หลัง Asus ROG Phone 5 มือถือเกมมิ่งจาก Asus รุ่นล่าสุด เปิดตัวไปเมื่อวาน มีสามรุ่นคือรุ่น ธรรมดา, Pro และ Ultimate ซึ่งต่างกันที่แรม ความจุหน่วยความจำภายใน และของแถมในกล่อง
วันนี้เริ่มมีรีวิวจากสื่อต่างๆ ออกมาแล้ว โดยทุกเจ้าพูดถึงสเปกเครื่องที่จัดเต็ม เหมาะสำหรับการเล่นเกมบนจอ 144Hz แต่ข้อด้อยน่าจะเป็นน้ำหนัก กล้อง และราคาที่แรงพอๆ กับสเปกเครื่อง
Asus ROG Phone 5 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080p รีเฟรชเรต 144Hz ครอบด้วย Gorilla Glass Victus ลำโพงคู่หน้าพร้อม DAC ใช้ชิป Snapdragon 888 จีพียู Adreno 660 รุ่นธรรมดามีแรม 8GB, 12GB, 16GB รุ่นโปรแรม 16GB และ 18GB ในรุ่น Ultimate
หน่วยความจำภายในเป็นแบบ UFS 3.1 ความจุ 126GB, 256GB และ 512GB ในรุ่น Pro และ Ultimate แบตเตอรี่ 6,000 mAh ชาร์จเร็ว 65W และแถมพัดลมระบายความร้อน Aeroactive Cooler 5 มาในกล่อง
กล้องหลังหลัก 64MP กล้องอัลตร้าไวด์ 13MP กล้องมาโคร 2MP กล้องหน้า 24MP รัน Android 11 มีรูหูฟัง แต่ไม่กันน้ำ และไม่รองรับชาร์จไร้สาย
ในด้านรีวิว Android Police ชื่นชมว่า ROG Phone 5 น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่เหมาะจะเล่นเกมบนจอให้ได้เฟรมเรต 144 เฟรมมากที่สุดแล้ว รวมถึงลำโพงคู่ที่ให้เสียงกระหึ่มก็คุณภาพดี และแบตเตอรี่ 6,000 mAh กับที่ชาร์จ 65W ก็ทำให้เล่นเกมได้ยาวๆ จนลืมชาร์จกันไปเลย
แต่ก็พูดถึงข้อเสียคือราคาของรุ่น 12GB + 256GB ที่สูงถึง 1,188 ดอลลาร์ หรือราว 36,500 บาท ไม่รองรับชาร์จไร้สาย ไม่กันน้ำ กล้องที่คุณภาพด้อยกว่ามือถือแบรนด์อื่น น้ำหนักที่แทบจะถ่วงจนกางเกงเอียงไปข้างหนึ่ง และการอัพเดตของ Asus ที่มีประวัติไม่ค่อยดีนัก
Tech Radar ชื่นชมว่า ROG Phone 5 เป็นมือถือเกมมิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ แถมยังเหมาะกับการดูคอนเทนต์ด้วยจอ ลำโพงคู่ด้านหน้าที่คุณภาพดี และแบตเตอรี่ความจุสูง แต่ก็พูดถึงข้อเสียเรื่องราคา กล้องที่ด้อยกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ในปีนี้ แล้วก็ดีไซน์ที่ดูมีความ “เกมมิ่ง” เกินไปนิด กับไฟ OLED และโลโก้ขนาดยักษ์ที่ฝาหลัง
The Verge ชื่นชมประสิทธิภาพตัวเครื่อง และการปรับแต่งที่มาพร้อมกับ ROG UI รวมทั้งชื่นชอบไฟ OLED บนฝาหลัง และลำโพงคู่หน้าที่มีประสิทธิภาพดี แต่ข้อเสียที่พูดถึง คือแรม 18GB ในรุ่น Ultimate ที่มากเกินความต้องการ และความคุ้มค่าต่อราคาที่ยากจะยอมรับ
Asus ROG Phone 5 แต่ละรุ่น มีราคาดังนี้
- ROG Phone 5 รุ่น 8GB/128GB ราคา 799 ยูโร หรือราว 29,230 บาท
- ROG Phone 5 รุ่น 12GB/256GB ราคา 899 ยูโร หรือราว 32,900 บาท
- ROG Phone 5 รุ่น 16GB/256GB ราคา 999 ยูโร หรือราว 36,550 บาท
- ROG Phone 5 Pro รุ่น 16GB/512GB ราคา 1,199 ยูโร หรือราว 43,860 บาท
- ROG Phone 5 Ultimate รุ่น 18GB/512GB ราคา 1,299 ยูโร หรือราว 47,520 บาท
คะแนนรีวิวจากสื่อต่างๆ มีดังนี้
- Android Police - 7/10
- TechRadar 4/5
- XDA Developers - N/A
