โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีที่กำลังจะออกจากตำแหน่ง ลงนามคำสั่งแบนแอปพลิเคชั่นจากจีนเพิ่มอีก 8 แอป รวมถึงแอปจ่ายเงินตัวดังอย่าง Alipay, WeChat Pay นอกจากนี้ยังมี CamScanner, QQ Wallet, SHAREit, Tencent QQ, VMate และ WPS Office
ในคำสั่งแบนระบุว่า จีนรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก รวมทั้งข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติในจีน ทำให้ชาวอเมริกันที่ใช้งานแอปเหล่านี้หลายล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยง รัฐบาลจึงต้องดำเนินการจัดการกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกว่าแม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะให้กระทรวงพาณิชย์ 45 วันในการดำเนินการ แต่ก็มีแผนจะดำเนินการให้ได้ก่อนวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์ต้องออกจากทำเนียบขาว ด้านโฆษกจาก Tencent และตัวแทนจากสถานทูตจีนในสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์มีนโยบายแข็งกร้าวกับจีน แบล็กลิสต์บริษัทจีนมากมาย และออกคำสั่งแบน TikTok และ WeChat ซึ่งกระบวนการแบนยังอยู่ในขั้นศาล ทำให้เกิดคำถามว่า ศาลสหรัฐฯ จะตัดสินอย่างไรต่อการแบนรอบล่าสุด
ภาพจาก Alipay
ที่มา - Reuters, The New York Times
Comments
ถ้าแบนแต่ในประเทศอเมริกาคงจะไม่เป็นไรมาก เกรงว่าอเมริกาจะไปกดดันประเทศพรรคพวกพันธมิตรให้ร่วมกันแบนด้วย
ถามแบบไม่มีความรู้นะครับถ้า โจ ไบเดน ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง จะสามารถยกเลิกคำสั่งต่างๆของทรัมป์ได้ไหม หรือต้องรอระยะเวลาหรือต้องมีการสอบสวนเพื่อหักล้างคำสั่งนั้นๆหรือไม่
ผมว่า ไบเดนมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย เขายังต้องปกป้องผลประโยขน์ของประเทศเป็นหลักเหมือนเดิม
เพียงแต่อาจยอมเจรจาด้วยง่ายกว่าทรัมป์ แต่ข้อแลกเปลี่ยนคงสูงน่าดู
ของแบบนี้มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ไบเดนก็คงไม่ยกเลิกให้ง่ายๆ หรอกครับ ทางการจีนก็คงต้องเอาอะไรมาแลกถ้าต้องการสิทธิต่างๆ กลับคืนไป แต่คิดว่าคงมีความยืดหยุ่นมากกว่ายุคของทรัมป์ คงเน้นแนวทางเจรจาต่อรองกันเป็นหลัก เพียงแต่ทางอเมริกาก็มีไพ่ที่ทรัมป์ทิ้งไว้ให้อยู่ในมือ
คาดว่าลีลาฝั่งอเมริกา ก็คงลากยาว แล้วอ้างว่าอยู่ในกระบวนการของศาล ช่วงนี้ศาลก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไปก่อน พอทางการจีนทนไม่ไหวขอเจรจาก็เข้าทาง แต่คิดว่าทางจีนคงสร้างเงื่อนไขอื่นขึ้นมาก่อนอีกนั่นแหล่ะ ยื้อกันไปเรื่อย ใครเหนื่อยก็แพ้ หรือโดนกดดันจากภายในก่อนก็ต้องขอเปิดเจรจาก่อน อย่าลืมเดโมแครตมีบริษัทไอทีหนุนอยู่จำนวนมาก คงไม่ยอมปล่อยให้คู่แข่งมาลอยหน้าลอยตาในดินแดนของตัวเองง่ายๆ หรืออย่างน้อยจีนก็ต้องเปิดเสรีด้านไอทีมากกว่าที่เป็นอยู่ คิดว่าน่าจะไปในช่องนี้มากที่สุด ซึ่งบริษัทจีนก็แข็งแรงพอที่จะแข่งขันแล้ว ทางการจีนน่าจะผ่อนผันให้ได้ ซึ่ง win-win ทั้ง 2 ฝ่าย น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ผมเข้าใจว่าสามารถยกเลิกได้เลยนะครับเพราะเป็นคำสั่งฝ่ายบริหารซึ่งเป็นอำนาจของประธานาธิบดีครับและไบเดนเองก็เคยบอกว่าจะยกเลิกหลายๆคำสั่งของทรัมป์ทันทีที่ดำรงตำแหน่งเช่นกัน
วันนี้ทรั้มระดมคนประท้วง รอดูว่าจะหนักถึงสงครามกลางเมืองมั่ย
บ้าได้ใจ บักทรั้ม
ที่ใครทีมัน จีนเคย block Facebook google ยังจำได้ไหม
ใช่ ลืมไปเลย
ไม่น่าใช่ "เคย" นะครับ
"เคย"ออกกฎหมายลักษณะนี้เหมือนกัน และยังไม่ยกเลิก...
ถูกครับ "เคย" ใช้กับปัจจุบันไม่ได้
น่าจะ block iPhone, ipad, mac ด้วยเลย
น่าจะมันส์ พะยะค่ะ
เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกว่าแม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะให้กระทรวงพาณิชย์ 45 วันในการดำเนินการ >> เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกว่าแม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะให้เวลากระทรวงพาณิชย์ 45 วันในการดำเนินการ
กระบวนการแบนยังอยู่ในขั้นศาล ทำให้เกิดคำถามว่า ศาลสหรัฐฯ จะตัดสินอย่างไรต่อการแบนรอบล่าสุด..
ผลคาดว่า ศาลไม่สั่งแบน เพราะคนอเมริกันเชื้อสายจีน และ ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจตน
คนอเมริกันเชื้อสายจีน ไม่ใช่คนจีนครับ
เหมือนคนไทยเชื้อสายจีน ที่เกิดที่ไทยโตที่ไทยนี่แหละครับ ก็ไม่เห็นมีใครใช้อาลีเพย์นะ
ว่าแล้วเชียว
ไม่ช้าก็เร็ว ต้องแบนพวก FinTech จีนแน่ๆ
ผมว่าแฟร์ๆ จีนแบนแอพอเมริกันเหมือนกันนี่นา
+1 คือถ้าจะบอกว่าไหนว่าเสรี จะทำโลกเสรี ผมว่ามันจะไม่แฟร์มากๆ และควรมีวิธีการตอบโต้นะ ถ้ามีประเทศที่ไม่เปิดเสรีและไม่เปิดข้อมูลกลับมาให้แต่กอบโกยเข้าอย่างเดียวนี่ยังไงก็ได้เปรียบเห็นๆ