืองก็อย่างว่าครับ เอาในแน่ซักทาง -_-
เรื่องปี 49 กับ อีโคคาร์ไม่แน่ใจครับ
เอาข้อมูลมาจากไหนครับที่ว่าขอboiผ่านกันหมดแล้ว ณ ตอนนี้ bev ผ่านแค่ยี่ห้อเดียวคือ fomm กับอีกตัวคือ mg เพิ่งอนุมัติในการประชุมboiไป (ยังไม่เป็นทางการ)
ค่ายญี่ปุ่นยังไม่มีเจ้าไหนผ่านboi ที่จะผลิตbev เลย มีอต่ผลักดันhybrid ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่าbev เท่านั้น
ซึ่งทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าไม่ทำbevในเร็วๆนี้(5ปี)
น่าจะหมายถึง phev กับ hev ด้วยน่ะครับ
จะเอาอะไรกับรัฐบาลไทยกันเหลอครับ ?
ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว ขอแค่ยุบทิ้งแล้วให้ประชาชนจัดการกันเองไปเลย น่าจะดีกว่านี้เยอะ ได้ผลเร็วตามความต้องการ
พูดตามตรง ถ้าคนอยากจะไปในทิศทางไหน ก็ให้คนเหล่านั้นเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช่รัฐบาลหรือตัวแทน
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ศึกษามาบ้างไหมครับว่าประเทศเรามีมาตรการหรือแผนการยังไง ไปถึงไหนแล้ว
หรือพูดไปเรื่อยเอามัน เพราะกะว่าจะช่วยให้สังคมประเทศชาติพัฒนาขึ้น
ติดตามข่าวอยู่ครับ ล่าสุด Indonesia ได้โครงการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้ามูลค่าหลายพันล้านบาทไปส่งท้ายปี ทั้งที่ควรจะเป็นเราที่ได้ และประเทศเพื่อนบ้าน เขาพัฒนาเพื่อเอาชนะไทยมาหลายสิบปีแล้ว
ตอนนี้กำลังเดินเครื่องเติมสูบด้วย บ้านเราหลุดโครงการแบบนี้ไปหลายอันแล้ว เสียดายโอกาสมาก แม้แต่ค่ายรถก็เริ่มไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนไทยก็แค่ขยายหรือลดขนาดฐานการผลิต อย่างมากก็เปลี่ยนสายการผลิตเป็นรุ่นอื่น
รถไฟฟ้าบ้านเราก็ยังไปไม่สุด บริการที่ชาร์จของเอกชนก็ยังใช้ระบบชาร์จไปกระแสตรงแรงดันสูงไม่ได้ เพราะติดกฎหมาย ขนาดที่รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานรัฐทำไปแล้ว แต่ไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก แม้แต่ภาษีก็ไม่เอื้อต่อค่ายรถไฟฟ้า พอนำเข้าก็เจอภาษีแบตอีก
รัฐบาลนี้ เท่าที่รู้ มีดีแค่นโยบายประชานิยม (ที่ไม่ควรจะมี) ระบบไร้เงินสด (ที่ยังสะดุดอยู่บ้าง) โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ หรือแม้แต่โครงการพัฒนาและสร้างมอเตอร์เวย์ ล่าสุดก็กัญชาเสรี (แต่ก็ยังช้าเอามากๆ กับโอกาสที่เสียไปกับการรัฐประหารและการเมืองปัญญาอ่อนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่เราควรจะโตกว่าสิงคโปร์ด้วยซ้ำไป) นอกนั้นไม่เอาอ่าวหรือห่วยแตก อย่างกรณีแบนสารเคมีก็อันนึงแล้ว
