จากการระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลก ทำให้กระแสการทำงานจากที่บ้าน (work from home) ถูกนำมาใช้งานมากขึ้น หลายองค์กรต้องหาวิธีและเครื่องมือเพื่อมาตอบโจทย์รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป
Zoom ผู้ให้บริการ Video Conference ที่เพิ่ง IPO เมื่อปีที่แล้ว เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แนะนำค่อนข้างมาก ทั้งสำหรับการประชุมออนไลน์สำหรับองค์กรและการเรียนการสอนออนไลน์ แต่ทว่ายังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก
บทความนี้จะพาไปรู้จัก Zoom และ Eric Yuan ผู้ก่อตั้งและซีอีโอกัน
Eric Yuan เกิดที่มณฑลชานตงในจีน เรียนจบ ป.ตรี และ ป.โท ที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชานตง ก่อนจะย้ายมาอยู่สหรัฐ (เจ้าตัวเล่าว่ากว่าจะได้วีซ่าคือต้องขอถึง 9 ครั้ง) และทำงานกับ WebEx ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ประชุมออนไลน์ตั้งแต่ปี 1997 ก่อนถูก Cisco ซื้อในปี 2011 เขาทำงานจนเลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานฝ่ายวิศวกรรม (Corporate VP of Engineering) ดูแลโซลูชัน collaboration ในองค์กร
Yuan เล่าว่า WebEx ตอนนั้นปัญหาเยอะมาก เขาพยายามแก้ปัญหาด้วยการยกเครื่อง WebEx รวมถึงเอาคลาวด์โซลูชันมาใช้งานเบื้องหลัง แต่ติดปัญหาที่ Cisco ไม่เห็นด้วย เจ้าตัวพยายามอยู่หลายปีจนยอมแพ้และลาออกในปี 2011 มาตั้งบริษัท Zoom ของตัวเอง เขาใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามที่ฝันไว้ จนสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2013
Zoom ตอนนั้นไม่ได้ต่างจากสตาร์ทอัพรายอื่นที่เกิดขึ้นในวงการ คือทำโซลูชันหรือเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้งานเจอจากบริการของบริษัทอื่น ๆ (ในที่นี้ก็คือ WebEx) โดยเฉพาะความรวดเร็วและความง่ายในการใช้งาน
Zoom ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทั้งเรื่องความเสถียร ฟีเจอร์ และความสะดวก และเติบโตมาเรื่อย ๆ ก่อนเข้าขายหุ้น IPO เมื่อปีที่แล้ว ทำให้มูลค่ากิจการขึ้นไปถึงกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์
ภาพจาก Getty Image
แม้ผู้ให้บริการประชุมออนไลน์ในตลาดมีอยู่หลายเจ้า แต่ WebEx ของ Cisco มักถูกนำมาเทียบกับ Zoom โดยตรงอยู่บ่อยครั้ง
เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะบริการของ Zoom และ WebEx เป็นบริการประชุมออนไลน์แบบแยกเดี่ยว (standalone) ไม่พ่วงกับบริการอื่นแล้วขายเป็นชุดเหมือนกับ Google Hangouts หรือ Microsoft Teams/Skype
แม้จะไม่มีตัวเลขส่วนแบ่งตลาดระบบการประชุมทางไกลที่แน่ชัด แต่บริษัทวิจัยตลาดอย่าง Gartner ก็จัดให้ 2 เจ้านี้อยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leader) บน Magic Quadrant ของ Meeting Solution (อีกรายในกลุ่มนี้คือ Microsoft)
ในแง่การใช้งานจริง เสียงตอบรับจากผู้ใช้งาน Zoom มักดูดีกว่าฝั่ง WebEx แม้ในแง่ฟีเจอร์จะไม่แตกต่างกันมากอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งที่ Zoom ได้รับคำชมมากกว่าคือเรื่องของ UX/UI ที่ Zoom เข้าใจได้ง่ายกว่า เริ่มใช้งานได้รวดเร็วกว่า ใช้งานได้ลื่นกว่า ความหน่วงเวลาประชุมต่ำและเสถียรกว่า WebEx
ในแง่ราคาทั้งสองเจ้าไม่แตกต่างกันมากและมีแพ็กเกจฟรีทั้งคู่ แต่ WebEx เหนือกว่าตรงที่ไม่จำกัดระยะเวลาในการประชุมในแผนฟรีแต่ Zoom จำกัดไว้ที่ 40 นาทีต่อครั้ง ส่วนแผนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง WebEx จะถูกกว่าเล็กน้อย ส่วนระดับองค์กร (enterprise) Zoom จะถูกกว่าค่อนข้างมาก เลยเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่องค์กรใหญ่ ๆ มักเลือก Zoom มากกว่า WebEx
เมื่อ work from home กลายเป็นนโยบายที่ถูกนำมาใช้งานเกือบทั่วโลกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ Zoom ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงระดับหนึ่งอยู่แล้ว ถูกบอกต่อและแนะนำกันอย่างมาก ทั้งการใช้ทำงานและใช้สอนหนังสือ
