SafeCore เป็นเทคโนโลยีป้องกันแบตเตอรี่ไฟไหม้ที่จดสิทธิบัตรโดยบริษัท Amionx บริษัทลูกของ American Lithium Energy หรือ ALE ที่ได้งบจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐ เพื่อวิจัยเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่ ซึ่งปลอดภัยจนสามารถใช้เป็นเครื่องป้องกันในรถยนต์ไฟฟ้าได้ รวมถึงยังเป็นการพัฒนาต่อยอดจากแบตเตอรีที่ไม่ลุกไหม้แม้จะถูกยิง ที่ ALE ทำร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังได้รับเงินลงทุนจาก Qualcomm ตั้งแต่ปี 2017 อีกด้วย
SafeCore เป็นระบบแบตเตอรี่พร้อมตัวตัดกระแส สิทธิบัตรของ Jiang Fan และ Dengguo Wu ผู้ร่วมก่อตั้ง ALE จดทะเบียนครั้งแรกในปี 2015 และอีกเวอร์ชั่นในปี 2020
สิทธิบัตรกล่าวถึงแบตเตอรี่ที่มีชั้นตัดกระแสที่จะทำงานเมื่อมีเกิดความร้อน เป็นวัสดุที่จะกลายเป็นแก๊สเมื่อเกิดอุณหภูมิสูงถึงจุดหนึ่ง ซึ่งแก๊สตัวนี้จะทำให้ชั้นป้องกันกระแสนี้พองออก ทำหน้าที่เหมือนเป็นฟิวส์หยุดการไหลของกระแสเมื่อเกิดความร้อนจาก thermal runaway และป้องกันการลุกไหม้หรือระเบิดที่เกิดจากสามสาเหตุหลัก คือกระแสไฟเกิน, ไฟชอร์ต, หรือจากความร้อนภายนอก และสามารถนำไปใช้ได้กับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนทุกชนิด รวมถึงแบตเตอรี่ Solid State ในอนาคต
นอกจากนี้ชั้นป้องกันกระแสของ SafeCore ยังเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และสามารถเพิ่มเข้าไปในไลน์การผลิตแบตเตอรี่ได้โดยง่าย ทำให้นอกจากจะเพิ่มต้นทุนเพียงเล็กน้อยแล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบตเตอรี่ ได้โดยการลดความจำเป็นที่จะต้องใส่ระบบป้องกันอื่น ทำให้แบตเตอรี่มีน้ำหนักเบาลง ปลอดภัยขึ้น และหากนำไปใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า หมายถึงระยะที่รถวิ่งได้ ก็จะมากขึ้นด้วย
หลายครั้งที่อุบัติเหตุรถยนต์ไฟฟ้า มักจะตามมาด้วยการเกิดเพลิงไหม้จากแบตเตอรี่ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้คนขับและผู้โดยสาร แม้ตัวรถเองจะมีความปลอดภัยสูง เช่นอุบัติเหตุ Tesla ที่ชนต้นไม้จนไฟลุกไหม้ และมีมีผู้เสียชีวิตสองราย เมื่อวันเสาร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมานี้ ทำให้เทคโนโลยีความปลอดภัยของแบตเตอรี่เช่น SafeCore น่าจะเป็นอีกสิ่งที่สำคัญต่อวงการยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี SafeCore ของ Amionx นั้น เปิดขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2017 แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายนัก อาจเพราะถึงอย่างไรก็เป็นการเพิ่มต้นทุนของแบตเตอรี่และต้องมีการเปลี่ยนแปลงไลน์ผลิตอยู่ดี และผลดีในเชิงพาณิชย์ อาจยังไม่คุ้มค่ากับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คงต้องรอดูในอนาคต ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ต่อไป
ที่มา - Amionx SafeCore
Comments
สามารถเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้กับแบตมือถือได้หรือเปล่าเนี่ย ?
