By: mk 
on 26 March 2020 - 22:58
Tags:
Topics:
เราเห็น Epic Games เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้วงการเกม โดยเฉพาะหน้าร้านขายเกมแบบดิจิทัลที่ Steam ยึดครองมายาวนาน
ล่าสุด Epic เดินหน้าสู้ก้าวถัดไปด้วยการเปิดตัว Epic Games Publishing ธุรกิจใหม่ที่รับเป็นผู้จัดจำหน่ายเกม (publisher) ให้กับสตูดิโอผู้พัฒนาเกมรายอื่นๆ ด้วย
พาร์ทเนอร์ที่ร่วมเปิดตัว Epic Games Publishing จำนวน 3 รายแรกก็ถือว่าไม่ธรรมดา ได้แก่
- gen DESIGN (Shadow of the Colossus, The Last Guardian)
- Playdead (Inside, Limbo)
- Remedy Entertainment (Control)
โดยเกมถัดไปของทั้ง 3 สตูดิโอนี้จะจัดจำหน่ายโดย Epic Games Publishing
โมเดลธุรกิจของ Epic Games Publishing ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะการันตีว่านักพัฒนามีสิทธิ 100% ในตัวเกม และเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด (ในอดีต publisher หลายรายเข้ามาเป็นเจ้าของเกมด้วย ทำให้เราเห็นกรณีเปลี่ยนสตูดิโอพัฒนาในภาคต่อๆ ไปของเกม), Epic ช่วยจ่ายค่าพัฒนาเกมและค่าการตลาดให้สูงสุด 100% ของทั้งโครงการ, แบ่งผลประโยชน์จากกำไรหลักหักต้นทุนแล้วที่ 50:50
ที่มา - Epic Games
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ผับค่ายอื่นแล้ว อย่าลืมค่ายตัวเองด้วยนะครับ :D
SNK โดน epic ดูดไปอีกรายแล้ว ทีแรกบอกไม่สนใจ เรายังรัก สตีม แบบเดิม (ในอดีต SNK บอกแบบนี้) ตอนนี้ เงินมาผ้าหลุด ไปซะแล้ว เราเคยไปพูดไว้ในชุมชน สตีม นานแล้วว่า โดนดูดแน่นอน สุดท้ายก็โดนดูดจริง ๆ
กลิ่นเงินใครว่าไม่หอม
SNK มาตอบโพส (ตอนนั้น ไม่ใช่ตอนนี้) เราว่า ไม่โดนดูดแน่นอน เราจะขายเกมให้ทุก DRM ไม่ว่า จะ steam และ epic แต่ผลสุดท้าย ไม่แล้ว ซาโยนะระ steam ไปเรียยบร้อยแล้ว ใน board เกมเก่า ๆ ของ SNK ที่เคยขายในสตีม มีผู้เล่นไปโพสด่ากระจาย
ตอนนี้ห้อง F*** Epic ใน Reddit แซ่ซ้อง (ในทางเสียหาย) เต็มที่เลย...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
บางทีก็ไม่เข้าใจนะว่าโกรธเกลียดอะไรกันขนาดนั้น ยิ่งในไทยในเพจเกมถูกบอกด้วย ลงข่าวทีไร ดราม่าทุกที
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ตอนนี้สภาพของ Epic Games Store ยังถือว่าฟีเจอร์น้อย มีปัญหาด้าน client เยอะ ความเสี่ยงเรื่องข้อมูลรั่วไหล Launcher ช้า และปัญหาสารพัด
แต่สิ่งที่ทำเพื่อเรียกลูกค้าคือการซื้อเกมที่อยู่ใน PC (ที่เป็น 3rd party) ไปลงเป็น exclusive เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งหมายความว่า พวกเขาต้องมานั่งปวดหัวกับ Launcher ที่ประสิทธิภาพยังไม่ดีพอได้ รวมถึงข้อกังวลเรื่องข้อมูลจะไหลไป Tencent (ทั้งหมดนี้ อาจจะเรียกว่าเป็นพฤติกรรมที่ anti-consumer)
และการมาของ Epic Games Publishing แปลว่า เกมที่อยู่ในรายชื่อนี้ทั้งหมด จะไม่สามารถหาซื้อจากที่อื่นได้นอกจาก EGS ซึ่งผู้เล่นเกมบนพีซี โดยเฉพาะกลุ่มฮาร์ดคอร์ ไม่พอใจกับดีลนี้อย่างยิ่ง
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ บางรายทำ bait and switch ว่าจะลง Steam แต่สุดท้ายก็เซ็นสัญญา EGS เป็นเวลา 1 ปี (เช่น Metro Exodus, The Division 2, The Outer World)
ยังไม่นับกรณีที่ Epic Games ซื้อ Psyonix คนทำ Rocket League แล้วทำระบบในเกมแย่ลงกว่าเดิม หรือแม้แต่การเซ็นเซอร์คำพูดที่ขอแอดเพื่อนใน Steam หน่อย
เจตนาของ EGS คือตั้งใจมาแข่งกับ Steam แต่หลายคนมองว่า แนวทางนี้ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องในการแข่งขัน
โดยรวมประมาณนี้ครับ
ป.ล. ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ Anti-Epic นะครับ ผมเกลียด Fortnite และไม่ชอบพฤติกรรมที่ Epic ทำในช่วงที่ผ่านมา
Coder | Designer | Thinker | Blogger
epic เอง ก็ออกมาปากเสียกับ google ด้วย ไม่ใช่แค่เล่นงาน สตีม อย่างเดียว การเกิดคู่แข่งทางการตลาด ไม่มีใครเขาแอนตี้หรอก แต่พฤติกรรมที่เขาแสดงออกมา เพือการตลาดนี่สิ มันแย่ ชอบไปด่าค่ายอื่น ค่ายโน่นค่ายนี้ว่าไม่ดี เอาเปรียบกินเงิน 30% คือเขากิน 30 แล้วไง? epic อยากกิน 12 ก็กิน 12 ไปสิ ไม่มีใครว่า แต่ไม่ใช่ออกมาโพสด่าใน ทวีตว่า steam และ google คือตัวร้าย การตลาดเพือด่าค่ายอื่น แล้วทำให้ตัวเองดูดี ไม่ไหว ไม่ไหว
คนที่เกลียดไม่ใช่แค่ในไทย มีกันทั่วโลก คงไม่ใช่แค่การอุปทานหมู่ของคนทั่วโลกแน่นอน ส่วนคนที่รัก เราก็ไม่ว่า ถ้สตนเหล่านี้จะรัก
เอ้า ทำไมผมว่าดีออก จะได้มีใครมาแข่ง Steam แบบจริงๆจังๆซะที ดีทั้งคนเล่นทั้งคนทำเกม
ว่าแล้วก็เข้าไปกดรับเกมฟรีมาดอง แต่ยังไม่เคยลองเล่นเลยซักเกม ฮะๆ
การแข่งขัน ถ้ามันยุติธรรมก็ดีสิ แต่นี่ เล่นแจกเงินผู้พัฒนาให้เกมนั้น ๆ มาขายแต่ร้านตัวเอง ซึ่งลูกค้าไม่มีสิทธิเลือก มันไม่ใช่การแข่งที่ดี
เออ ถ้าเกมไหน epic ออกเงินให้ตั้งแต่การพัฒนาเริ่มแรก แล้วจะเอามาลงในร้านตัวเอง ไม่ว่า นี่เล่นไปซื้อเกมที่พัฒนาไปแล้ว 90% ++ ให้เอามาลงร้านตัวเองเท่านั้น แบบนี้เรียกผูกขาด