By: BlackMiracle 
on 5 January 2020 - 10:54
Tags:
Microsoft เปิดตัว Surface ชุดใหญ่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย Surface Pro 7, Laptop 3 และผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Pro X ที่ใช้ซีพียู ARM โดย Pro 7 และ Laptop 3 ได้วางขายในประเทศไทยไปก่อนแล้วเมื่อเดือนธันวาคม
ล่าสุด Microsoft ประเทศไทยได้เปิดราคาพรีออเดอร์ Surface Pro X แล้ว โดยจัดเป็นชุดบันเดิลพร้อมคีย์บอร์ดรุ่นซิกเนเจอร์มีช่องเก็บปากกา และปากกาแบบแบนที่ทำมาใช้กับ Surface Pro X โดยเฉพาะ ดังนี้
- Surface Pro X LTE รุ่นแรม 8GB, SSD ความจุ 128GB ราคา 47,680 บาท
- Surface Pro X LTE รุ่นแรม 8GB, SSD ความจุ 256GB ราคา 56,680 บาท
อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่มีเครื่องเดี่ยวๆ ขาย แต่ Microsoft ก็เปิดราคาเฉพาะชุดคีย์บอร์ดและปากกาด้วยที่ 12,690 บาท แปลว่าหากลองหักลบดูแล้วเครื่องอย่างเดียวรุ่น 128GB มีราคา 34,990 บาท และรุ่น 256GB ราคา 43,990 บาท ซึ่งนี่เป็นการลองคำนวณดูเองเท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลว่า Microsoft จะตั้งราคาเครื่องเดี่ยวๆ กี่บาท
นอกจากนี้คนที่พรีออเดอร์ยังได้รับสิทธิ์แลกซื้อ Office 365 Personal 1 ปีและ Arc Mouse ในราคา 5,040 บาทด้วย
ราคาดังกล่าวมาจากร้านออนไลน์ของ Microsoft บน Lazada แต่สถานะยังขึ้นว่าของหมดอยู่
Surface Pro X เป็นผลิตภัณฑ์น้องใหม่ในตระกูล Surface โดยใช้ซีพียู ARM ที่ Microsoft ออกแบบเองในชื่อ SQ1 และผลิตโดย Qualcomm ซึ่งผู้ที่สนใจใช้งานต้องตระหนักว่าแอพที่รองรับยังมีน้อยมาก รันได้เฉพาะโปรแกรมแบบ x86 และโปรแกรมที่ทำมาสำหรับ ARM64, ARM32 เท่านั้น ส่วนโปรแกรมแบบ x64 นั้นใช้งานไม่ได้เลย โดยสามารถศึกษาข้อจำกัดได้จากเอกสารของ Microsoft
ที่มา - Lazada
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Urgent Jobs
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ตอนนี้ app ที่รองรับยังน้อยอยู่ ขอรอดู gen หน้าละกันนะ ถ้าจะซื้อตอนนี้ยังไงก็ไปทาง Pro 7
เพิ่มเติมอีกอย่างคือ Windows 10 บน Surface Pro X ไม่รองรับ driver หรือ dll ของ x86/x64 นั่นคือ ฉะนั้นต่อให้สามารถรัน x86 app ได้ แต่ app นั้นไปเรียกใช้ driver ดังกล่าวก็จะรันไม่ได้อยู่ดี เช่น legacy VPN app ทั้งหลาย (เช่น Cisco AnyConnect) ยกเว้นตัวที่มีบน Windows Store, หรือเช่น driver ของ printer หรือ devices เฉพาะทางบางตัวที่เขียนมาเฉพาะ x86/x64
ไม่เดือนร้อนกับข้อจำกัดเลย เพราะซื้อใช้เป็นเครื่องรองเอาไว้จดงาน+ทำงานเล็กๆน้อยๆแบบพกพา แล้วก็ Sync ไปทำงานบนเครื่องหลักผ่าน OneDrive ที่บ้าน แต่ที่เดือนร้อนเลยก็คือ.........ราคา!!
