Seagate เปิดเผยสเปกของฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ Mach.2 Exos 2X14 ที่ครองแชมป์ฮาร์ดดิสก์เร็วที่สุดในโลก มีอัตราการส่งข้อมูล 524 MBps ที่อาจเร็วกว่า SSD รุ่นราคาถูกหลายๆ ตัว
ฮาร์ดดิสก์ Mach.2 ตัวนี้มีความจุรวม 14TB แต่จริงๆ แล้วมันคือฮาร์ดดิสก์ 7TB สองตัวอยู่ในไดรฟ์ขนาด 3.5" มาตรฐาน มีความเร็วการหมุนจานที่ 7200 RPM
ในเอกสารของ Seagate อธิบายการเพิ่มสมรรถนะของฮาร์ดดิสก์ในอดีต ว่าสามารถเพิ่มได้ 3 แนวทางคือ
เมื่อทุกแนวทางมาถึงข้อจำกัดแล้ว ทำให้อัตรา IOPS/TB ของฮาร์ดดิสก์จะลดลงเรื่อยๆ ตามความจุที่เพิ่มขึ้น (เรียกว่าจุเยอะขึ้นก็เรียกใช้งานได้ยากขึ้น)
ทางออกของ Seagate คือเพิ่มชุดหมุนเข็ม (actuator) เป็น 2 ตัวในฮาร์ดดิสก์ลูกเดียวกัน ทำงานเป็นอิสระจากกัน (แยกอ่านจานครึ่งบน + จานครึ่งล่าง) ช่วยให้เรียกข้อมูลได้ 2 ชุดพร้อมกัน เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นได้ 2 เท่า เทคโนโลยีนี้มีชื่อการค้าว่า Mach.2
ข้อเสียของ Mach.2 คือใช้พลังงานเยอะขึ้นกว่าไดรฟ์ single actuator แบบดั้งเดิม (ตามตาราง) แต่ Seagate ก็ระบุว่าพยายามกดให้อยู่ในกรอบ 12 วัตต์ และในการใช้งานจริง ต้องเทียบกับการใช้ฮาร์ดดิสก์ 2 ไดรฟ์ ซึ่ง Mach.2 ที่ยัดทุกอย่างลงไดร์ฟเดียวได้ ย่อมประหยัดพลังงานกว่า อีกทั้งไดรฟ์ซีรีส์ Exos เน้นการใช้ในศูนย์ข้อมูลอยู่แล้ว
ไดรฟ์ Mach.2 ยังไม่เปิดขายให้ลูกค้าคอนซูเมอร์ทั่วไป ตอนนี้ความจุยังจำกัดที่ 14TB แต่ Seagate ก็ตั้งเป้าจะดันให้ไปถึง 30TB ในช่วงประมาณปี 2023
ที่มา - Seagate, ExtremeTech, Tom's Hardware
Comments
มันคือ raid0 ในลูกเดียวกันสินะ
ก็ประมาณนั้นแหละครับ
จะว่าไป WD Duo ตัว External ใช้ Drive Red Pro 14+14TB RAID 0 วิ่ง sequential ปกติก็ 350-390 MBps แล้ว
แบบจานหมุน ยังทำให้เร็วขึ้นได้อีก
เคยแอบคิดเองมานานแล้วว่า ถ้าช้าเพราะหัวอ่าน ทำไมไม่เพิ่มหัวอ่าน
หรือไม่ก็ให้บนแท่งหัวอ่าน มีตัวอ่านหลายๆตัวบนแท่งเดียว เพื่อวิ่งหาข้อมูล
อันแรกนี่มันเหมือนกับว่าเนื้อหามันอยู่ในหนังสือเล่มเดียว(จานหมุนชุดเดียว) เอาคนหลายคนมาช่วยกันอ่าน(หลายหัวอ่าน) มันก็ไม่ได้อ่านเร็วขึ้นหรอกครับ ส่วนกรณี raid0 มันก็ประมาณอ่านนิยายที่บรรทัดแรกอยู่เล่ม 1 บรรทัดสองอยู่เล่ม 2 แล้วบรรทัดสามอยู่เล่ม 1 บรรทัดสี่อยู่เล่ม 2 สลับกันไปเรื่อยๆ แล้วเอาคนมีพลังจิตสองคนมาช่วยกันอ่านคนละเล่ม และขณะอ่านก็จูนสมองเข้าหากันจนอ่านเข้าใจได้เร็วขึ้น
ใส่หัวอ่านเข้าไปสัก 20 หัวต่อ 1 แขน จะได้ขยับน้อย ๆ
ไม่ต้องมีแขนครับ ใส่หัวอ่านยาวเท่าหน้ากว้างจานไปเลย
เยี่ยม ไวแน่นอน
ผมนี่รอดูราคาเลยครับ
จะใส่เพิ่มกี่หัว สุดท้ายมันจะไปชนเพดาน SATA3 6G อยู่ดีป่าว ถ้าไม่มากับSAS
สุดท้ายก็จะอยู่แต่dc เพราะเครื่องตามบ้านนอกจาก sata เค้าไป nvme
R/W เร็วขึ้น
แต่ Access time กับ IOPS ก็แพ้ SSD หลุดลุ่ยอยู่ดี
เหมือนกล้องมือถือเลย
อยากรู้ราคาเปรียบกับ ssd
โอ ระดับ raid0
ขนาดคงใหญ่น่าดู
มาทันเวลาพอดี Chia
จริง รุ่น hybrid ที่เคยออกมาก็ไม่ต่างจาก hdd มาก
แต่อันนี้ก็โอเคเลย ได้ความจุเยอะ เพราะไงเวลาต่อ storage เพิ่ม ไม่ว่าจะ ssd หรือ hdd ก็ใช้ sata 3 อยู่และ
ตัวแรกที่ออกมาใช้ SAS นะครับไม่ได้ใช้ SATA ?
เหมือนแก้ปัญหาด้วยการเพิ่ม core แฮะ อีกหน่อยเราอาจจะเห็น hdd stack สูงขึ้นไปเรื่อยๆตามจำนวนหัวอ่าน ?
คิดไปคิดมา แล้ว hdd นี่จะหนา(หรือ สูง)ขึ้นด้วยไหมครับเนี่ย หรือว่าบีบอัดจนได้ความหนาเท่าเดิม
ตอนนี้อยากได้ SSD แบบมี Redundance มาพร้อมในตัวเดียวมากกว่า
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ขอ 4 หัว 16 จาน
พัฒนาต่อไปเพิ่มเป็น 4 เข็ม
เพิ่งรู้เข็ม HDD เลื่อนพร้อมกันหมดทั้งแผงแบบนั้น
ที่คนไปใช้ SSD เหตุเพราะความเทพของ Random access นี่แหละ แล้ว HDD ตัวใหม่ที่จะทำตรงนี้ได้ดีแค่ไหน ถ้าไม่เกิน 10-20 MB/s ก็ไม่ค่อยน่าสนเท่าไหร่ เว้นแต่จะเอาไว้เป็นโกดังไฟล์