Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล P40 ที่ปีนี้มาพร้อมกันถึงสามรุ่นและจัดเต็มในเรื่องกล้องแบบสุดๆ คือ Huawei P40, P40 Pro และ P40 Pro+ โดยจะมีจำนวนกล้องหลัง สาม สี่ และห้ากล้อง ตามลำดับ ทั้ง 3 รุ่น เป็นหน้าจอ OLED แบบ Quad Curve Display โค้งรับมุมสี่ด้าน P40 จะมีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ที่ความละเอียด 2340x1080
ส่วน P40 Pro และ P40 Pro+ จะมีขนาดหน้าจอ 6.58 นิ้ว ที่ความละเอียด 2640x1200 เท่ากัน และเป็นหน้าจอ 90Hz ทั้งสามรุ่น แต่ฟังก์ชั่นกันน้ำของ P40 จะเป็นเพียงแบบ IP53 เท่านั้น ในขณะที่ P40 Pro และ P40 Pro+ เป็นแบบ IP68 ทั้งสามรุ่นจะรันบน EMUI 10.1 ใช้ Huawei Mobile Services แทน Google Mobile Services ไม่มีแอปจาก Google และต้องโหลดแอปจาก Huawei AppGallery เท่านั้น
Huawei P40 มีกล้องหลังสามกล้อง กล้องหลักเป็นกล้องแบบ Ultra Vision Wide 50MP เซ็นเซอร์แบบ RYYB ที่ f/1.9 พ่วงด้วยเลนส์ Ultra Wide 16MP ที่ f/2.2 เลนส์เทเลโฟโต้ 3x ความละเอียด 8MP f/2.4 พร้อม OIS และมี Colour Temperature Sensor วัดอุณหภูมิแสงเพื่อปรับไวท์บาลานซ์
Huawei P40 Pro กล้องหลังสี่กล้อง กล้องหลักเป็นกล้องแบบ Ultra Vision Wide 50MP เซ็นเซอร์แบบ RYYB ที่ f/1.9 เลนส์ Ultra Wide Cine 40MP ที่ f/2.2 และเลนส์เทเลโฟโต้ 5x ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ RYYB แบบ Periscope ที่ f/3.4 พร้อม OIS พร้อมกับมี Colour Temperature Sensor และมี ToF Camera เพื่อวัดระยะ
Huawei P40 Pro+ ตัวท็อป จะมีถึงห้ากล้องด้วยกัน ซึ่งกล้องหลัก Ultra Vision Wide และเลนส์ Ultra Wide Cine จะเหมือนกันกับ P40 Pro แต่จะต่างกันที่เลนส์เทเล ที่ให้มาทั้งแบบ 3x ความละเอียด 8MP ที่ f/2.4 และแบบ 10x แบบ Periscope ความละเอียด 8MP ที่ f/4.4 เลนส์เทเลทั้งสองตัวมาพร้อมกันสั่น OIS ทำไฮบริดซูมได้สูงสุดถึง 100x และมี ToF Camera พร้อม Colour Temperature Sensor เช่นเดียวกับอีกสองรุ่น
Huawei โฆษณาไว้ว่า เซ็นเซอร์รับแสงของ Huawei P40 ซีรีส์ เป็นเซ็นเซอร์รับแสงที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนชั้นนำในปัจจุบันอย่าง Galaxy S20 Ultra, Galaxy S20+ และ iPhone 11 Pro Max และรองรับค่า ISO มากสุดถึง 409600
ทั้งสามรุ่นมีกล้องหน้า 32MP เช่นเดียวกัน และมาพร้อมกับกล้อง IR Depth/Gesture และ Ambient & Proximity Sensor มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า และมีเซ็นเซอร์สแกนรอยนิ้วมือใต้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าตระกูล P30
ทั้งสามรุ่นจะมาพร้อมแรม 8GB และใช้ชิป Kirin 990 5G ที่ Huawei บอกว่าจะกินพลังงานในการรับสัญญาณ 5G น้อยกว่าชิป Snapdragon 865 ที่ต้องพ่วงมากับชิปโมเด็ม X55 ส่วนหน่วยความจำ รุ่น P40 จะอยู่ที่ 128GB, P40 Pro ที่ 256GB และ P40 Pro+ ที่ 512GB ตามลำดับ ใส่ได้ 2 ซิม พร้อมอีกหนึ่ง eSIM ในตัว
Huawei P40 Pro และ Pro+ จะมีแบตเตอรี่ขนาด 4200mAh และรองรับชาร์จเร็ว 40W ทั้งแบบ USB-C และแบบไร้สายแต่ P40 จะเป็นขนาด 3,800mAh แทน และรองรับชาร์จเร็วแค่ 22.5W
P40 และ P40 Pro จะวางจำหน่ายในวันที่ 7 เมษายนนี้ และมี 5 สี คือ Black, Deep Sea Blue, Ice White, Silver Frost และ Blush Gold ส่วน P40 Pro+ จะตามมาในเดือนมิถุนายน และมีสองสี คือ Ceramic White และ Ceramic Black
ราคาจำหน่ายของทุกรุ่น เป็นดังนี้
ที่มา - Live Steam ของ Huawei
Comments
กล้องหลัก Ultra Vision Wide และเลนส์ Ultra Wide Cine จะเหมือนกันกับ P40 >> เหมือนกับ P40 Pro หรือเปล่าครับเพราะจากในรูป P40 ไม่มี กล้อง Ultra Wide Cine
ส่วน P40 Pro จะตามมาในเดือนมิถุนายน >> P40 Pro+
ปล.อ่านชื่อกล้องแล้วดูมึนๆ
ใช่ครับตามนั้นเลย ผมพิมพ์ตก Pro ไปหน่อย ขออภัยครับ แต่ชื่อกล้องพี่แกพามึนจริงๆ กล้องหลักดันไปตั้งชื่อว่า Ultra Vision Wide ซะงั้น เลยงงกับกล้อง Ultra Wide อีกตัวไปหมด 55555
จริงครับ ผมก็อ่านแล้วชอบงง แต่ก็พอเข้าใจว่าเลนส์ปกติมันก็คือเลนส์ wide นั่นแหละแต่เป็น wide น้อย ๆ ส่วน wide จริง ๆ จะใช้คำว่า ultra wide
ช่วงงง.... ทำนายราคาไทย P40 ~ ฿23900, P40 Pro
~ ฿28900, P40 Pro+ ~ ฿40900
บอกเลยถ้าราคานี้ เจ๊งแน่นอน ยิ่งไม่รองรับ GMS ด้วย ไม่มีใครอยากเอาตัวเองมาเสี่ยงโดยไม่จำเป็นหรอก นอกจากเงินเหลือจริง, สาวกเดนตายของค่ายนี้, พวกหลอกตัวเองว่าใช้แทน GMS ได้แน่นอน, พวกอยากจะพยายามลง GMS เถื่อนแต่ลงไม่ได้เพราะโดนกูเกิลบล็อกไปแล้วทั้งที่พวกนี้ตอนแรกทำเป็นปากแข็งว่ากูเกิลไม่มีทางบล็อกแน่นอน ฯลฯ นั่นแหละถึงจะยอมซื้อ
ดู Mate 30 Pro / 30 Pro 5G เป็นตัวอย่างได้เลย ขนาดเอาเฌอปรางหรือบรรดาเซเลปไอทีมาโฆษณา(ของเครือข่าย ไม่เกี่ยวกับส่วนมือถือ แต่ใช้รุ่นนี้โฆษณาด้วย)ก็ไม่ได้ช่วยให้คนมาใช้มากขึ้นด้วยซ้ำ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ไม่หรอก เดี๋ยวเขาก็ลดราคาเอา ตั้งเอาเท่ไปงั้น หลอกสาวกว่าราคาขนาดนี้ยังมีคนซื้ออยู่ดี หลังจากนั้นไม่นานก็ลดราคาฮวบๆ 5555
เทคโนโลยีอัดมาขนาดนี้ ราคาเริ่มต้นมันก็ต้องเท่านี้แหละ แล้วจะค่อยๆ ลดก็ว่ากันไป
เอาจริงๆ ผ่านมาเกือบปี HMS มันก็ใช้ในชีวิตประจำวันได้แล้วนะ แอปมาเรื่อยๆ แล้ว ขาดแต่ LINE ที่จะออกเร็วๆ นี้ และแผนที่ดีๆ เท่านั้นเอง
ลอง Huawei โดนแบนจากอเมริกาอีกสักปี ระบบต่างๆ น่าจะครบ แอปสำคัญก็น่าจะลงครบแล้ว
ถามแบบอยากรู้จริงจังไม่เกรียน การใช้งานตอนนี้มันใช้งานได้ดีลื่นไหลแค่ไหนครับกับการไม่มี GMS ถ้าวัดเป็น % จะได้ประมาณกี่ % ครับ
สัก 75% มั้งครับ คือแอปส่วนใหญ่มันโหลดผ่าน APKpure มาใช้ได้หมด ยกเว้น LINE ที่รอพัฒนาจะออกเร็วๆ นี้, แผนที่ดีๆ เป็นหลักครับ
apk มีหมดแล้ว !