แท็บซัมซุงสามารถทำได้ในราคาถูกกว่าครึ่ง
ราคา แรง มาก
ราคานี้จัด iPad Air/Pro คุ้มกว่านะ
มีแอพให้จดหลากหลายกว่าทั้ง goodnotes, notability, bear และอื่นๆอีกมาก แถมยังดู Netflix, YouTubeผ่านแอพได้ดีกว่าอีกด้วย
ราคานี้ iPad pro กินขาดเลย
ในมุมมองผม ยังไม่แนะนำให้ซื้อใช้งานครับ
ราคาขนาดนี้แนะนำไป Surface Pro เลยดีกว่า
แพงเพราะอะไรอยากรู้จัง เพราะซีพียูจ้างเขาทำหรือ ราคามันเท่า x86 เลย แถมทำงานได้ไม่เท่า แล้วรันแอปของแอนดรอยก็ไม่ได้ ถ้าทำออกมาได้ราคาแพงแบบนี้จะแข่งในตลาดยังไง
ทำเป็นตัวอย่างเฉยๆ ให้รายอื่นเอาไปทำบ้างในราคาย่อมเยาว์มั้งครับ ไม่ต้องแข่งกับพาร์ทเนอร์ตรงๆ
เหตุผลว่าทำเป็นตัวอย่างเฉยๆ น่าจะจบไปตั้งหลายปีแล้วนะครับ แล้วหลังๆ ไมโครซอฟท์ก็ตั้งใจทำ ตั้งใจเข็นไลน์นี้มากๆ ด้วย
ถึงขนาดเข็นรุ่นใหม่ ปรับปรุงดีไซน์ตลอดทุกรุ่น แบบนี้ทันเกินเลยการทำเป็นตัวอย่าง/ทำคัวอ้างอิงแล้วครับ (หลายปีแล้วด้วย)
ทำให้น่าคิดว่าด้วยราคาขนาดนี้ แต่ยังสามารถออกรุ่นต่อไปได้เรื่อย ๆ มีเงินหมุนเวียนมาปรับปรุงดีไซน์รุ่นใหม่ตลอด
แสดงว่าราคานี้มันขายได้และคุ้มค่าที่จะขายนะครับ
มันน่าจะทำตลาดได้ดีระดับนึงเลยครับ บ.ผมก็มีแฟนๆ เซอร์เฟสเยอะอยู่นะ
ผมก็แฟนเซอร์เฟส แต่ใช้แมคแล้วสบายต่อการพัฒนาพวกโอเพนซอร์สมากกว่าเยอะอ่ะครับ
ผมหมายถึงรุ่นที่ใช้ซีพียู Arm ครับ
ลาก่อย.
อยากรู้ว่า MS Thai เป็นคนตั้งราคาเองรึป่าวหรือ MS SG เป็นคนกำหนดมาแต่ละปีตั้งได้แพงมากกกกกกกกก เพิ่มจาก 128 เป็น 256 1หมื่นอะไรเนี่ย
น่าจะตั้งเองครับ เพราะลองคำนวนราคาจาก US แบบคูณ 35 แล้วราคาประมาณนี้แหละครับ
ตอนนี้ค่าเงินบาท ~30 บาท/USD นะครับ
เขาน่าจะเผื่อค่าความเสี่ยงไว้ด้วยครับ
เผื่อที 5 บาทจาก 35 บาทนี่ไม่เยอะไปเหรอ?