แต่ถ้าให้ประชาชน ร่วมกับภาคเอกชนลงมือทำทีเดียว จัดการกันเองเลย ทุกคนมีส่วนร่วมกันหมด ทุกโครงการ ไม่ต้องรอประเมิน ไม่ต้องรองบประมาณ รอการอนุมัติ เพียงแค่ภาคประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและต้องการโครงการนั้น ต่อให้มันจะแพงแค่ไหนก็ยังมีคุณภาพ ราบรื่น และเสร็จได้เร็วกว่าตอนนี้อยู่ดี
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
หลุดไปไกล เอาหลักๆ พอ
ถามหน่อยว่าใครห้ามเอกชนกับภาคประชาชนทำด้านนี้? คำว่าจัดการกันเองเลยแปลว่าอะไร แล้วตอนนี้โดนรัฐประหารอะไรห้ามกันอยู่
ทุกวันนี้ทั่วโลกที่มันผลักดันกันได้เพราะรัฐบาลสนับสนุน ทุกประเทศที่รถยนต์ไฟฟ้าทำได้รับความนิยมเพราะภาครัฐสนับสนุนทั้งด้านมาตรการช่วยผู้ผลิต กับ แจกส่วนลดให้คนไปซื้อ
ไม่มีแม้แต่ที่เดียวที่บอกว่า เอกชนกับภาคประชนไปทำๆ กันเอง แล้วเจริญ เพราะว่าเอกชนงก ประชาชนก็งก มาตราการที่มี incentive ทางการเงินเท่านั้นที่ขับเคลื่อนได้ ซึ่งจะมีใครควัก ก็รัฐบาล
ส่วนเรื่องหน้าที่ในการทำ รัฐบาลเขาก็ต้องให้เอกชนทำอยู่แล้ว
ซึ่งก็แก้กฎหมายมาหลายตัวแล้ว เพื่อเอื้ออำนวยและส่งเสริม ทั้งด้านภาษียานยนต์ incentive BOI จะให้ตัดตอน ม.44 ไม่คุณก็มีอีกหลายคนพร้อมด่าอีก การันตี
ทีนี้การทำงานของรัฐ มีหลายองคาพยพ ไม่ใช่ ครม.อย่างเดียว เข้าใจว่า มันไม่อินเหมือนเรื่อง ครม. อยู่ละ
ประธาน บีโอไอ เป็นใคร ทการหรือเปล่า ดังมั้ย หน้าตายิ้มน่าหมั่นไส้ไหม ก็ว่ากันไป
ผมไม่ได้เลือก ลุงตู่ แต่ถ้าให้พูดอย่างในเป็นกลาง ผมว่า รัฐบาล รัฐประหาร ก้สาวหน้าไปหลายด้าน รฟฟ คืบหน้าไปเยอะมาก เทียบกับรัฐบาล สามปีกว่าที่เจอน้ำท่วมในตำนาน นึกไม่ออกจริงๆ ว่าทำอะไรบ้าง นอกจาก ประชานิยม สุดเลิฟที่เราชอบด่ากัน
การทำงานมีหลานกลไกจริงครับผมไม่เถียงเลยแต่ผู้นำที่ดีคือมีวิสัยทัศน์แล้วสั่ง ไม่ใช่พูดไปวันๆ สมัย ทักกี้ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเอื้อผลประโยชน์แต่สิ่งที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันคือทักษิณมีวิสัยทัศน์และสั่งเป็น
ส่วนเรื่องลงทุกโครงสร้างพื้นฐานอันนี้รัฐบาลต้องทำอยู่แล้วในเงินกู้ 2ล้านล้าน ด่าๆกันมันมีเรื่อง มอเตอร์เวย์ รฟฟ. อยู่แล้ว แต่รบ.ลุงเนี่ยอยากทำเรื่อง รฟฟ เอาใจคนกรุงเทพก่อน รถไฟความเร็วปานกลางชะลอไว้
สุดท้ายในเรื่องนี้คนที่ผิดที่สุดเลยคือ ขรก.ไทยไม่ทำงานมากพอคนเก่งไม่มี ถ้าเรามี ขรก. ดีระบบมันไปได้ ไม่ต้องรอใครสั่ง
ว่าตามตรง คนในประเทศนั่นแหละครับต้องช่วยกันพัฒนาความสามารถ ให้รองรับธุรกิจได้ ต่อให้ทุกอย่างผ่านหมด รัฐบาลเปลี่ยนไปกี่ชุด ยกบริษัทโหดๆมา สุดท้ายประเทศไทยก็เป็นเพียงเจ้าของที่ให้เช่าครับ เพราะคนส่วนมากความสามารถไม่พอ ขนาดแนวคิดเรื่องคมนาคมยังจะเอาแต่รถส่วนบุคคลกันอยู่เลย เพราะเหตุผล 108 แทนที่จะเชียร์ให้ไปทุ่มพัฒนาที่ระบบสาธารณะ
+1 ครับ แต่ขนส่งสาธารณะทำยังไงก็ไม่สามารถครอบคลุมได้ครับ ผมยังเห็นว่ารถจำเป็นอยู่หากจะไปเที่ยว แต่ถ้าใช้ชีวิตเมืองขนส่งมวลชนจำเป็นมาก
ถ้านำเข้ามาราคาถูกกว่าลีฟนี่สงสัยจะขายดีจัด
ถ้ารัฐช่วยยกเลิกภาษีใน 1 ปีแรก น่าจะช่วยให้คนมาลงทุนตั้งฐานผลิตในไทยมากขึ้น คนไทยซื้อรถง่ายขึ้น แล้วสถานีชาร์จก็จะเพิ่มขึ้นตามนะ
มาตรการมีครับ แผนการมี ต้องการ commitment
เท่าที่ดู ไปในทางที่ถูกต้องครับ
พอดีมันไม่เกี่ยวกับข่าวนี้เท่าไร ก็เลยไม่ได้มีการปูพื้นหลังเรื่องประเทศไทยกับรถยนต์ไฟฟเา
มาตรการมีจริงแต่ครึ่งๆกลางๆ แผนการผมว่าคุณเชื่อลุงสมคิดเจ้าพ่อการตลาดมากไปคือประเด็นที่แกเล่นเปลี่ยทุกปี 2 ปีแรก Start up มาพูดใหญ่พอเทรนโลกหาย ลุงสมคิดต้องเปลี่ยนไปเป็น 4.0 คือมีการตลาดน่ะดีคับแต่มันต้องมี implementation และมี consistency ด้วย ตัวอย่างที่ดีคือสิงคโปร์ถึงแม้ SG จยังไม่มี Tesla แต่นโยบายเค้าวางและทำจริงหาพันธมิตรจริง
ถ้า รบ.จริงจังตอน Musk มาไป Lobby เชิญมาทำเนียบแล้วคุยกันเลย
ส่วนมาตรการผมดูแล้วไม่กระตุ้นตรงไหนไม่ตอบโจทย์ ขอคืนภาษีแบบต่างประเทศก็ไม่มี ตอนนี้กระทรวงสิ่งแวดล้อมมาเก็บภาษีจัดการแบตอีก คือที่สวิสอ่ะเก็บจริงแต่เค้าเก็บเมื่อมันเริ่มติดตลาดแล้วไม่ใช่เก็บแต่เริ่ม
มักไม่มาตั้งโรงงานที่ไทยหรอครับ ต่อให้ล็อบบี้ยังไง
จำนวนประชากรกับเงินในกระเป๋า และความมั่นคงของรัฐบาล คนล่ะเรื่องกับจีน คิดง่ายจะตั้งร้านขายชานมไข่มุกระหว่างปัตตานีกับกรุงเทพ จะเลือกที่ไหน
ผมคงไม่เอาไทยไปเทียบกับจีนอ่ะครับ เพราะจีนมันถือว่าเป็นตลาดนึงเลยยังไงทุกเจ้าต้องไปตั้งอยู่แล้วไม่ช้าก็เร็ว
สิ่งที่รัฐบาลไทยทำได้คือพยายามขายว่าสร้างที่ประเทศเราสามารถส่งไป AUS อินโด มาเลย์ได้ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำอยู่ เพราะมันได้ผลตอนอุตสาหกรรมรถญี่ปุ่นบูมช่วง 70 80 ทั้งค่ายรถ และ Supplier เลือกไทย แต่รถไฟฟ้ามันต่างกันชิ้นส่วนลดลง Supplier ส่วนแบ่งน้อยลง ค่ายรถอย่าง Tesla ได้ส่วนแบ่งมากขึ้น เพราะฉะนั้นไทยต้องขายตัวเองหนักกว่าให้เช่าที่ฟรี ไม่มีภาษี 10 ปี ลดราคาให้กับประชาชนอีกอะไรก็ว่าไป คือวัตถุประสงค์ไม่ใช่แค่สร้างงานแต่อัปเกรดประเทศไปเลย ทำให้ประเทศไทยดูทันสมัยเจ๋ง ซึ่งมันไม่ใช่แนวคิดปัจจุบันที่แค่ต้องการสร้างงาน
ผมจจะไม่แปลกใจเลยถ้าข่าวต่อไป Tesla ะไปตั้งโรงงานที่อินโด เพราะใกล้ออสเตรเลียที่เป็นแหล่งผลิตลิเธียมมากกว่า
ยกเลิกภาษีใน 1 ปีแรก + เพิ่มที่ charge ขนาด 250 Kilo wait ตามถนนหลัก ๆ ด้วยจะดีมาก
แล้วอย่างนี้เข้าเกณท์ BOI ไหม ภาษี 0% เพราะถ้าไม่เข้า มาบ้านเราก็คงมีแต่พวกเศรษฐีซื้อได้ ราคาคงเกิน 3 ล้าน