ถ้าแบบนั้นคงขอผ่านครับ อยากได้อะไรที่มัน official สร้างความมั่นใจได้มากกว่าวิธีนั้น ส่วนแผนที่ผมว่าอันนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะแอพที่ใช้ส่วนใหญ่ base คน google maps ทั้งนั้นเลย
อาจจะราคายุโรปครับ 5555
• Huawei P40 Pro 8GB+128GB ราคา 799 ยูโร (ประมาณ 28,700 บาท)
น่าจะเป็น Huawei P40 ธรรมดาไม่ Pro นะครับ
ผมว่ารอบนี้มาแปลกนะ มาชูเรื่องขนาดความจุแบตที่ได้ต่อน้ำหนักเครื่อง ทุกทีจะชูเรื่องแบตอึดไม่ใช่หรอ......ทำไมกันน้า
กล้องเยอะมาก ๆ น่ากลัว
หัวเว้ย นี้ ต้องมีอะไรแบบ ที่หนึ่งของโลกตลอด
ขอบบางกว่า ก็เอามาเทียบได้อีก นะ
Feature Presentation ภาพหลายๆอันนี่มันช่างเหมือนกับตอน Apple เมื่อปลายปีที่ผ่านมาจริงๆ
R&D หรือ C&D คงรู้ๆกันดี
เรื่องกล้องของตัว ultra ดีกว่าเดิมเยอะเลย ขนาด censor, กล้องหน้า auto focus, OIS ทุกเลนส์, 10x
คือถ้ามี GMS นี่ รับประกันเลยว่า Huawei ไปไกลแน่นอน
ส่วนให้เรื่องจอขอบโค้งนี่ ผู้พัฒนาเขาคิดว่ามันยอดเยี่ยม มีประโยชน์ อย่างนั้นเหรอ ใช้งานกันยังไงหว่า เท่าที่เจอมีแต่คนบ่นว่าน่ารำคาญ
GMS Side load ก็ไม่รู้จะลงใช้งานได้ 100% มั้ย น่าเป็นห่วงเรื่องนี้
sensors สิครับ ไม่ใช่ censor
จะไม่มีใครบ่นจอโค้งหน่อยเหรอ นี่โค้งตั้งสามแถบเลยนา
ส่วน SoC ของ Huawei เรื่อง Network นี่ไม่แย่เลยนะ ถ้าขายให้ยี่ห้ออื่นในจีนได้ใช้บ้าง Qualcom คงสะเทือนมั่งแหละ
รวมมาในตัวเดียวกันเลย แถมกินไฟน้อยกว่าด้วย น่าสนจริงๆ ครับ อีกอันที่ผมชอบมากคือชาร์จเร็ว 40W ทั้งแบบมีสายและไร้สายนี่แหละ เสียดาย ไม่มี GMS นี่ผมตัดไปเลย ใช้แอป Google เยอะมากในการทำงาน
ก่อนหน้าคุณ 1 เม้นก็บ่นอยู่นะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมคนนึงไม่ชอบจอโค้ง
ผมไม่ชอบชอโค้งตั้งแต่แรกแล้ว โดยเฉพาะมือถือ ไม่มีประโยชน์เลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมเห็นบ่นทุกที่เลย แต่ก็ยังเข็นทำกันออกมาเรื่อยๆ สงสัยลงทุนกับไลน์ผลิตจอโค้งไปเยอะแล้วยังไม่คุ้มมั้ง
จากใจคนที่ใช้ Huawei มาตั้งแต่ P9 ถ้าไม่มี GMS ยังไงก็ไม่ซื้อแน่นอน แอบเสียดายตรงนี้มากเพราะ Huawei ค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับผมเลย
รอ mate 40 อาจจะมี gms