ถ้าถามว่า Zoom โตแบบก้าวกระโดดแค่ไหนจากการแพร่ระบาดของไวรัส Bernstein Research บริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยว่าจำนวนผู้ใช้ Zoom แบบ MAUs เพิ่มขึ้นเฉพาะปีนี้ (2 เดือนกว่า) อยู่ที่ 2.22 ล้านราย ขณะที่ปี 2019 ทั้งปี จำนวน MAUs ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่แค่ 1.99 ล้านรายเท่านั้น (แต่หากเทียบช่วงเวลาเดียวกันหรือก็คือช่วงต้นปีที่แล้ว MAUs ที่เพิ่มขึ้นมีแค่ 6.4 แสนคนเท่านั้น) ทำให้ตอนนี้ Zoom มี MAUs เฉลี่ยอยู่ที่ 12.92 ล้านคนแล้ว
ถึงแม้จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้ฟรี แต่นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่า Zoom สามารถเปลี่ยนผู้ใช้ฟรีเหล่านี้ให้มาเป็นผู้ใช้งานแบบเสียเงินได้ไม่น้อย ด้านราคาหุ้นของ Zoom เมื่อเดือนที่แล้วพุ่งขึ้นถึง 40% จาก 76.30 ดอลลาร์เมื่อสิ้นเดือนมกราคมไปจบที่ 105 ดอลลาร์ตอนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนตอนนี้อยู่ที่ราว 107 ดอลลาร์
Comments
เห็นชื่อแล้วผมนึกถึงยี่ห้ออุปกรณ์ pro-audio ทุกที 555
ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า แต่หลังๆ มานี้ผมรู้สึกว่าวงการเทคฯ เริ่มชูคนสร้างคนบริหารมาก่อนตัวโปรดักส์มากกว่าเดิมมากขึ้น อย่าง article อันนี้กว่าจะถึงตัวโปแกรมก็เลยหน้าแนะนำ CEO ไปเกือบหน้าแล้ว
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ จะได้เข้าใจความคิดของผู้สร้าง จะได้รับรู้ว่ามันมีประโยชน์ในลักษณะไหนและทำไมมันถึงน่าสนใจ
ผมกังวลว่ามันจะกลายเป็นลัทธิบูชาบุคคล สรรเสริญกันเพราะใครทำไม่ใช่เพราะทำอะไรน่ะครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
มันเป็นเทคนิคการตลาดเพื่อสร้าง Story และสร้างความมั่นใจในตัวสินค้าจากประวัติของผู้ก่อตั้ง คนเราโดยส่วนใหญ่จะอ่อนไหว เชื่อใน Ads เมื่อมันใกล้เคียงกับชีวิตของคนเรา มากกว่าขายฟีเจอร์ผลิตภัณฑ์ตรงๆ สรุปคือ พยายามให้เราซื้อเพราะอารมณ์มันพาไป มากกว่าจะให้เราใช้เหตุผลนั่นเอง
ไม่ต้องห่วงครับ เดียวคนก็ลืมๆกันไปเอง สุดท้ายถ้าโปรดักส์ไม่เจ๋งจริงมันก็ไม่มีใครมาสนใจต่อหรอกว่าใครเป็นทำเป็นคนสร้าง CEOเป็นใคร
แต่ถ้าโปรดักส์มันดีจริง เจ๋งจริง แปปเดียวมีคนไปขุดประวัติ CEO มาเขียนหนังสือให้เลย
ผมว่าเราได้เห็นตัวอย่าง ผู้นำดีมีชัยไปกว่าค่อน กันมากแล้วครับ
องค์กรเดินด้วยผู้นำ โปรดักส์ดี โดยคู่แข่งลอกเลียนแบบได้ในไม่ช้า ผู้นำดี สร้างนวัตกรรมต่อไป บริษัทยั่งยืน ลูกค้าเก่า ซื้อซ้ำ (ไม่ย้ายค่าย)
เล่นมาหมดแล้วทั้ง WebEx, MS Teams, Zoom ยกให้ Zoom ลื่นสุด ใช้ง่ายสุด
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ราชการยังใช้ Line Video Call อยู่เลยเพลียใจ
องค์กรผม-หน่วยงานรัฐ ประมูลมาได้ eSpace จาก Huawei เพลียใจกว่าใช้ line อีกครับ
ใช้งานยุ่งยาก ค้างบ่อย feature น้อย ไม่ให้โหลดบน Play Store ลง apk เอา
ใช้บน Tablet หน้าจอไม่ขยายให้ บน PC ต้องใช้ emulator
เข้าใจความรู้สึกเลยครับ องค์กรผมก็ใช้อยู่เหมือนกัน เพลียใจมาก ๆ
หลังจากติดปัญหา Line เกิน 4 คนไม่ได้ บอกหัวหน้าให้ใช้ Zoom ใช้แล้วติดใจกันใหญ่ เดี๋ยวจะหาโอกาส โอนคนมา Slack หรือ Teams
Zoom นึกถึงที่ฟอกฟันขาวเลย 555
มอแห่งหนึ่งในภาคเหนือเตรียมโปรยูเซอร์ zoom เตรียมการพวกนี้ช้ามาก ผลักดันให้สอนออนไลน์แต่ผู้บริหารเป็นตัวอย่างประชุมยังออนไลน์ไม่เป็นเลย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
พึงจบประชุม Zoom 300 attendee เมื่อตะกี้
ลื่นสนิท ไม่หน่วง ไม่ delay ใช้ง่าย
คนเข้าร่วมจากทั่วโลกเลยเมื่อกี้
ติดปัญหาอยู่นิดนึง พอประชุมไปได้ 15 นาที คนที่เหลือ join ไม่ได้ ไม่งั้น จะมีคนร่วมเยอะกว่านี้อีก
แต่ลื่น เสียงใส ชัด เทียบกับเจ้าเดิมที่เคยใช้ อันนั้นดีมาก ๆ แต่อันนี้ สะดวกกว่า
เทียบกับ Skype แล้ว พบว่า skype ภาพชัด เสียงชัด share screen หน่วงน้อยกว่าครับ ตอนนี้ ใช้ skype เป็นตัวหลัก เก็บ zoom เป็นทางสำรอง กรณีมีปัญหาครับ