เราเห็น รีวิว Xbox Series X ออกเผยแพร่กันแล้ว คราวนี้เป็นคิวของฝั่ง PS5 ที่เปิดให้สื่อต่างประเทศเริ่มออกรีวิวกันมาบ้าง
ในแง่ของสมรรถนะฮาร์ดแวร์ เนื่องจากสเปกของ PS5 และ Xbox Series X ใกล้เคียงกัน เสียงรีวิวจึงออกมาคล้ายกันคือ สมรรถนะแรง เล่นเกม 4K ลื่น และ SSD ช่วยให้เกมโหลดเร็วขึ้นมาก
จุดต่างที่ PS5 มีเอกลักษณ์เหนือกว่า Xbox Series X คือจอย DualSense ที่มีฟีเจอร์เยอะกว่า และเกมช่วงเปิดตัวที่เยอะกว่า ส่วนข้อด้อยกว่าคือพื้นที่ SSD เล็กกว่า, ไม่มีฟีเจอร์ Quick Resume
จอย DualSense มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า DualShock 4 และปรับดีไซน์ให้แตกต่างไปจากเดิมพอสมควร แต่ของใหม่จริงๆ คือฟีเจอร์การสั่นแบบใหม่ haptic feedback ที่ละเอียดสมจริงกว่าเดิม แยกการแตกต่างของการสั่นแต่ละแบบได้ ซึ่งฝั่ง Xbox ไม่มีอะไรแบบนี้มาเทียบเคียง, trigger แบบใหม่ที่มีแรงต้านหลายระดับ แตกต่างตามสถานการณ์ในเกม, นอกจากนี้ DualSense ยังมีไมโครโฟนในตัว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใส่ไมค์เฮดโฟนตอนเล่นเกมอีกต่อไป
ส่วนเกมที่เป็นพระเอกของ PS5 ช่วงเปิดตัวย่อมหนีไม่พ้น Spider-Man: Miles Morales ที่ถึงแม้ไม่ได้เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ PS5 (ลง PS4 ด้วย) แต่ก็มีฟีเจอร์กราฟิกครบครัน รันที่ความละเอียด 4K@30 และมี ray tracing แต่ก็สามารถปิด ray tracing เพื่อดันเฟรมเรตไปที่ 1080p@60 ได้ อีกเกมที่โซนี่เปิดให้เล่นก่อนเครื่องวางขายคือ Devil May Cry 5 Special Edition ซึ่งก็ไม่ใช่เกมใหม่ 100% และเกมอื่นๆ ต้องรอวันวางขายจริงก่อน
Engadget ยังชมโซนี่ที่พรีโหลดเกม Astro's Playroom มาให้พร้อมเล่นทันที ช่วยสร้างประสบการณ์ตอนเปิดเครื่องครั้งแรกที่ดีกว่าฝั่ง Xbox ซึ่งต้องมารอดาวน์โหลดเกมกันใหม่หมด
ในแง่ของดีไซน์ รีวิวทุกรายพูดถึงขนาดของเครื่อง PS5 ที่ใหญ่มากๆ และการดีไซน์ "ปีก" ทั้งสองข้างที่กินพื้นที่เครื่องเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ Engadget ยังวิจารณ์ปีกว่าดูไม่แข็งแรง น่าจะหักง่าย เมื่อเทียบกับ Xbox Series X ที่ดีไซน์เรียบกว่า แต่ดูแข็งแรงมั่นคงกว่า
IGN ยกประเด็นเรื่องขาตั้งของ PS5 (ที่ถอดออกได้) ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการวางเครื่องแนวนอน และดีไซน์เครื่องที่สีขาว มีเส้นโค้งเยอะ บวกกับขนาดใหญ่มาก ทำให้หาที่วางในห้องนั่งเล่นได้ยาก แต่ก็ชม UI ซอฟต์แวร์ว่าสวยขึ้น หรูหราขึ้น ใช้งานได้ง่ายกว่า PS4
Polygon ชมการออกแบบ PS5 ที่เครื่องใหญ่ แต่ช่วยเรื่องระบายความร้อนได้ดี จนแทบไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลย แต่วิจารณ์ว่าจอย DualSense มีขนาดใหญ่เกินไป ถือนานๆ แล้วรู้สึกล้า แต่ก็ชี้ว่าขึ้นกับขนาดมือของแต่ละคนด้วย
ฝั่งข้อเสียเปรียบของ PS5 เรื่องอื่นๆ คือ รองรับเกมเจนเก่าน้อยกว่า Xbox, มีพื้นที่ว่างในดิสก์ให้ใช้น้อยกว่า (เหลือให้ใช้จริง 667GB จากขนาดเต็ม 825GB, ฝั่ง Xbox เหลือ 802GB จาก 1TB) และไม่มีฟีเจอร์ Quick Resume สลับเกมได้รวดเร็วแบบเดียวกับ Xbox Series X
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ GameSpot ลองวัดระยะเวลาโหลดเกมเดียวกัน เปรียบเทียบระหว่างบน PS5 กับ Xbox Series X กลายเป็นว่า Xbox เร็วกว่าในทุกกรณี (บางกรณีเร็วกว่าเกือบเท่าตัว) ซึ่งสวนทางกับที่ฝั่ง PS5 เคยคุยว่ามีความเร็วของ SSD สูงกว่าด้วยซ้ำ
คะแนนรีวิว
รีวิวอื่นๆ ที่ไม่มีให้คะแนน
Comments
รันที่ความละเอียด 4K@30 และมี ray tracing แต่ก็สามารถปิด ray tracing เพื่อดันเฟรมเรตไปที่ 1080p@60 ได้
หมายความว่าเปิด ray tracing ที่ 1080p ก็เข็นไม่ถึง 60 เฟรมเหรอ
อันนี้เขียนข่าวผิดครับ
จาก Digital Foundry ทดสอบไว้แล้ว เกมจะมี 2 Mode: เน้นกราฟิก กับ Performance
ถ้าเลือกเน้นกราฟิก (เปิด Raytracing) ได้ 4K30fps นิ่งๆ
แต่ถ้าเลือก Performance mode ปิด Raytracing จะได้ Dynamic resolution 4K60fps นิ่งๆ เช่นกัน
ยังไง 4K ยังเป็น upscaling อยู่ครับ ยังไม่มีเกมไหนกล้าแปะว่า Native 4K 5555
The Dream hacker..
