คนไทยคุ้นเคยกับการใช้งานแอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ TrueMoney Wallet กันอยู่แล้ว เพราะใช้ซื้อของใน 7-Eleven และร้านค้าชั้นนำมากมาย โดยจะได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงใช้จ่ายซื้อเกม จ่ายบิล เติมเงินมือถือ ฯลฯ
ในบทความนี้ Blognone Workplace จะพาไปพูดคุยกับ Ascend Group บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังแอพ TrueMoney Wallet และ Weloveshopping WeMall ที่คนไทยคุ้นเคย รวมถึงยุทธศาสตร์ของบริษัท วัฒนธรรมองค์กร และตำแหน่งงานใหม่อันเป็นโอกาสของคนทำงานไอทีในไทยให้เข้ามาสมัครกัน
Ascend Group เป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจาก True Corporation ปัจจุบันอยู่ภายใต้ C.P. Group มีธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ
สถาพร คิ้วสุวรรณสุข Head of Engineering ประเทศไทยของ Ascend Money ให้รายละเอียดว่า ผลิตภัณฑ์หลักของ Ascend Money คือ TrueMoney Wallet
แต่ที่นี่ยังมีส่วนงานอื่นนอกเหนือจากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) แยกย่อยออกมาคือ Ascend Nano ธุรกิจสินเชื่อ เพิ่งเริ่มให้บริการไม่นาน เป็นบริการให้คนมาผ่อนซื้อโทรศัพท์ได้ที่ศูนย์ True โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร หรือไม่มีบัตรเครดิตก็ได้ นอกจากนี้ยังมี Ascend Wealth เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งสองอย่างหลังเพิ่งเริ่มต้นไม่นาน แต่ผลิตภัณฑ์หลักของเราคือ TrueMoney Wallet นั่นเอง
ทีมทำงานเฉพาะด้านเทคโนโลยี มีวิศวกรอยู่ราวๆ 200 คนซึ่งโปรแกรมเมอร์ 150 คน QA 50 คน และมีทีมดูแลระบบอื่นๆ อีกราว 50 คน
ความท้าทายที่ทีม Ascend Money เจอคือ ต้องรองรับจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมาก TrueMoney Wallet มีผู้ใช้งานกว่า 12 ล้านคนต่อปี ซึ่ง Traffic ที่เกิดขึ้นจึงถือว่าเยอะมาก การทำ scale ระบบจึงเป็นเรื่องท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเกิดปัญหาขึ้นจะทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้ใช้งาน
ความท้าทายต่อมาคือ ความเร็วในการออกโปรดักต์และฟีเจอร์ใหม่ๆ เพราะวงการฟินเทคมีการแข่งขันสูง ใครไปข้างหน้าได้เร็วกว่าได้เปรียบ ดังนั้น ต้องทำฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาให้เร็วที่สุด และคงรักษาประสิทธิภาพ TrueMoney Wallet มีอยู่แล้ว เบื้องหลังหน้าตาแอพ มี Back-End อีกกว่า 200-300 ฟังก์ชั่น อยู่ในนั้น ดังนั้น เราจึงต้องมีทีมงานทีใหญ่ เพื่อดูแลฟีเจอร์ที่มีอยู่ และสร้างฟีเจอร์ใหม่
ขณะนี้เรามีความต้องการบุคลากรไอทีเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Native Mobile App ทั้ง iOS และ Android และ Back-end Java
คุณสถาพรกล่าวเพิ่มว่า เทคโนโลยีที่ใช้กันตอนนี้คือใช้ระบบ Openshift เพื่อให้การทำงานมี automation เกิดขึ้น เช่น เขียนโค้ดไว้ใน Pipeline คือสามารถทำเทสต์ได้ก่อนที่จะขึ้นไปอยู่ในขั้นตอน production นอกจากนี้ยังใช้ AWS Cloud ให้บริการส่วนหนึ่งขึ้นไปรันอยู่บนนั้น กล่าวคือ เรามีเทคโนโลยีที่หลากหลาย มีการทำ CICD คือสร้าง และทำ automate test ในวงจรการทำงานเดียวกัน
Ascend Money ต้องการทีมงานจำนวนมาก เปิดรับคนจบใหม่ด้วย มีคนที่พร้อมจะสอนงานอยู่แล้ว เป้าหมายหลักคือ รับคนทำงานเข้ามาเพื่อให้เราทำงานได้เร็วขึ้น
เอกภพ จิตพนอรักษ์ Head of Development ของ Ascend Commerce ส่วนงานสำคัญของ Ascend Group ระบุว่า ผลิตภัณฑ์หลักที่ Ascend Commerce ทำแล้วคนรู้จักคือ WeMall และ WeLoveShopping แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะ Ascend Commerce ยังทำ API ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งหมด เช่น ระบบจอง iPhone ล่วงหน้าของ Truemove H เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ร่วมบ้านกันกับ Ascend Commerce อีก เช่น EGG Digital ผู้พัฒนานวัตกรรมสำหรับการตลาดให้กับทั้งภายในและภายนอกเครือฯ Ascend Travel ระบบจองที่พักแต่เน้นลูกค้าบริษัทที่จองที่พักเพื่อการสัมมนาภายในองค์กร นอกจากนี้ยังมี Goodchoiz เป็นแพลตฟอร์มจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงานให้บริษัทต่างๆ Pantavanij แพลตฟอร์มการจัดซื้ออิเล็กทรอนิกส์ และ ADEN Fulfillment ส่วนงานพัฒนานวัตกรรมสำหรับระบบงานคลังและระบบ Logistic
ปัจจุบัน Ascend Commerce มีทีมงานทั้งหมดกว่า 700 คน แต่ถึงแม้จะมีขนาดคนที่มากกว่า Startup ทั่วไป เราก็ยังมีบรรยากาศการทำงานแบบ Startup มีความยืดหยุ่นสูง เปิดกว้างทางความคิด เพื่อสิ่งที่บริษัทต้องการก็คืองานที่เสร็จสมบูรณ์ มีคุณภาพ และพนักงานทุกคนภาคภูมิใจกับสิ่งที่ตนทำ
กระบวนการทำงานหลักๆ ที่ทีมงานใช้คือ Agile และ Scrum ข้อดีคือมันเปิดโอกาสให้ทีมได้ประเมินงานเอง โดยมีเดดไลน์ที่แน่นอนส่งไปให้ แล้วทีมงานเอาไปจัดการเรื่องเวลาการทำงานเอง
คุณเอกภพพูดถึงความท้าทายว่า การหาคนที่ใช่เป็นสิ่งสำคัญ ต้องการนักพัฒนาที่มี mindset กล้าพูดกล้าทำ ไม่อยากเห็นนักพัฒนาตีกรอบให้ตัวเองว่าเป็นแค่นักพัฒนา อยากให้คิดมากไปกว่านั้นว่าเขาสามารถส่งต่องานแบบไหนให้ลูกค้าได้บ้าง
“เราต้องการคนที่กล้าพูดกล้าทำ เราไม่อยากเห็นนักพัฒนาตีกรอบให้ตัวเองว่าเขาเป็นแค่นักพัฒนา แต่ต้องคิดว่าเขาจะสามารถส่งงานอะไรให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้บ้าง และต้องแสดงความเห็นเรื่องงานได้”
ทักษะคนทำงานที่ Ascend Commerce ต้องการคือ Developers ที่สามารถใช้ Full Stack ได้ ทำได้ทั้ง Front-End และ Back-End
นอกจากนี้ยังต้องการคนทำหน้าที่ QA Engineer ที่สามารถทำ Test Automation ได้ รวมถึงนักพัฒนาทางด้าน IT อื่นๆไม่ว่าจะเป็น Data Engineer Technology Operations และ Security Opetations