ได้ครับ แต่ก็อาจจะต้นทุนแพงขึ้น มือถือเองจริงๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (แบบ Note 7) ก็ไม่ค่อยเสี่ยงระเบิดเท่ารถยนต์ ผู้ผลิตเลยอาจจะมองว่าไม่ได้จำเป็นครับ
อาจไม่คุ้ม ปัจจุบันมันไม่มีแบตแบบดีทุกอย่าง ความจุสูง ทนทาน ปลอดภัย ราคาไม่แพงอยู่ในตัวเดียวกัน
เท่าที่ทราบแบตมือถือแค่ ความจุสูงอย่างเดียวครับ อาศัย Body มือถือกันน้ำ กันการเจาะทะลุก็พอ
แบบนี้ต้องบังคับเป็น Policy ออกมาครับ
เหมือนว่าถ้าจะออกข้อบังคับอะไรที่เพิ่มต้นทุนให้เอกชน น่าจะต้องเกิดเหตุบ่อยครั้ง หรือโศกอนาฎกรรมครั้งใหญ่เลยครับ ซึ่งอันนี้ยังเกิดน้อยอยู่ (แค่เกิดทีมันเป็นข่าวใหญ่เลย) แต่เดาว่าในอนาคต ถ้า EV เริ่มใช้กันแพร่หลาย แล้วเกิดอุบัติเหตุไฟลุกไหม้บ่อยกว่าที่ควร ก็อาจจะมีข้อบังคับเพิ่มมาว่าแบตเตอรี่ต้องมีชั้นป้องกันแบบนี้ อะไรราวๆ นี้ครับ
สิทธิบัตรแพงหรือเปล่า ทุนวิจัยของรัฐ ก็ออกกฏหมายบังคับไปเลย ไม่มีไม่ต้องขาย จบ
รัฐสนับสนุน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ หลักๆ คือตอนเป็นโครงการผลิตแบตรถอีวีที่ทนมากๆ กับอีกจุดประสงค์คือเอาไปใช้เป็นแบตเครื่องมือสื่อสารของทหาร แบบที่ถ้าโดนยิงแล้วจะไม่ระเบิดใส่ตัวทหารสื่อสาร
มัน reversible ได้ไหมนะ เช่นความร้อนขึ้น จะตัดการจ่ายไฟ พออุณหภูมิเย็นลง ก็กลับมาใช้ได้ต่อ
หรือตัดวงจรแล้วตัดเลย แบตพังไปเลย ต้องเปลี่ยนใหม่อย่างเดียว
มันมีน้อยเหตุการณ์มากเลยนะครับที่จะเกิดความร้อนจนติดไฟได้ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นน่าจะทำให้แบตเสื่อมสภาพมากจนไม่ควรนำมาใช้ใหม่รีไซเคิลไปเลยดีกว่า เพราะแค่ร้อนเฉยๆ เดี๋ยวนี้รถมีระบบล่อเย็นแบตเตอร์รี่กันหมดแล้วครับ
ตอนตัดไฟนี่น่าจะตัดในระดับที่ร้อนจนเกือบไฟลุกแล้วครับ คิดว่าไม่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ คือต้องร้อนถึงระดับที่ทำให้วัสดุที่เคลือบอยู่ ระเหยเป็นแก๊สแล้วทำให้ชั้นที่เป็นฉนวนบวม ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
เข้าใจว่าแบต LFP, LTO ที่มีความปลอดภัยสูงมากอยู่แล้ว มันเหมือนกันไหม
เคยเห็น Test เอาขวานเฉาะก็ไม่มีไฟลุกนะ แล้วจะมีการสูญเสียความจุเยอะเปล่า
ความจุมากขึ้นด้วยครับ เพราะลดระบบปลอดภัยอื่นๆ ที่ทำให้แบตหนักออกไปได้ด้วย ตัดวัสดุกันไฟออกไปได้เลย ทำให้เหลือพื้นที่ให้จุแบตได้มากขึ้น หรือถ้าจุแบตเท่าเดิม ก็จะแปลว่าแบตรถ EV จะเบาลง รถวิ่งได้ไกลขึ้นด้วย
Military grade
อยากให้มาแฮะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่ระเบิดรุนแรงกว่ารถน้ำมันอีก
แต่ก็อยากให้มาในมือถือด้วย พร้อมกับการถอดเปลี่ยนแบตเองได้เหมือนในอดีต
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว