หลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนออกกฎหมายด้านความมั่นคงของประเทศฉบับใหม่ ซึ่งมีผลครอบคลุมถึงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงด้วย ตามกฎหมายแล้วตำรวจมีอำนาจในการขอให้ “ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง” ทำการลบข้อมูลหรือช่วยในการสืบสวนได้โดยไม่ต้องใช้คำสั่งจากศาลอีกต่อไป
ตามกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน อนุญาตให้ตำรวจค้นหาข้อมูลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อาจมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมายความมั่นคง และรัฐบาลฮ่องกงสามารถกระทำตามมาตรการที่จำเป็นเพื่อตรวจตราและกำกับดูแลความมั่นคงของประเทศบนอินเทอร์เน็ตได้
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ระบุชัดเจนว่าผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องคือใครบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าจะรวมถึงโซเชียลมีเดียรายใหญ่ด้วย โดย Francis Fong ประธานกิตติมศักดิ์ของสหภาพเทคโนโลยีสารสนเทศฮ่องกงระบุว่า ทุกวันนี้บริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่มีสำนักงานอยู่ในฮ่องกง แต่สำนักงานใหญ่และเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นถ้าตำรวจขอข้อมูลหรือสั่งให้กระทำการใด ๆ สำนักงานที่นี่คงจะตัดสินใจให้ไม่ได้ ก็ต้องรดูกันต่อไปว่าโซเชียลมีเดียรายใหญ่อย่าง Facebook จะดำเนินการต่อคำขอเหล่านี้อย่างไร
Simon Young จาก University of Hong Kong ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้ปลดปล่อยอำนาจให้ตำรวจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเกณฑ์ที่ระบุชัดว่าข้อมูลอะไรควรลบหรือไม่ควร
ปัจจุบัน ฮ่องกงถือเป็นฮับด้านอินเทอร์เน็ตของภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยมีศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าผู้ให้บริการที่เก็บข้อมูลอยู่ที่ฮ่องกงทั้งหมดจะต้องทำตามกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่นี้ โดยเมื่อปีที่แล้ว สมาคม ISP ฮ่องกงก็เคยเตือนตอนที่กำลังจะประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ให้อำนาจรัฐบาลในการควบคุมต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเซนเซอร์หรือจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตว่าจะเป็นการทำลายการเป็นฮับการสื่อสารของฮ่องกง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักความสำเร็จของการเป็นศูนย์กลางทางการเงินโลก
ที่มา - SCMP
ภาพจาก Shutterstock
Comments
ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จะมีกฎหมายแบบนี้ออกมา จีนไม่ต้องการเสียฮ่องกงและต้องการรวมเป็นระบบเดียวมานานแล้ว ต่อให้คนฮ่องกงต่อต้านแค่ไหนก็ไม่เป็นผลอีก ไม่นานก็เปลี่ยนไปใช้กฎหมายและรวมเป็นระบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ในที่สุด ตามที่จีนต้องการควบคุมประชาชนในทางที่ตัวเองต้องการ
นี่คือความน่ากลัวที่ระบบเผด็จการในคราบคอมมิวนิสต์จีนกำลังคุกคามประชาชน ล้างสมองแล้วนำความสะดวกสบายและความเจริญก้าวหน้า การเติบโตของประเทศมาทับถมให้คนลืมและภูมิใจในสิ่งที่รัฐบาลจีนมอบให้ กรอกข้อมูลให้เชื่อในสิ่งที่รัฐบาลพูดอย่างเดียว ควบคุมการใช้ชีวิตของประชาชนทุกอย่าง พ่วงระบบคะแนนประชากรและการติดตามตัวเพื่อคัดคุณภาพประชาชน รวมถึงห้ามวิจารณ์หรือแม้แต่ออกความเห็นพาดพิงพรรคคอมมิวนิสต์จีน แม้พวกเขาจะทำผิดหรือคุกคามประชาชนในเรื่องอะไรก็ตาม
