By: mheevariety 
on 4 March 2020 - 11:58
Tags:
Topics:
Black Shark แบรนด์มือถือเกมมิ่งที่เปิดตัวรุ่นแรกไปในปี 2018 และรุ่น Black Shark 2 ในปี 2019 กลับมาอีกครั้งในปี 2020 กับมือถือเกมมิ่งสองรุ่น Black Shark 3 และ Black Shark 3 Pro
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับชิป Snapdragon 865 ระบบระบายความร้อนแบบ liquid-cooling แรม LPDDR5 ขนาด 8GB/12GB หน่วยความจำ UFS 3.0 กล้องหลังสามกล้อง (กล้องหลัก 64MP กล้อง ultra-wide 13MP, กล้องวัดระยะชัดลึก 5MP) กล้องหน้าความละเอียด 20MP ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และรองรับ 5G ทั้งสองรุ่น
โดยรุ่น Pro จะมาพร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh หน้าจอ AMOLED ขนาด 7.1 นิ้ว ความละเอียด 3,120 x 1,440 พิกเซล พร้อม refresh rate ที่ 90hz และอัตราการตอบสนองของหน้าจอต่อการสัมผัสที่ 270hz
ส่วนในรุ่นธรรมดา จะมาพร้อมแบตเตอรี่ 4,720mAh หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว Full HD+ ความละเอียด 2,400 x 1800 และมี refresh rate กับอัตราตอบสนองเท่ากับรุ่น Pro
ทั้งสองรุ่นยังมีพื้นที่บนหน้าจอสี่จุดที่รองรับการสัมผัสที่น้ำหนักต่างกัน ปุ่มแบบ physical ด้านข้างเครื่องอีกสองปุ่ม เพื่อเพิ่มออปชั่นในการเล่นเกมให้สมเป็นมือถือเกมมิ่ง รองรับการชาร์จเร็วแบบ 65W ผ่าน USB-C ที่สามารถชาร์จจาก 0 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ได้ภายใน 12 นาที ชาร์จจนเต็มได้ภายใน 38 นาที และยังมีช่องชาร์จแบบพินแม่เหล็ก ที่รองรับการชาร์จ 18W ด้านหลัง (เพื่อไม่ให้เกะกะในการเล่นเกม) อีกด้วย
ราคาวางจำหน่าย Black Shark 3 รุ่นธรรมดา
- แรม 8GB ความจุ 128GB ที่ 3,499 หยวน (ประมาณ 16,000 บาท)
- แรม 12GB ความจุ 128GB ที่ 3,799 หยวน (ประมาณ 17,200 บาท)
- แรม 12GB ความจุ 256GB ที่ 3,999 หยวน (ประมาณ 18,000 บาท)
ส่วน Black Shark 3 Pro
- แรม 8GB ความจุ 256GB ราคา 4,699 หยวน (ประมาณ 22,000 บาท)
- แรม 12GB ความจุ 256GB ราคา 4,999 หยวน (ประมาณ 23,000 บาท)
Black Shark 3 รุ่นธรรมดาจะวางจำหน่ายในประเทศจีน ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ และรุ่น Pro ในวันที่ 10 มีนาคม เป็นต้นไป ส่วนการวางจำหน่ายทั่วโลก ทาง Black Shark กล่าวว่าจะตามมา “ในอนาคตอันใกล้” นี้
ที่มา - Engadget
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
refresh rate กับ touch sampling สูง ๆ มันสัมผัสได้ รู้สึกได้จริงไหมครับ
ผมใช้ iphone 7 คู่กับ ipad pro ยังไม่รู้สึกถึงความต่างของจอ 60 กับ 120 Hz เลย
แต่เห็น youtuber ฝรั่งหลายคนบอกว่ามันต่างกันมากจนรู้สึกได้ชัด