ต้องบวก Vat ไปด้วยครับ และการที่รองรับ LTE อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าอาจจะโดนภาษีเป็นหมวดอื่นหรือเปล่าเหมือนกัน
ข้างบนเราพูดถึงแค่อัตราแลกเปลี่ยนอย่างเดียวเนอะ
ถ้าพวก VAT หรือภาษีอื่นๆ ด้วย component อื่นๆ อันนี้คุยกันต่อได้ใน thread อื่นๆ
ก็ไปซื้อ SSD (M.2 2230) 256GB มาเปลี่ยนเองก็ได้นิครับ? ด้านหลังมันถอดเปลี่ยนง่ายมาก ใช้แค่เข็มจิ้มกะไขควงหัวดาว T3
มันหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่ไหนล่ะครับ M.2 2230 - -
ตอนนี้มีแต่ OEM ติดเครื่องมากันหมด ไม่มีขายแยกเลย ถ้าจะซื้อก็ต้องเป็นพวก Refurbished ที่ไปแกะมาจากเครื่องอื่น แถมความจุที่มากกว่า 256 นี่หายากมาก
ต้องรออนาคตแหละครับถึงจะมีผู้ผลิตทำออกมาขาย
มันไม่ใช่เหตุผลว่าทำไมราคามันเพิ่มมา 9,000 พันนี่ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อยากได้
แพงเกิ๊นนนน
ข้อจำกัดยังเยอะ แถมขายแพงอีก ผมว่าแป๊กชัวร์
ถ้าทำราคาถูกกว่านี้อีก และเวลาที่ผ่านมา ทุ่มการพัฒนาให้ ARM ทำงานกับ x86 emulator ได้ลื่นไหลเหมือน Android Emulator กับทุก App แล้วทำให้รองรับ x86-64 ด้วยตั้งแต่แรก ผมว่า WoA ไปได้สวยกว่านี้เยอะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
iPad Pro คุ้มกว่าเยอะ
ไม่เข็ดจริง ๆ ห้ะๆๆๆ
windows ไม่น่าจะเหมาะกับ ARM นะ
ถ้าอยากจะทำ ไปใช้ android แล้วปรับแต่งเฉพาะ surface น่าจะดีกว่า
Surface RT ผ่านไป 6-7 ปี ความสามารถลดลงจนทำงานได้แค่ Office, ฟังเพลง และใช้จัดการไฟล์อย่างเดียวเลย แย่กว่า iPad หรือ Notebook ที่ราคาพอๆ กัน ที่ขายยุคเดียวกันอีก พวกนั้นยังทำงานที่ควรทำได้อยู่ browser มีแต่ modern IE ขนาด Edge ก็ยังไม่มี ลง browser อื่นๆ ก็ไม่ได้
พอมาตัวนี้ ชะตากรรมดูแล้วไม่ต่างกัน ถ้ายังพัฒนาบนแนวคิดขายก่อน พัฒนาทีหลังแบบนี้
ฆ่า Intel ให้ตายก่อนถึงจะพัฒนาต่อได้ (ทั้งที่จริงคนทำ x86-64 มาก่อนคือ AMD...)
ผมว่าตัวนี้ต่างจาก Surface RT นะ
1. มันมีปากกามาด้วย อันนี้ต่างเห็นชัดแน่นอน พอมีปากกาแล้วสามารถเขียนได้ แล้วก็ Office รองรับปากกามากขึ้น
2. ความสามารถพื้นฐานเหมือน Surface Pro ปรกตีคือมีกล้อง, Windows Hello, Kick Stand แบบเดียวกัน ต่างกันก็เรื่อง App กับ LTE ซึ่งถ้าคนที่ใช้ Office ปรกติทั่วไป ผมว่าไม่ต่างกันมาก ตอน RT ที่คือความสามารถสู้ Pro ไม่ได้เลย แถมรู้สึกไม่ Support x86 อีก (ยุคนั้น Windows RT)
โดยรวมแล้วอาจจะไม่ตายเหมือน RT แต่คงไม่ได้กว้างขวางสู้ Surface Pro ธรรมดาหรอกครับ Surface Pro X มันเฉพาะกลุ่มมาก ๆ ผมเองก็ไม่แนะนำ Pro X ให้กับคนอื่นซักเท่าไหร่หรอก
แต่เคสนี้ผมว่าผมคงซื้อมาลองแหละ (ความแรดส่วนบุคคลล้วน ๆ) อาจจะกลายเป็นที่ทับกระดาษหรือเขียงในอนาคตก็ได้นะ LOL
ตราบที่เปิดเว็บได้สมบูรณ์นี่ผมก็สบายมากๆ ไปแล้วคนนึงล่ะครับ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าถึงคราวที่ต้องใช้งานอะไรที่มันใช้ไม่ได้แล้วมันใช้ไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ ก็จะเซ็งเป็นรอบๆ ไป
คือ Surface RT มันอายุ 6 ปี แล้วตอนนี้มันก็บอกอะไรหลายอย่าง Surface Pro X ก็คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองอยู่สึกปีสองปีว่ามันคุ้มค่าจริงๆ กับค่าตัวขนาดนี้
ผู้ใช้แบบ early adopter มีต้นทุนเสมอ ถ้าดีก็ดีไปเลย แต่ถ้าไม่ดีก็จะรู้สึกเสียดายเงินหน่อยๆ (แบบผม) หลังๆ ก็เลยพยายามลดๆ นิสัยแนวนี้ลง