ทางการสิงคโปร์ออกมายืนยันว่า ผู้บังคับใช้กฎหมาย ตำรวจ สามารถเข้าถึงข้อมูลในแอปพลิเคชั่น contact tracing COVID-19 หรือแอป TraceTogether เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนคดีอาชญากรรมได้ โดยจนถึงตอนนี้มีคนมากกว่า 4.2 ล้านคนหรือ 78% ของประชากรในท้องถิ่นได้ใช้แอปTraceTogether และโทเค็นสวมใส่เพื่อประโยชน์แก่การควบคุมโรคระบาด
ในช่วงทดสอบและเปิดตัว TraceTogether ใหม่ๆ นั้น รัฐบาลบอกย้ำว่า ข้อมูลจะถูกเข้าถึงได้ เมื่อผู้ใช้งานได้รับการตรวจว่าเป็น COVID-19 แล้วเท่านั้น ข้อมูลถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัย มีการเข้ารหัส และจะไม่ถูกเก็บถาวร และจำกัดจำนวนคนที่สามารถเช้าถึงข้อมูลได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รัฐบาลออกมายืนยันใหม่ว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นจะสามารถเข้าถึงข้อมูลสำหรับการสืบสวนคดีอาชญากรรมได้ ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ Criminal Procedure Code
Desmond Tan รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในประเทศบอกว่า รัฐบาลเป็นผู้ดูแลการติดตามข้อมูลด้วยมาตรการที่เข้มงวดเพื่อปกป้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคล หากมีเจ้าหน้าที่จงใจเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้ข้อมูลในทางที่ผิดจะถูกปรับเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือจำคุกไม่เกินสองปีหรือทั้งจำทั้งปรับ
คำชี้แจงของแอป TraceTogether มีการอัปเดตใหม่เพื่อสะท้อนกับแนวทางรัฐเกี่ยวกับการใช้งานของตำรวจที่อาจเกิดขึ้น ระบุว่าข้อมูล TraceTogether อาจถูกใช้ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคงของพลเมือง
ที่มา - ZDNet
Comments
ช้อมูล => ข้อมูล
เข้าหน้าที่ => เจ้าหน้าที่
สถานการณ์ที่ความปลอดภัย ?
แอพพลิเคชัน
แอพ
เข้าถึงข้อมูลได้
ถูกปรับเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือจำคุกไม่เกินสองปีหรือทั้งจำทั้งปรับ
โทษเบามากกกก เทียบกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ถือว่าเบามาก
รอคอมเม้นของ wrIter ที่ชอบเขียนข่าวอวยสิงคโปร์อยู่นะครัช...
อยากรู้ว่าเจ้าของ API คิดอย่างไรถ้าข้อมูลถูกใช้เพื่อผลอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจตนาดั้งเดิม
ใครคือเจ้าของ API หรอครับ สิงคโปร์ไม่ได้พัฒนาเองหรอครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าข่าวนี้เป็นรัฐบาลไทยทำละก็รับรอง comment ด่าเกิน 50 ไปแล้ว พอเป็นประเทศอื่นเงียบกริ๊บ
คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด...
ก็ผมไม่ได้อาศัยอยู่ในสิงคโปร์นี่ครับ
ไม่แปลก ไม่ใช่ประเทศนี้ แสดงทรรศนะไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ผมไม่ได้เสียภาษีให้สิงคโปร์อ่ะครับ
"อาจถูกใช้ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคงของพลเมือง"
อ่านให้ดีครับ ไม่ใช่ของ "ชาติ" หรือ "รัฐบาล" นะครับ!!
เพล้ง!!
"รัฐบาลเป็นผู้ดูแลการติดตามข้อมูล" อ่านให้ดีกว่านี้นะครับ เพล้งๆๆๆๆ
เพื่ออาชญากรรม "ความปลอดภัยและความมั่นคงของพลเมือง"
ไม่ใช่ความมั่นคงของชาติ รัฐบาล หรือคณะใดคณะหนึ่ง
ตีความให้ดีกว่านี้นะครับ มันไม่ได้เหมือนเหตุผลของรัฐบาลไทยแต่ประการใด
คุณนี่ ยิ่งกว่า "เพล้ง" แล้วนะครับ
มันไม่ได้สำคัญตรงที่ "รัฐบาล" เป็นผู้ดูแลการติดตามข้อมูล เพราะข้อมูลพวกนี้ ควรเป็น "รัฐบาล" ดูแลอยู่แล้ว หรือคุณจะให้ใครอื่นดูแล? อาชญากรรมนะครับ!!