ใช้บ่อย ๆ เดี๋ยวก็เห็นความต่างแหละ เหมือนคนดู 4K บ่อยจนเริ่มแยกออก แต่คนไม่ได้ดูบ่อยก็ยังแยกไม่ค่อยออกนะ
ผมรู้สึกเวลาลาก หรือหมุนจอเร็วๆ จะเห็นภาพสมูธกว่าครับ
เห็นนะครับ เวลาเล่นเกมเพลงที่มันมีปุ่มให้กดบนจอนี่ชัดมาก สมูทมาก
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
touch sampling ผมยังไม่แน่ใจครับ แต่ refresh rate นี่เห็นชัดมากครับ จอมือถือผมไม่แน่ใจว่าไปได้แค่ไหนแต่ 60/90 นี่แยกออกแน่ ส่วนจอคอมนี่คือผมเคยแค่ 144 แต่เชื่อว่าผมแยก 144 กับ 200+ ออกแน่ๆ เพราะจอ 144 Hz ที่ 1080p 27 นิ้วเองก็ไม่ได้ลื่นขนาดนั้น
นอกจาก refresh rate แล้วต้องดูความละเอียดและขนาดจอด้วยนะครับเพราะมันมีผลต่อการรับรู้เช่นกัน สมมติเป็น 60 Hz เหมือนกัน ความละเอียดเท่ากัน หน้าจอต่างกันสิบเท่า การกระโดดของพิกเซลมันต่างกันจาก 0.5 มิลลิเมตรเป็น 0.5 เซนติเมตรนี่จากไม่รู้สึกก็คงต้องรู้สึกละว่ามันกระตุก
ชัดมากครับบางทีแค่เข้าเกมก็บอกได้แล้วว่าเกมนี้ล็อกแค่ 60Hz(หรือที่จริงเราก็ลืมปรับเอง55+) เพราะเราชิน Hz สูงๆแล้ว
ของผมเคย blind test ตัวเองโดยบังเอิญกับ 75Hz ผลคือก็รู้สึกว่าลื่นกว่า 60Hz ครับ
ส่วนที่ปรับเองแบบตัวเองรู้ตัว ผมว่า 72 กับ 60 นี่ก็ต่างแบบรู้สึกได้
เห็นข่าวลือที่หลุดมาตอนแรกบอกว่าจะมีรุ่น 16GB ด้วย สุดท้ายไม่มี หรืออันที่จริงแล้ววางแผนว่าจะมี แต่เจอปัญหาโรคระบาดกระทบซัพพลายรึเปล่า
สวยนะ ทำเป็นเล่นไป ดีไซน์กล้องหลังก็ดีเลย
สวยกว่าผลไม้อีก 555
ความสวยเป็นปัจเจก หน้าตาแบบเหมือนคอมพิวเตอร์แต่งแบบนี้สำหรับผมขี้เหร่มากครับ
ผมว่ามันเยอะไปอะครับ ถ้ามองมันสวยเท่ไรแบบนี้ก็พอไหว แต่ถ้าเอาแบบสวยเรียบๆ ก็ไม่ได้นะครับ มันคนละสไตล์กัน
คนที่ชอบดีไซน์เรียบๆ ส่วนใหญ่จะไม่ชอบดีไซน์แนวดิจิทัลไซเบอร์แบบนี้อยู่ละ เพราะติดความชอบอะไรที่มันเรียบๆ ไม่เยอะ
ส่วนคนที่ชอบดีไซน์แนวดีจิทัลไซเบอร์ หรือเยอะๆ เท่าที่ผมเห็น สามรถแบ่งได้ 2 แบบ คือ 1. สามารถที่จะยอมรับดีไซน์ที่หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะแบบเยอะ หรือแบบเรียบ 2. ไม่ชอบดีไซน์เรียบๆ เพราะมองว่า มันเรียบซะเหมือนกับว่า ออกแนวขี้เกียจดีไซน์ ประมาณว่า เหมือนกับเอากระดาษขาวเปล่าๆ มาวางองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ดูดีนิดๆ หน่อยๆ จบ ..เด็กประถมก็ทำได้ ..สู้แบบดีไซน์เยอะๆ ไม่ได้ ที่การจัดวางองค์ประกอบการดีไซน์ยากกว่า และใช้หัวคิดมากกว่า แถมผลิตยากกว่าด้วย
สำหรับผมหรือ? ..ผมชอบดีไซน์แบบว่า ไม่ต้องเรียบมาก แต่ก็ไม่ต้องเยอะมากจนมันดูเละเทะ ..ตัวดีไซน์ของ Black Shark 3 ผมก็ชอบนะ ทำออกมาได้สมมาตรและสวยดี
มันไม่กันน้ำใช่ปะครับ ไม่เห็นมีเขียนไว้