ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ หลายๆ คนคงหันมามองมือถือระดับกลางที่ให้ฟังก์ชั่นครบ คุ้มค่าต่อราคา ใช้งานได้หลากหลาย แต่เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น แทนที่จะต้องจ่ายแพงๆ ผ่อนยาวๆ
Vivo V19 เป็นอีกรุ่นที่น่าจะตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าต่อราคา เพราะให้ฟังก์ชั่นมาแบบจัดเต็ม ในราคาแค่ 12,999 บาท ทั้งหน้าจอ Super AMOLED แบบ FHD+ ที่แสดงผลสี DCI-P3 ได้ถึง 100% มีกล้องหน้าคู่ 32MP ที่ถ่ายโบเก้ ถ่ายมุมกว้าง และถ่ายกลางคืนได้ กับกล้องหลัก 48 MP เลนส์ Super Wide-Angle 8 MP กับแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 4,500 mAh และรองรับชาร์จเร็วแบบ 33W อีกด้วย
แกะกล่อง
Vivo V19 กล่องมาพร้อมกับอุปกรณ์ครบชุด มีหูฟังแบบ 3.5 มม. มาให้ด้วย แถมเคส TPU แบบใส ที่ชาร์จแบบ Vivo Fast Charge 2.0 ชาร์จเร็วแบบ 33W และสายชาร์จ USB-C หนึ่งเส้น ตัวเครื่องติดฟิล์มป้องกันรอยหน้าจอมาให้ด้วยเลย แกะมาใส่เคสก็พร้อมใช้งานได้ทันที มีรูหูฟัง 3.5 มม. ด้วย
ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และปลดล็อกด้วยใบหน้า
Vivo V19 มีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือแบบ optical บนหน้าจอ และยังมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้ามาให้เป็นอีกตัวเลือก จากการใช้งานพบว่าการปลดล็อกด้วยใบหน้าจะทำได้เร็วกว่าลายนิ้วมืออยู่พอสมควร
พอร์ตเชื่อมต่อ
V19 ยังมีรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้อยู่ แถมยังมีหูฟังมาให้ในกล่อง พร้อมใช้งานได้ทันที หรือถ้าใครมีหูฟังตัวโปรดอยู่แล้วก็ใช้งานได้เลย เครื่องเป็นลำโพงเดี่ยว แต่เสียงดังหายห่วง เปิดเร่งเสียงสูงๆ เสียงไม่แตก มีรูชาร์จแบบ USB-C ที่ขอบอีกด้านมีช่องใส่ซิม ใส่ได้พร้อมกันสองซิมและ microSD card
หน้าจอ และ UI
หน้าจอของ Vivo V19 เป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 ที่สีสันสวยสดงดงาม รองรับมาตรฐานการแสดงผลสีแบบ DCI-P3 ถึง 100% และมีโหมดลดแสงสีน้ำเงินถนอมสายตา
รอมของ V19 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย UI Funtouch OS 10 ตอนเปิดเครื่องครั้งจะถามว่าต้องการลงแอปไหนบ้าง เราสามารถเลือกไม่ลงแอปที่ไม่จำเป็นได้ ตัว Funtouch OS เองถือว่ามี bloatware ติดมาน้อย และมี Google Apps ให้มาอย่างครบถ้วนับ
ประสิทธิภาพ
Vivo V19 ใช้ซีพียู Snapdragon 712 ผู้เขียนทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอป Geekbench ได้คะแนนประมวลผลแบบแกนเดียวไป 414 คะแนน และแบบหลายแกนที่ 1534 คะแนน ถือว่าใกล้เคียงกับ Vivo รุ่นอื่นที่ใช้ซีพียูตัวนี้
จีพียูเป็น Adreno 616 ได้คะแนนทดสอบ Vulkan ไป 928 คะแนน
แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB โดยเป็นสตอเรจแบบ UFS 2.1 และรองรับการใส่ microSD card เพิ่ม
กล้อง
กล้องหลังเป็นแบบ 4 กล้อง มีสเปกดังนี้
เลนส์หลัก โหมด Photo
เปิดใช้ Super wide angle
เลนส์ Super macro
เลนส์ Super macro
มี Super Night Mode เก็บแสงในภาพมาประมวลผลเพิ่มขึ้น ช่วยให้ภาพที่ถ่ายตอนกลางคืนดูสว่างขึ้น
ถ่ายในโหมด Photo ปกติ
ถ่ายด้วย Night Mode
ถ่ายด้วย Night Mode
กล้องหน้า เป็นกล้องหน้าคู่ที่เลนส์หลัก 32 MP กับเลนส์ Super Wide-Angle 8 MP ที่จะเพิ่มมุมมองในการถ่ายเซลฟี่ให้กว้างขึ้น สามารถเก็บคน หรือภาพรอบตัวได้แบบสบายๆ แถมยังมีโหมดโบเก้ ทำหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย
กล้องหน้ามีโหมด Super Wide-Angle ถ่ายมุมกว้าง และ Super Night Selfie ช่วยในการถ่ายภาพเซลฟี่ตอนกลางคืนได้อย่างสว่างไสว พร้อมตัวช่วย beauty ที่สามารถปิดได้ และขณะใช้ Super Night Mode ก็จะไม่สามารถใช้เลนส์แบบ Super Wide-Angle ของกล้องหน้าได้
ถ่ายในโหมด Super Wide-Angle
ถ่ายในโหมด Super Night Selfie
แบตเตอรี่
ในด้านแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่าหายห่วง เพราะ Vivo V19 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh อยู่ได้แบบอึดๆ ทั้งวันแน่นอน แถมยังมีชาร์จเร็ว Vivo Fastcharge 2.0 ที่ชาร์จได้ถึง 54% ภายใน 30 นาที
สรุป
Vivo V19 เป็นโทรศัพท์รุ่นกลางราคาเพียง 12,999 บาทแต่ให้ฟังก์ชั่นในการใช้งานมาอย่างครบถ้วน จัดเต็ม เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในยุคเศรษฐกิจไม่ดี มีวิกฤตเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบนี้
ด้านที่โดดเด่น คือการมีเลนส์แบบ Super wide angle และ night mode ทั้งกล้องหน้าหลัง แถมคนยังเหมาะกับคนชอบถ่ายรูปเซลฟี่ ที่พร้อมเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนด้วยโหมด Night Selfie กล้องหน้าคู่พร้อม Depth sensor ในมือถือรุ่นกลางแบบนี้ สายเซลฟี่น่าจะชอบ
อีกอย่างที่เด่นไม่แพ้กัน คือหน้าจอ Super AMOLED ที่ให้สีสด และแสดงผลสีมาตรฐาน DCI-P3 ได้ถึง 100% แถมสว่างพอสู้แดดเมืองไทยตอนกลางวันได้ ให้ความละเอียดมาถึง FHD+ เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh พร้อม Fast Charge 2.0 แบบ 33W ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ทั้งวัน แล้วไปถ่ายเซลฟี่ต่อตอนกลางคืนได้แบบยาวๆ