แต่มันสำคัญที่ "ทำเพื่ออะไร" "ทำเพื่อใคร" ต่างหาก
และมันทุเรศ ที่เอามาเทียบกับกรณีของรัฐบาลไทย โดยตีความด้วย "ประธาน" ของประโยคเพียงอย่างเดียว (คือรัฐบาลเป็นผู้ดูแล)
แทนที่จะตีความโดยดูที่กิริยา (การกระทำ) และกรรม (ผู้ถูกกระทำ) ของประโยคร่วมด้วย
พอแค่เห็นว่าเป็น "ประธาน" เดียวกัน (รัฐบาล) คุณก็ตีความว่าบริบทเหมือนกัน?
ผมไม่เพล้งหรอกครับ
คุณไม่อายคนอื่นหรือครับ ที่คิดว่าผม "เพล้ง"?
ผม reply ให้คุณแก้ไขไม่ได้แล้วด้วยนะครับ ถ้าจะศรีธนญชัยลื่นไปไหนต่อ ไม่อายก็ให้รู้กันไปครับ
ถ้าคุณเปรียบเทียบกับ "ไทยชนะ" ผมจะไม่ออกความเห็นเลย แต่กระนั้น ผมก็ไม่เห็นจะค่อยมีใครเขามีปัญหากับ "ไทยชนะ" นะครับ ทั้งที่ตามจริง "ไทยชนะ" แทบไม่มีประโยชน์อันใดเลย ก็ไม่เห็นจะมีใครด่านักอย่างที่คุณกล่าวไว้
+1
โคตรจริง
ทำแบบนี้ รบ.สิงค์โปร์ เอามาใช้ติดตามตัว ฝ่ายค้าน/NGO
แบบที่เอามาเป็นข้ออ้าง ปั่นให้คนกลัว แอปหมอชนะ เมื่อปีที่แล้วได้สบายๆ
ถ้า รบ.ประเทศอื่นทำ = เพื่อประโยชน์ประชาชน
ถ้า รบ.ไทยทำ = เพื่อคุกคามประชาชน
จริงครับ และยอมรับผมก็วิจารณ์ แต่นี่ต่างประเทศซึ่งผมไม่รู้จักและไม่ได้สัมผัส
ผมไม่ได้วิจารณ์ด้านนโยบาย แต่พูดถึงความน่าถือในการที่จะบอกว่ารัฐไม่เอาข้อมูลมาคุกคามประชาชน กับ รัฐมีความสามารถเพียงพอที่จะดูแลข้อมูลประชาชนได้ สำหรับผมถือว่าได้คะแนนต่ำมากครับ
ข่าวข้อมูลหลุดในไทยเยอะ รัฐทำอะไรบ้าง นั่นขนาดเอกชนทำหลุด ถ้ารัฐทำหลุดเองหรือบกพร่องในการจัดเก็บดูแล เรื่องมันก็คงเงียบๆไปเอง ไม่ได้มาดูแลรับผิดชอบอะไรหรอก ข่าวเก่าที่ยังตราตรึงใจผมอยู่คือ มีข่าวว่าพบบัตรประชาชนถูกทิ้งไว้จำนวนมาก https://www.thairath.co.th/news/society/1733825 ทัศนคติของคนดูแลข้อมูลคือข้อมูลมันเก่าแล้ว เอาไปทำอะไรไม่ได้หรอก และรัฐก็ไม่ได้มาสนใจอะไรเคสนี้
ไม่ได้บอกว่าต่างประเทศดีกว่าแต่เพราะไม่รู้เลยไม่ได้วิจารณ์
อ่าว เปลี่ยนเงื่อนไขในภายหลังเฉย
That is the way things are.
อยู่ที่ความไว้ใจที่จะให้กับรัฐบาลละ