คุณเอกภพกล่าวเพิ่มเติมว่า ความท้าทายของ Ascend Commerce คือทำอย่างไรที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่แก้ปัญหาให้กับผู้คน และเป็นนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าให้กับทั้งบริษัท คนพัฒนา และผู้ใช้งานไปพร้อมๆ กัน จึงอยากเชิญชวนทุกคนที่สนใจในสิ่งเหล่านี้ ให้ลองมาสมัครงานกับเรา ไม่แน่ว่าที่นี่อาจเป็นที่ๆ ใช่สำหรับคุณ
ปุณย์เอก ชยุติ Development Manager TrueMoney ทำงานในบริษัทนี้มานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยเริ่มทำงานที่ Ascend Commerce ก่อนจะย้ายมา TrueMoney
ตลอดเวลาที่ทำงานมีโจทย์ยากมาให้ท้าทายความสามารถตลอดเวลา สนุกกับงาน
เปิดโอกาสให้ลองเทคโนโลยีใหม่ stack ใหม่ๆ ตลอดเวลา และเราสามารถแนะนำเทคโนโลยีใหม่ได้
วัฒนธรรมการทำงานที่นี่คือเน้นเรื่อง KAIZEN (Continuous Improvement) คือการทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสอดคล้องกับการได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะเราต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
บรรยากาศการทำงานคล้ายๆ กับการทำงานกับพี่น้อง มีความเฮฮา ครึกครื้น สถานที่การทำงานมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย มีพื้นที่เยอะ
ในบทความ Workplace นี้ Blognone ได้พูดคุยกับ HR ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรับสมัครงานเข้ามาในองค์กรด้วย คือ คุณชนาภรณ์ ฉันทประทีป Chief Human Resources Officer ช่วยให้เห็นภาพรวมวัฒนธรรมองค์กรของ Ascend Group ชัดขึ้น
คุณชนาภรณ์ ระบุว่า Ascend Group ถือเป็นองค์กรคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ในมุมเทคโนโลยีนั้น Ascend Group ถือเป็นรถไฟที่วิ่งเร็วมาก ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นความท้าทายสำหรับใครก็ตามที่ชอบทำงานในลักษณะนี้
Ascend Group มีวัฒนธรรมการทำงานผสมกันระหว่างสองขั้ว คือขั้ว บริษัทใหญ่ กับ สตาร์ทอัพ การทำงานมีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีรูปแบบการทำงานตายตัว เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ดูคนที่ผลงานเป็นหลัก ไม่เคร่งครัดเรื่องชั่วโมงการทำงาน ดังนั้นบริษัทจะมองความยืดหยุ่นเป็นเรื่องสำคัญ
Ascend Group ยังเพิ่มโอกาสการเติบโตให้คนในองค์กรด้วยการริเริ่มทำโครงการหนึ่ง คือเมื่อเปิดตำแหน่งใหม่ คนในองค์กรต้องได้โอกาสก่อน โดยทีม HR เป็นตัวกลางในการประสาน ให้สามารถถ่ายโอนงานได้ภายใน 1-2 เดือนโดยไม่กระทบทั้งสองฝ่าย ถือเป็นนโยบายที่ส่งผลดีทั้งสองฝ่ายคือคนก็ได้เติบโตไปในทางที่ต้องการ และบริษัทก็ไม่ได้เสียคนไปไหน แต่ก่อนย้าย ก็ต้องแน่ใจว่าคนๆ นั้นอยู่ในทีมเก่ามานานพอและมี performance ที่ดีพอด้วย เพื่อให้ยุติธรรมกับทุกฝ่าย
