ผู้พิพากษาชาวแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะให้ Uber และ Lyft มีเวลามากขึ้นในการอุทธรณ์คำตัดสินที่กำหนดให้ บริษัทต้องจัดประเภทผู้ขับขี่ในรัฐแคลิฟอร์เนียให้ทัดเทียมกับพนักงาน ยังคงยืนยันตามเดิมว่าต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 10 วันนับจากวันตัดสิน ซึ่งครบกำหนด 20 สิงหาคมนี้
เท่ากับตอนนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ Uber, Lyft ต้องปิดให้บริการในแคลิฟอร์เนียไปก่อน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทจะยังยื่นอุทธรณ์ต่อไป
คำตัดสินศาลมาจากการฟ้องร้อง Uber, Lyft ว่าละเมิดกฎ AB5 หรือ Assembly Bill 5 ซึ่งกำหนดให้คนทำงานใน gig economy ต้องได้รับสวัสดิการเทียบเท่าพนักงานประจำ ซึ่งรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านกฎหมายนี้ไปตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019 ซึ่งที่ผ่านมา Uber, Lyft จัดประเภทคนขับเป็นคนรับงานอิสระหรือ independent contractor มาโดยตลอด เพราะจะได้หลีกเลี่ยงการจ่ายเงินเดือนขั้นต่ำและสวัสดิการต่างๆ ได้
John Zimmer ประธาน Lyft กล่าวในการประชุมผลประกอบการว่า การจัดประเภทคนขับรถกว่าหมื่นคนให้เป็นพนักงานนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งแม้ในยามปกติ และอาจเป็นไปไม่ได้เลยในช่วงโรคระบาดนี้ ก่อนหน้านี้ Uber เองก็ปลดพนักงานออกร่วม 3,700 รายเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโควิด ยอดเรียกใช้งานรถลดลงถึง 80%
ที่มา - Business Insider
Comments
คุ้มครองคนทำงานหรือซ้ำเติมให้ตกงานจริงๆเนี่ย
ถ้าอูเบอร์เป็นประโยชน์ต่อคนตกงานขนาดนั้น เขาคงไม่เรียกร้องหรอกครับ คนขับแท็กซี่ตกงานมาทำกับอูเบอร์ซึ่งให้น้อยกว่า อยากทราบว่าสรุปมันช่วยสร้างงานหรือทำให้ตกงาน
สร้างงานให้อยู่นอกระบบ แต่ให้คนในระบบตกงาน
ถ้าระบบมีกำไรมากพอก็ไปต่อ แต่ถ้าประเมินแล้วเสี่ยงขาดทุนเพิ่ม เป็นผมหยุดบริการ
ระบบมันขาดทุนไตรมาสละหลายพันล้านเหรียญมาตั้งแต่แรก
กฎหมายแค่นี้ไม่ส่งผลหรอกครับ มันเล่นแจกเงินคนนั่ง+ค่าโฆษณามหาศาลให้คนใช้เป็นปลื้มเชียร์เย้วๆ กะให้แทกซี่ตายจนหมด แล้วค่อยโขกราคาเอากำไรคืนตอนนั้น ผมว่าอย่าไปเชียร์มากเลยในฐานะผู้บริโภค
เป็นพนักงานภายในที่พนักงานเลือกเวลาทำงานได้อิสระ + ทำเยอะ หรือเก่งมากได้มากสินะ
มันก็ดูต่างจากพนักงานภายในอยู่เยอะนะ
เหมือนเซลส์ไง
ก็ดีนะ
ถ้า model gig economy มันแพร่หลาย
สุดท้ายตลาดจะไม่เหลือตำแหน่งงานประจำที่มีสวัสดิการให้ทำ
สังคมโดยรวมจะแย่ลงอีก
แใม้ในยามปกติ > แม้ในยามปกติ
แล้วรัฐอื่นไม่เอาอย่างบ้างเหรอ
ขึ้นอยู่กับกฎหมายแต่ละรัฐและการตีความด้วยครับ