ซึ่งในไทยเราเอง รัฐบาลเราเองก็พยายามควบคุมประชาชนตามแบบที่จีนทำอยู่ ทั้งออกกฎหมายตามใจชอบ ไม่สนใจเสียงความเห็นประชาชน เล่นงานคู่แข่งทางการเมือง กำจัดนักเคลื่อนไหวทางการเมือง สร้างวาทกรรมต่างๆ เพิ่มอำนาจทางทหารเพื่ออำนาจตนเอง ทำทุกอย่างเพื่อนักธุรกิจและเอกชนรายใหญ่มากกว่าประชาชน ใช้อำนาจเพื่อพวกพ้องและควบคุมประชาชน กำจัดคนเห็นต่าง และอีกหลายเรื่องที่ไม่อาจจะพูดได้ในนี้
ในตอนนี้เราอาจยังมีอิสระที่จำกัด แต่หากไม่ทำอะไรเลย ยังเห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาลนี้อยู่ หรือนิ่งเฉย ก็ไม่วายจะตามไปแบบฮ่องกง พัฒนาแต่วัตถุ แต่ข้างในเน่าเฟะ หรือเลวร้ายสุด เราจะเหมือนเกาหลีเหนือ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เห็นภาพเลยครับ ต้องโตในยุคนี้ อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะสาย
นี่ดูท่าทางจะอินกับผีคอมมิวนิสต์มากเลยนะครับเนี่ย
แล้วมันจริงไหมหละครับ เห็นแต่ละอย่างมันไปทางเผด็จการหมดนะครับ แล้วคุณมองเห็นอะไรดีจากจีนบ้าง นอกจากการพัฒนาชาติ คุณภาพชีวิต และเทคโนโลยี
พูดตรงๆ ว่า ไม่ว่าจะจีน สหรัฐฯ รัสเซีย อินเดีย ไม่มีใครน่าเชื่อถือเต็มตัวทั้งนั้น แต่ช่วงหลังนี้ ท่าทีของจีนชัดเจนมากทั้งการผูกมิตร ควบคุมประชาชน และสื่อของจีนเอง
เรื่องเสียๆ ของจีนก็มีพอสมควร พอๆ กับฝั่งสหรัฐฯ แต่จีนมีการควบคุมแบบเบ็ดเสร็จที่น่ากลัวกว่ามาก ซึ่งรัฐบาลบ้านเราก็กำลังดำเนินรอยตาม ตั้งแต่บิดเบือนประวัติศาสตร์ ปิดปากนักเคลื่อนไหว ออกกฎหมายควบคุมแบบโง่ๆ และเรื่องอื่นๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว รวมถึงที่พิมพ์ในนี้ไม่ได้ คุณยังจะไว้ใจได้อีกเหรอ
สำหรับจีนนั้น ไม่ได้มีการปกครองด้วย Communist ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เป็นเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จที่มาเปิดรับเศรษฐกิจทุนนิยมในปลายยุค 90
และไม่มีประเทศไหนที่ปกครองด้วย Communist ที่แท้จริงเลย แต่เป็นเผด็จการย้อมแมวในคราบแนวคิด Communist ครับ ผมพูดได้เลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าผมไม่ติดตามอ่านข่าวหรือรู้อะไรๆบ้าง ผมคงอ่านแล้วคล้อยตามความคิดเห็นนี้ทั้งหมดแน่นอน
คุณค่าของฮ่องกงได้ถูกจีนทำลายลงแล้ว
ใครบอกว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง รอบนี้เกี่ยวเต็มๆแถมโดนทั้ง SEA ด้วย รอบหน้าคงเห็นหลายบริษัทคลาวด์ย้ายออกจากฮ่องกงแน่นอน เพราะรอบนี้โดนจีนส่องเต็มสูบแน่ รวมถึงบริษัทเกมบางเจ้าที่ไม่ได้มาจากจีน เช่น เกาหลี ในเกมออนไลน์เกมนึง มาตั้งตัวแทนในฮ่องกงเพื่อดูแลบริษัทในโซน SEA/ไทย เดือดร้อนไปด้วยแน่ ฯลฯ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
จากกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อต้านกันใหญ่เข้าทางจีนเลยคราวนี้ เจอกฎหมายความมั่นคง แกนนำหนีออกต่างประเทศก่อนเลย คนซวยคือคนฮ่องกง
จากที่ตามข่าวมา ทางอังกฤษก็กำลังพิจารณาออก Visa ให้กับคนฮ่องกงกว่า 2 ล้านคน ให้ย้ายไปอังกฤษแทน
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ก่อนหน้านี้จีนต้องการให้ฮ่องกง เป็นคนออกกฎหมายนี่ครับ ตอนนี้ต้องออกกฎหมายไปครอบเอง (ซึ่งโดนมาตรการตอบโต้ไม่น้อยเพราะหลายชาติมองว่าละเมิดข้อตกลงตอนส่งคืน)
จากแบบเนียนๆ กลายเป็นแบบโจ่งแจ้งนี่เรียกว่า "เข้าทาง"???
lewcpe.com, @wasonliw
สิงคโปร์ยิ้มเลย
ฉีกยิ้มยันทวารเลยครับ ฮ่องกงมันจบไปนานแล้ว
แต่เนื้อที่มันเล็กนะ หรือต้องถมที่ไปเรื่อยๆ เพื่อขยายความเจริญ และบางพื้นที่ก็สงวนเป็นพื้นที่อนุรักษอยู่ ส่วนผู้นำเองก็ยังมีระดับเผด็จการอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง แม้ไม่รุนแรงเท่าจีน และเสถียรกว่าฮ่องกงมากก็ตาม
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เรื่องที่ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องถมทะเลให้กลายเป้นแผ่นดินนี้ชาวดัชท์ทำมานานตั้งแต่สมัยครองการค้าโลกเมื่อ 300+ ปีก่อนละครับ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณภาพคนล้วนๆ เป็นอย่างงี้มาหลายร้อยปีแล้ว ยิ่งสมัยนี้ยิ่งเห็นชัด
ที่น่าเศร้าคือยุทโธปกรณ์สมัยใหม่มันรุนแรงเกินกว่าที่ประชาชนจะสู้กับเผด็จการได้ล่ะ
กะอยู่แล้วการประท้วงทำให้เร่งเวลาจีน ปรับเปลี่ยนที่ปล่อยให้ปกครองตนเองที่ให้คำสัญญาไว้ตอนแรกอีก 20กว่าปี เหลือไม่กี่ปีแทน
ลาก่อนฮ่องกง
That is the way things are.
แกนนำเริ่มหนีออกนอกประเทศ
ดูทรงแล้วฝรั่งน่าจะเล่นจีนไม่เลิกแน่ๆ
แต่แค่ย้ายฐานเคลื่อนไหว
คงต้องดูกันยาวๆ
data center ที่นั่นเยอะมาก
คงไม่ย้ายออกมาหลอกครับ แต่อาจทำตลาดเฉพาะจีนไปเลยฐานลูกค้าจำนวนตั้งเท่าไหร่ แล้วดูท่าทางจีนไม่แคร์ด้วย ถ้าเคยได้อ่านคำแถลงตอนประชุมสภาประชาชนฯที่ผ่านมาจีนก็แถลงออกมาชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ยอมและไม่สนตะวันตกด้วย
จีนจะกลัวอะไรฝรั่งล่ะ นี่ยังกล้าเขียนแผนที่ใหม่ แถวทะเลจีนใต้
nine dash line นี่จีนอ้างว่าเขียนมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง นะครับ แผนที่ฝรั่งต่างหากที่มาทีหลัง 555
ตอนนี้ รอดู กระแส กัน ไป ลุกค้าในฮ่องกง จะเลือกอยุ่ต่อ ซึ่งมีจีนเป็นตลาดใหญ่ หรือ ย้ายกันออกหมด แล้วไปทำตลาดที่อื่่น
ไป japan เถอะ
ตอนนี้ทัี้ง Singapore และ Tokyo กำลังแย่งจะเป็น Financial hub of Asia กันอยู่เลยครับ