คุณชนาภรณ์กล่าวเสริมว่า ถ้าในองค์กรไม่เปิดโอกาสให้เขาโต เขาก็จะออกไปโตข้างนอก ถ้าบริษัทให้โอกาสไม่เร็วพอ เราก็อาจสูญเสียเขาไป
อย่างไรก็ตาม การรับคนใหม่จากภายนอกยังสำคัญมากเช่นกัน เพราะบริษัทมีกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่อยากขยายอีก เราจึงต้องการคนพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเปิดโอกาสให้คนที่สนใจเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Ascend Group
คุณชนาภรณ์ ระบุด้วยว่า Ascend Group ยังมีโปรแกรมพิเศษคือ เทรนหัวหน้างาน เพราะหัวหน้างานเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลต่อ turnover rate ดังนั้น บริษัทจึงจัดให้มีเทรนนิ่งแยกออกมาจากการเทรน hard skill คือ เทรนการเป็นหัวหน้าคนที่ดี หรือเทรนคนที่มีลูกทีมในมือ ทำให้หัวหน้างานเป็นคนมีคุณภาพ ในการบริหารคนและบริหารงาน ถ้าเราพัฒนาตรงนี้ได้ จะลด turnover rate ลง อีกทั้งยังสร้างหัวหน้างานที่ใครๆก็อยากทำงานด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจอยากร่วมงานกับ Ascend Group สามารถสมัครงานเข้ามาได้ที่ Blognone Jobs
Comments
ไม่น่าใช้คำว่าสตาร์ทอัพนะครับ
นั่นสิครับ Ascend เนี่ยไม่น่าใช่สตาร์ทอัพละ
นั่นสิครับ มันไม่ใช่
เงินทุนหนาไม่ได้หมายความว่าเป็นสตาร์ทอัพไม่ได้ครับ เพราะ product หลายตัวของ Ascend ทั้งที่คนรู้จักดี และไม่รู้จักก็ยังอยู่ในช่วงลองตลาด แม้ว่าตลาดจะไม่ใช่ระดับ consumer ก็ตาม
ขอความแตกต่างระหว่าง บริษัท ทั่วๆไป กับ Start up หน่อยครับ
นี่ครับ
:D
บริษัททั่วๆ ไปเริ่มใหม่ก็เรียกว่า corporate startup ได้ครับ แต่ความหมายที่คนมักเข้าใจกันก็ต้องเป็นบริษัทใหม่สร้างจากศูนย์ ไม่มีแบ็ค มีแต่นวัตกรรมมาขาย มีแนวคิดใหม่ บางคนด็คิดว่าต้องเป็นบริษัทไอทีเท่านั้น
ผมว่าคงพอๆ กับคำว่าแฮ็คที่คิดกันว่าใช้ในวงการคอมพิวเตอร์ และต้องเกี่ยวกับการเจาะระบบเท่านั้น
อะไรประมาณนั้นแหละ
ในอีก comment ข้างล่าง ผมถึงนิยามว่า ทำงานแบบ Start up แต่ ตัวบริษํทไม่ใช่ Start up
Ascend Group = Startup?
Edit (10/3): หัวข่าวเอาคำว่า startup ออกไปล่ะ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ถ้าจะบอกว่าทำงานสไตล์ start up ล่ะพอใช่
แต่บริษัทไม่ใช่ start up แน่ๆ
จากอดีตพนักงาน
+1 จากอดีตด้วย ;p
พี่ไอซ์??
[S]
ยังจำตอนที่ข้อมูลใน AWS หลุด แล้วไปบอกว่านักวิจัยคนที่เขามาเตือนเป็น Hacker ได้อยู่เลย
ไหนจะมีรมต. มาช่วยแถว่าสำเนาบัตรประชาชนไม่ใช่ข้อมูลเขิงลึกอีกต่างหาก
ว่าแต่บริษัทระดับนี้ยังเรียกว่า StartUp ได้อยู่เหรอ
เรียกบริษัทลูก หรือบริษัทในเครือยังจะดูดีกว่า
555555555
สัมภาษณ์คนทำงานเบื้องหลังแล้ว ลองสัมภาษณ์พนง. ต้อนรับลค. ดูสิ บันเทิงมากๆ(ในหลายๆความหมาย)
