ในงาน Ubisoft Forward เมื่อคืนนี้ มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ใหม่เพิ่มเติมของ Watch Dogs: Legion ว่ากรุงลอนดอนที่เป็นเมืองหลังของภาคนี้ อยู่ในสภาวะถูกทำลายจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ทำให้ทหารรับจ้างบริษัท Albion ที่นำโดย Nigel Cass เข้ามาควบคุมเมืองแบบเบ็ดเสร็จโดยอ้างความสงบเรียบร้อย
แถมยังมีกลุ่มอาชญากรค้ามนุษย์ นำโดย Marie Kelly เข้ามาควบคุมบางพื้นที่ด้วยเช่นกัน คาดว่าสองคนนี้น่าจะเป็นตัวร้ายหลักของภาคนี้ และนอกจากนี้ แชนแนล Youtube ของ Ubisoft ไทย ยังลงตัวอย่างซินีมาติก Tipping Point ที่โชว์เนื้อเรื่องเกมแบบพากย์ไทยเต็มรูปแบบอีกด้วย
เกมเพลย์เดิมที่ Ubisoft เปิดเผย ในงาน E3 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าตัวละครใดในเมือง ก็ถูกเกณฑ์มาเป็นพวกเราได้ ส่วนงานคราวนี้เป็นการแสดงเกมเพลย์ และความสามารถที่แตกต่างกันของตัวละครอาชีพต่างๆ ในภารกิจบุกฐาน Albion ในหอคอยลอนดอนเพื่อสืบค้นข้อมูลไว้เล่นงาน Nigel
ผู้เล่นสามารถเล่นเป็นคนงานก่อสร้าง ใช้อาวุธเป็นประแจและปืนยิงตะปู บุกเข้าไปตรงๆ เล่นเป็นคนเล่นโดรน ใช้โดรนเพื่อลอบเร้นเข้าไป หรือจะเกณฑ์ทหารรับจ้าง Albion มาเป็นพวก (ที่ทีมงานบอกว่าจะเกณฑ์ยากกว่าตัวละครปกติ) แล้วใช้บัตรสแกนเข้าไปเลยก็ได้ นอกจากนี้ตัวละครคุณป้ามหาภัยที่เป็นตัวเด่นในตัวอย่างก่อนก็กลับมาอีกครั้ง แถมคราวนี้มีตัวละครใหม่ มือสังหารมืออาชีพ ที่เปิดตัวพร้อมเพลงประกอบคุ้นๆ และทำให้นึกถึงมือสังหารคนหนึ่งที่ฆ่าคนได้ด้วยดินสอ
Watch Dogs: Legion วางจำหน่าย 29 ตุลาคมนี้ บน PS4, Xbox One, PS5,Xbox Series X, PC และ Stadia
ที่มา - Ubisoft Forward
Comments
ในที่สุดเรื่องที่กลัวก็เป็นจริง: การพากย์แบบพันธมิตรกลายเป็นมาตรฐานในการพากย์เกมไปละ
น้ำตานอง อาบสองแก้ม ; - ;
แล้วต้องให้พากย์แบบไหนถึงจะพอใจคนเล่นเกมส่วนใหญ่ที่สุดครับ ในเมื่อคนส่วนใหญ่ดันชินเสียงแนวนี้ไปแล้วและสามารถขายได้
ปล.พากย์ไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มีแค่แนวพันธมิตรอย่างเดียวนะ และก็ในคลิปนี้ก็ไม่ใช่แนวอย่างที่ว่าด้วย
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ผมก็บอกได้แค่ว่าผมไม่ชอบ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมกลัว แต่ถ้าคุณชอบ ถ้าคนส่วนมากชอบ ผมก็โอเค ก็แค่ไม่เปิดเสียงเท่านั้นเอง
อย่างจุดนึงที่ผมพอจะชี้ได้ง่าย ๆ คือส่วนเสียงผู้ประกาศข่าวที่เป็นแบ๊คกราวนด์ด้านหลัง ผมว่า ผู้ประกาศข่าวไม่ได้ออกเสียงแบบนั้น นักพากย์ที่มาพากย์ก็น่าจะลองสังเกตว่าผู้ประกาศข่าวเขาออกเสียงอย่างไร ไม่ใช่คิดว่าพอเป็นงานพากย์ต้องทำเสียงแบบ comical เสมอไป
อันนี้ลองเทียบกับงานทุนต่ำกว่าอย่าง Home Sweet Home ก็ได้ คืองานนั้นนักพากย์ที่มาพากย์เป็นผู้ประกาศในวิทยุเป็นนักประกาศข่าวจริง ๆ เค้าก็แค่อ่านข่าวไปตามปรกติ แต่มันได้งานที่ออกมาน่าเชื่อ (believable) มากกว่าครับ
จะว่าไปผมก็เข้าใจแหละว่าเขาน่าจะไม่ได้ใช้วิธี audition คน แต่เลือกที่จะจ้างคนที่ทำอยู่แล้วมา ก็เลยได้งานที่บางทีก็ดูไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่ ก็คิดว่าน่าจะสมกับงบการทำตลาดที่ได้กระมัง ?
ปล.ส่วนตัวผมชอบงานที่ให้ดารามาพากย์นะ ผมว่าเค้าพากย์ได้ดูมีมิติกว่า หรืออาจจะเพราะว่าเค้าพากย์เหมือนเค้าแสดงเป็นตัวละคร ไม่ใช่พากย์ตามวิธีที่ทำสืบทอดกันมา (และดาราที่เลือกมาก็ได้มาจากการออดิชันจริง ๆ ด้วย)
ปล. 2 ผมดูเทรลเลอร์อันนี้แล้วผมไปนึกถึงไอ้เทรลเลอร์ฟ้าคำราม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
ผมว่ามันโอเคนะ ดูง่ายฟังง่าย เข้าใจง่าย อยากให้ลองดูการพากย์อันนี้จัง อึดอัดมาก https://www.youtube.com/watch?v=makPTi22y_s
คนดูหนังย่อมจำเสียงได้ว่า ทีมไหนพากย์
ในฐานะคอหนัง ผมสรุปเอาเองว่า ทีมพากย์ทำงานตามสั่งอีกที ถ้าเขาเน้นจริงจังก็จะไม่ตบมุขในหนังเลยครับ แต่ถ้าเขาอยากให้หนังมันติดตลกเขาก็ทำให้ได้
อีกอย่างผมเริ่มสังเกตว่า อุตสาหกรรมเกมกำลังทำตัวเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ คือเน้นขายเนื้อเรื่องที่ผู้เล่นสามารถสัมผัสได้มากกว่าแค่ดูอยู่เฉยๆ ทีนี้เมื่อมันเหมือนหนัง การพากย์จึงเริ่มสำคัญ
ลองคิดดูถ้าเกมแบบเล่นเนื้อเรื่องมีการพากย์ภาษาถิ่น มันยิ่งกระตุ้นยอดขาย
เหมือนดูสารคดีที่แปลมาแบบทื่อๆ ตามช่องฟรีทีวีอะครับ.
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แก้ไขแล้วคร้าบ