แม้ Parler แอปโซเชียลขวาจัด จะถูกเพ่งเล็งอย่างหนัก หลังม็อบบุกรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา จน FBI ถึงขั้นมาสอบสวนแพลตฟอร์มนี้ด้วย แต่ม็อบก็คงไม่ใช้ Parler เป็นช่องทางเดียวในการพูดคุยเพื่อก่อม็อบ ล่าสุด FBI ออกมาเปิดเผยว่า ม็อบก็ใช้ Facebook Messenger เป็นช่องทางประสานงานด้วยเช่นกัน
FBI เผยว่า จากภาพหน้าจอแชท Facebook Messenger ของชายคนหนึ่งชื่อ Thomas Edward Caldwell ที่ถือเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มบุกรัฐสภา ในที่นี้เรียกว่ากลุ่ม Oath Keepers แสดงให้เห็นว่าเขาคุยโวโอ้อวดเรื่องการบุกรุกสถานที่ และมีผู้ก่อความไม่สงบคนอื่นส่งเบาะแสเกี่ยวกับนักการเมืองที่เป็นเป้าหมายสำคัญในการโจมตีครั้งนี้ด้วย ว่าพวกเขาแอบซ่อนอยู่ที่ไหน
ด้าน Facebook ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นอะไรต่อข่าวนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีรายงานด้วยว่า นอกจาก Parler และ Facebook Messenger ผู้ก่อความไม่สงบยังใช้ Telegram และ แอป walkie-talkie หรือ Zello ในการคุยประสานงานกันด้วย
ภาพจาก Facebook
ที่มา - Gizmodo
Comments
จะแบนด้วยมั้ยหรือสองมาตรฐาน? แอปเล็กๆไม่รอดแต่แอปใหญ่รอด ถถถถถถ+
ถ้าเป็น messenger chat ไม่ใช่ post ในgroup/page นี่ เจ้าของplatform ไม่ควรจะรู้รึเปล่า?
ถ้ารู้แสดงว่าแอบอ่าน chat ที่คนคุยกันซึ่ง ควรจะมี privacy
มันมีเคสที่แอพถูกแบนเพราะเจ้าของ platform ไม่ดูแล
กับ
เจ้าของ platform ดูแลไม่ได้เพราะเข้ารหัส
แต่ถูกเอาไปใช้ในที่ผิด และพิสูจน์ได้
ถ้าแอพแรกถูกแบนไปแล้ว คนแห่มาใช้แอพที่สอง แอพที่สองจะควรโดนแบนด้วยมั้ย
เค้าอาจหมายถึงประเด็นแบบนี้น่ะ
ถ้าหมายถึง page, group นี่ก็เห็นเฟสบุ๊คเค้าไล่ลบ ไล่แบนนะ
อันนั้นเห็นด้วยว่ามันก้ำกึ่งเรื่องเจ้าของแพล็ตฟอร์มควรดูแลหรือไม่
ถ้าเรื่องแอพแชทนี่ มันแปลกๆนะ ลองเปรียบเทียบว่าถ้ากลุ่มบุกรัฐสภาเค้าโทรศัพท์คุยนัดหมายกัน นี่เราควรเอาผิด ค่ายมือถือ เหรอครับ?
แกงค์ > แก๊ง
Zello ก็มีชื่อกับเขาด้วย 55+
หลายคนอาจจะงง เพราะคนไทยคงไม่ค่อยเล่นกันสักเท่าไหร่
แต่สำหรับคนที่ชอบเล่นพวกวิทยุสื่อสาร หรือพวกอาสา และรถแท็คซี่คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี
สาวก Drupal และ Backdrop CMS ไม่ใช่ใคร ก็ผมนี่แหละ
น่าจะเริ่มลดขนาดโดยใช้ Anti Trust เพราะ Big Five น่าจะเริ่มใหญ่เกินไป
MS เคยเจอมาแล้วไม่น่ายากอะไรอยู่ที่ว่าจะหั่นอะไร แต่เฟสบุ๊คนี่น่าจะโดนรายแรกๆ
ปัญหาคือถ้าหั่นก็จะสู้ทางจีนไม่ได้เอานะครับ