ที่โหลดเกมช้าหรือเร็วให้ผมเดา ขอเดาว่าเพราะระบบ filesystem ของ SONY เอง ที่ไม่รู้ว่ายังใช้ FAT32 อยู่อีกหรือเปล่า
ผมว่าเพราะ Test กับเกม PS4 แบบ Backward Compatibles
ไม่ก็คงมี API ใหม่ ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เห็นผลอะไรเท่าไหร่
Storage API มันคุ้น ๆ ว่าจัด priority ได้ 12 ระดับ เดาว่าไม่ได้เปิดให้ใช้ใน compatibility mode เพราะของเก่าไม่น่าจะมีครับ
จะว่าไปก็เกมเก่าหมดเลยจริงด้วย
ผมว่าการจัดการด้าน I/O ของ MS นั้นเหนือกว่าอยู่แล้วครับ และผมว่า Engineer ของ MS น่าจะเหนือกว่าในด้วย R&D
The Dream hacker..
ใส่ลูกเล่นจอยมาเยอะ ปรากฎว่า XBOX ไม่มี Dev ทำเกมหลายแพลตฟอร์มเลยไม่ได้ใช้ = ฟีเจอร์เป็นหมัน (ฮา)
ด้วยตรรกะที่ว่า "Sony มีเกม Exclusive เยอะกว่า" หากเกม Exclusive ที่ว่า รองรับฟีเจอร์ใดๆ ที่มีบน DualSense น่าจะคุ้มอยู่มั้งครับ
และส่วนตัวเชื่อว่า (รวมถึงอยากให้มี) ฟีเจอร์เช่น Build-in Mic มันต้องมาบนจอย Xbox แน่นอน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
กลับกลายเป็น xbox โหลดเร็วกว่าซ่ะงั้น
อาจจะเกมยังไม่ได้ optimize ให้กับเทคนิคพิเศษเลยใช้ได้ไม่เต็มที่หรือเปล่าครับ แบบสมัยยังไม่ได้ optimize ให้ใช้พลังของ CPU Cell ได้เต็มที่ ?
ไม่ได้ optimize แน่ๆ ครับ เพราะเกมที่ทดสอบมันเป็นเกมเครื่อง PS4 กับ Xbox One เอามาทดสอบในโหมด Backward Compatible แล้วจับเวลา ถ้าจะทดสอบเต็มที่ต้องเป็นเกมใหม่ที่ลงเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X เลย
haptic feedback น่าจะซ้ำรอย HD Rumble
ที่โหลดเร็วกว่าเพราะตัวเก่าเป็นเกมเก่าหรือเปล่า ไม่นับ Spiderman Mile นะ รอดูตัวใหมๆ
เท่าที่สังเกตไปติดล็อกโหมดอะไรหรือเปล่าหว่า กลายเป็นว่าบางเกมแบบ Monster Hunter ของ PS5 โหลดช้ากว่า PS4 ใช้ SSD เสียอีก
น่าสงสัยเหมือนกัน มันเป็น compact mode หรือไรงี้เปล่า บางทีโหลดเกม เร็วไป เดี๋ยว เกม ps4 เก่าๆ ไม่รองรับ 555
performance mode เกมสไปเดอร์แมนไม่ได้รัน 1080p 60fps นะ digital foundry เทสแล้วรันไม่ต่ำกว่า 1440p บางครั้งก็ 1500-1600p คนทำเกมเองก็บอกว่า dynamic 4K ก็คล้ายๆ checker board
เกม PS4 โหลดช้ากว่า อันนี้ทาง xbox ทำการบ้านมาดี เกม PS4 ไม่ได้ใช้ I/O complex ถอดรหัสเหมือนเกม PS5 เกมที่ทำลง PS5 อย่างสไปเดอร์แมนก็โหลดเร็วตามที่โฆษณา เข้าเกมไม่ถึง 10 วิ เริ่มเกมไม่ถึง 3 วิ
ปกติจอยก็ใหญ่อยู่แล้วนะ นี่ใหญ่กว่าเดิมอีกเหรอ ปกติไม่ชอบ ergonomic จอย ds อยู่แล้วเพราะรู้สึกจับไม่ถนัด ผิดกับจอยอีกเจ้าที่ถึงใหญ่ก็จับถนัดกว่า แบบนี้คงแย่กว่าเดิมแหง
ผมชินกับจอย PS นะ แต่อาจจะเพราะได้เล่นมานานมาก
แต่ส่วนตัวก็เล่นได้หมดครับ จอย Switch ก็ใช้ได้นะ
จอยที่มีปัญหาที่สุดในชีวิตผมยกให้ zero ของ 8bitdo
ผมอยากให้จอยฝั่ง Xbox เปลี่ยนมาใช้ haptic feedback บ้างเหมือนกันครับ อยากให้มีฟีเจอร์ใหม่ๆ บ้าง