- The Verge - 7/10
- CNET - N/A
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ดูรีวิวในไทยแต่ละเจ้าที่ออกมาไล่ๆกัน มีแต่อวยกันทั้งนั้นจริงๆ ข้อเสียมี แต่ไม่พูดหนักหน่วงแบบต่างประเทศ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ผมถึงไม่เคยติดตาม content creator บ้านเราครับ เวลาจะชี้ออะไรต้องมี review ฝรั่งเท่านั้น ถ้ามีแค่ review ไทยผมไม่ชี้อครับ เพราะ shill อย่างเดียวไม่มีเนี้อเลย
เหมือนกันเลย ผมไม่เคยดู Review อุปกรณ์ IT และมือถือ ของคนไทยทำเลย ไปดูของต่างประเทศอย่างเดียว ค่อนข้างน่าเชื่อถือกว่าเยอะ
ที่ผมนึกออกมีแค่ Headlightmag ของวงการรถยนต์ที่กล้าติ กล้าด่า กล้าบอกข้อเสียโดยตรง ตอนรีวิวและทดสอบรถ แม้จะเป็นรถที่ยืมมาจากค่ายรถก็ตาม
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Blogger บ้านเรา รับจ้างโฆษณาทั้งนั้นครับ ส่วนรายได้จากการรับชมนั้นก็อีกส่วนนึง
โอ้เพิ่งรู้นะครับนะเนี่ยว่ามีคนแบนรีวิวไทยเหมือนกันหลายคนเลย
ดูไปแทบไม่ได้ประโยชน์อะไร เหมือนมานั่งฟังโฆษณาความยาว 10-20 นาที เพื่ออออ
ของฝรั่งเค้าตรงมาก ethical ดีก็ชม แย่ก็ด่า
แต่คนไทยส่วนใหญ่เค้าไม่ได้แคร์เหมือน tech savvy อย่างพวกเราอ่ะดิ 55
ผมชอบ Leap Alife นะครับ ส่วนใหญ่รีวิวเรื่องกล้อง (แต่พูดอังกฤษนะ).
บ้านเราไม่ได้รายได้เยอะขนาดซื้อมารีวิวเองครับ เลยต้องพึ่งพาแบรนด์ส่งให้
ถ้ารีวิวเสีย ๆ หาย ๆ คราวหน้าอาจจะอด (ไม่รู้บางทีคงรับเงินมารีวิวด้วย)
ตามนี้เลย
รีวิวในไทยไม่ใช่รีวิวเลยครับ
มันคือการโฆษณาชัดๆ อวยอย่างเดียว พูดไปยิ้มไป
ด่าแบรนด์ที่เพิ่งรีวิวไปหลายวันก่อนด้วย
ช่องไอที มีแต่รีวิวสินค้าทั้งนั้น
แค่จุดด้อย หรือข้อเสียของผลิตภัณฑ์นั้นๆ รีวิวไทย ยังพูดออกมาตรงๆ ไม่ได้เลยครับ
ต้องเปลี่ยนคำพูดเป็นอย่างอื่นแทน เช่นพูดว่า "ข้อสังเกต" หรือ "ข้อควรพิจารณา" แทน
แต่หากจุดไหนดี หรือทำออกมาดี นี่อวยแบบสุดๆ ไปเลย มีแต่กระทั่งคำว่า "สุดย๊อดดดดด"
ฮ่า ๆ ๆ ๆ
อยู่ๆเหมือนข้อความที่มีเสียงนี้เข้ามาในหัวทันทีเลยครับ ฮ่าฮ่า
ตอนนั้นผมหาข้อมูล Notebook ก็ไปเจอเว็บไทยเว็บนึง "รีวิว" แบบมีแต่คำว่า "ดีทีเดียว" แต่ไม่รู้ว่าดีแค่ไหน เทียบกับอะไร
พูดถึง touchpad ก็ "ดีทีเดียว" รุ่นสองหมื่นก็ดีทีเดียว รุ่นห้าหมื่นก็ดีทีเดียว คือมันไม่มีบรรทัดฐานอะไรเลยอะ
อย่างถ้าดูของต่างประเทศ touchpad นี่ง่ายๆเลย ตัวเทียบคือ Macbook เช่น "ดีแต่ยังไม่เท่า Macbook" ไรแบบนั้น เออ แบบนี้เห็นภาพ
ถ้าว่ากันตามตรง influencer บ้านเราจำเป็นต้องรับจ้างรีวิวในเชิงโฆษณาไม่งั้นอยู่กันไม่ได้ จริงๆคือแทบจะ 100% ของการรีวิวอุปกรณ์ไอทีของ influencer ที่มีชื่อเสียงก็คือจ้างรีวิวทั้งนั้น แล้วใครๆก็คงอยากรีวิวให้ได้เงินมากกว่าเสียเงินเพื่อรีวิวแน่ๆ ทีนี้มันก็ไม่ใช่รีวิวละ กลายเป็นการโฆษณาแทน ข้อแนะนำข้อห้ามอะไรที่แบรนด์ guide มาให้ก็เยอะแยะไปหมด เอาจริงๆ ดูรีวิวบ้านเราก็เหมือนดูโฆษณาแหละครับ
ฝรั่งเขาก็รับจ้างรีวิวนะครับ แต่หลายช่องก็จะบอกเลยว่า ได้ sponsor มา หรือซื้อเอง