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
การที่จะบอกว่าเป็นบริษัทลูกของทรู มันคงดูไม่คูลน่ะ(บางคนเข้าขั้นยี้) เลยโม้ว่าเป็น start up ซะเลย โว๊ะ... เด็กเดี๋ยวนี้เค้าฉลาดกันแล้วนะคู้น จริงใจหน่อย
ถ้าเอาแบบถูกต้องจริงๆ คือ Ascend เป็นบริษัทลูกของ CP นะครับ ไม่ใช่ของ True แม้จะใช้แบรนด์ True ก็ตาม
ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะคุยใน logic ทางกฎหมาย หรือ logic ทางปฎิบัติ... ซึ่งก็เห็นๆกันอยู่
True ก็ของ CP อ่ะครับ นี่ก็ในทางปฏิบัติ
คุณเถียงอะไรเนี่ย
จ้า ผมไม่เถียงอะไรคุณหรอก เพราะผมจัดคุณอยู่ในหมวดคนที่ป่วยการจะเถียงด้วยมานานแล้ว
แต่คุณไม่ได้เถียงผมนี่ครับ คุณเถียง mk อ่ะ ผมแค่เข้ามาชี้เฉยๆ อ่ะนะ ถ้าจะเถียงไปเถียงกับตัวเองอ่ะครับ
ผมลอจิคที่คุณใส่กับคอมเมนต์ของคุณมันขัดกันเองอ่ะนะ
ลอจิคทางกฎหมายหรือปฏิบัติบลาๆๆๆ ทั้งทางปฏิบัติกับกฎหมายก็เป็น cp จ้ะ
จำได้ตอนนั้นไปสมัครงาน เค้าเล่าให้ฟังว่า เจ้าของเป็นพนักงานเดิมในทรู แล้วลาออกมาเปิดบริษัท แล้วทรูมาลงทุนในบริษัทนี้ด้วย
จำได้คร่าวๆ
บันเทิง ฮ่าๆ
สวนกระแสต่อต้านซีพีในทุกวันนี้
ฝากบ่น แอพ 7-11 ดีเลย์มากจ่ายสแกนแล้วต้องรอประมาณ 5-7 วินาทีกว่าแคชเชียร์จะเด้งพิมพ์ใบเสร็จ
ใน iOS ขอ Face ID ด้วยๆ
เป็นที่ระบบของฝั่ง GoSoft หรือเปล่าครับ?
ทำไมจ่ายเงินใช้ app 7-11 แล้วเลือก truemoney ยังต้องใส่ pin อยู่อีก ควรจะใช้ scan นิ้วได้แล้ว
+1 ผมเลยใช้แต่ True Wallet จ่ายครับ
ios แสกนหน้า ไม่ต้องกดไรเลย
ลูกค้าส่วนคือบริษัทที่อยู่ในเครือฯ ใช่ไหมครับ ถ้าผิดก็อยากรู้ว่าบริษัทอื่นๆ มีอะไรบ้าง
ผมมองว่าแล้วแต่ product นะ อย่าง TrueMoney ลูกค้าจริงโดยตรงก็คือ true เพราะ Ascend ทำให้ True และลูกค้าของ True คือคนใช้ระบบอีกที
ส่วน WeloveShopping กับ WeMall นี่ชัดเจนอยู่แล้วว่าคนขายของทั่วๆ ไปเป็นลูกค้าของระบบ และคนซื้อก็เป็นลูกค้าของคนจ่ายเงินใช้ระบบขายของอีกที
True money เริ่มจากเป็นบริษัท ลูกภายใต้ True Corp ทำหน้าที่เป็นตัวแทนรับชำระบิลในเครือ แทนทรู เหมือนกับ mPAY
จากนั้นแตกยอกธุรกิจออกมา เป็น เติมเงิน Prepaid Sim, เติมเกม, จ่ายบิลนอกเครือ
แล้วค่อยขยายมาเป็นชำระเงินนอก ecosystem โดยออกบัตร Prepaid Mastercard
พอ user base เติบโตได้มากพอ ก็สร้าง payment ecosystem ที่ใช้ๆกันในปัจจุบัน
True money, itruemart, we love shopping, True IDC, egg digtial คือกลุ่มบริษัท ที่ถูกโยกออกมาอยู่ CP แล้วฟอร์มเป็น Ascend Group ตอนที่ China Mobile เข้ามาลงทุนเพิ่ม
ส่วน True Coffee ก็โดนโยกออกเช่นกัน
เอ... ตอนเปิดใหม่ๆ ลอกใครมาน้าาา :p
[S]
เคยทำงาน กับ คนที่เคยทำที่นี่ อยากจะร้องไห้ TT
ยังไงครับ เหลามาซิ
มาดูอีกรอบ น่าสงสารนะ คงต้อง rebrand อีกรอบแล้วมั้ง เพราะคนจำแต่เรื่อง....ได้
ขนาดแอ๊บเป็น StartUp คนก็ในนี้ยังไม่ค่อยจะเชื่อเลย 555