อาจจะไม่เรียกว่าเป็นตัวอย่างที่ดี แต่ linus sebastian นี่ก็รับ sponsor LG ชัดๆ เวลา LG ออก product มาให้รีวิวแล้วไม่ดี เขาก็พูดตรงๆ เลย
แต่อย่างว่า นั่นมัน “linus” นะ แต่เอาจริงๆ ผมว่า influencer เขา “กล้า” ที่จะไม่ยอม sponsor มากกว่า และเป็นกันหลายคนจนเป็นบรรทัดฐาน
อย่างบ้านเรา ผมว่าต่อให้ inf ที่ดังที่สุดในประเทศ ก็ยังรีวิวตามคำสั่ง (บางทีน่าจะมี script ให้ด้วยซ้ำว่าต้องพูดถึงอะไรบ้าง แถมน่าจะต้องส่ง video ที่ตัดเสร็จแล้วให้ดูก่อนด้วยซ้ำ) ไม่มีใครกล้ารีวิวแบบตรงไปตรงมา
ซึ่งถ้าตัวใหญ่ๆ กล้าทำผมว่าน่าจะสร้างบรรทัดฐานให้วงการได้
ปล ผมก็ไม่ดู review ไทยเหมือนกัน ไม่มีประโยชน์
อาจจะเพราะว่าอาชีพ influencer บ้านเรายังไม่ใหญ่ขนาดให้แบรนด์ง้อมั้งครับ หมายถึงแบรนด์ตลาดทั่วไปอ่ะนะ เคยทำงานที่แบรนด์มือถือเล็กๆ ติดต่อ influencer บางรายนี่เจอเบ่งใส่แทบจะคับห้อง
Linus เนี่ยตัวแสบเลยครับ คลิปที่ Sponsored by Intel แต่ซัด Intel ยับก็มีมาแล้ว
พวก Review คอมนี่ผมดูก็ LTT, GamerNexux, Jayz, Hardware Unboxed ชอบที่ 4 ช่องนี้ไม่อวยใครเลย อันไหนเน่ามา โดนยำเละ
ดรอยแซงตัวดี
Asus ไม่ออก Zenfone รุ่นใหม่เลยตอนนี้
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ตั้งราคาแบบนั้นไปซื้อตัว snap 888 หมื่นกลางๆยังคุ้มกว่าไหม
ส่วนตัวยังมองว่า มือถือเกมมิ่งราคาตั้งแพงเวอร์ โน้ตบุ๊กเกมมิ่งอีกมั้ง (ในแง่การใช้งานเทียบกับ มือถือ&โน้ตบุ๊กทั่วไป)
ก็ไม่เคยเห็น console ไม่ว่าจะ XBOX หรือ PS พยายามออกแบบให้มันฉูดฉาดนะ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเครื่องเล่นเกมแท้ ๆ
That is the way things are.
หนึ่งในเหตุผลที่ไม่ค่อยชอบมือถือเกมมิ่ง ถือแล้วดูเด็กน้อยไปหน่อย
ผมว่า Design Language น่าจะได้มาจาก PC Laptop ROG เลยนะครับ เทรนเขามาแนวนี้ก็เลยออกมาแบบนี้ ส่วนตัวผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่มันขายได้ก็แสดงว่ามีคนชอบแหละ
มันเป็นเครื่องเล่นพกพาเค้าเลยตีความมาเป็นแบบนี้
ถ้าตัดไฟ,LRtriggerออกเครื่องน่าจะเสถียรขึ้นด้วยซ้ำI/Oน้อยลง แต่มันคือจุดขายแหละครับ
เออ จะว่าไปก็พึ่งสังเกต เครื่องเกมจริง ๆ ออกจะเรียบง่าย
มีแต่เกมมิ่งวัลลาบีเนี่ยแหละ ออกแนวฉูดฉาด PC เนี่ยตัวดีเลย อุปกรณ์ไหนชื่อว่าเกมมิ่งนี่ แหลมมาเชียว
PS5 บอกว่า ฉันทั้ง gloss ทั้งแหลมนะ
แต่ยังไงก็ไม่ได้มีไฟวิบวับเยอะๆ นะครับ
เกมมิ่งพีซี-แลปท็อป: ไฟผมโคตรวิบวับๆ เกมเมอร์อยากจะเข้ามาจับบบ
เกมเมอร์หรือแมงเม่าครับนั่น 555
คงต้องไปหาชุดแต่งมาใส่เองครับ เพราะเน้นผลิตในปริมาณมากและราคาถูก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้ก็ยังขาดตลาดเลยครับ ถ้าเป็นแบบที่ว่ามา แม้จะเป็นชุดจำนวนจำกัด ผมว่ามีขาดตลาดอีกนานแน่ๆ
และต่อให้หาชุดแต่งได้ก็ไม่ยืนยันว่าจะใช้งานได้นานนัก และแบรนด์ที่เคยออกแค่ฝาครอบแต่งบน PS5 ยังโดน Sony ฟ้องและสั่งให้เลิกผลิตด้วย ยิ่งหาของแต่งได้น้อยไปอีก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว