The Verge รายงานโดยอ้างข้อมูลจากโฆษกของ YouTube ว่าแอป YouTube บน iOS จะรองรับคุณสมบัติ Picture-in-Picture ทำให้สามารถดูวิดีโอระหว่างใช้งานแอปอื่นได้ โดยในช่วงแรกจะใช้งานได้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่สมัคร Premium ก่อน แต่จะทยอยเปิดให้กับผู้ใช้งาน iOS ทุกคนรวมทั้งผู้ใช้งานฟรีในอนาคต
แอปเปิลรองรับคุณสมบัติ Picture-in-Picture ตั้งแต่ iOS 9 เฉพาะบน iPad ต่อมาได้ขยายสู่ iPhone ใน iOS 14 แต่ YouTube เองก็ยังไม่รองรับคุณสมบัตินี้ มีเพียงวิธีใช้งานผ่าน Safari ที่ทำได้
รายงานระบุว่าคุณสมบัติ Picture-in-Picture นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานสำหรับลูกค้า Premium แต่ยังไม่ทุกคน
ที่มา: The Verge
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
“ แต่จะทยอยเปิดให้กับผู้ใช้งาน iOS ทุกคนรวมทั้งผู้ใช้งานฟรีในอนาคต ”
นี่คือครั้งแรกที่รอมาเนินนาน
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เมื่อวานยังใช้ฟีเจอร์นี้ได้อยู่เลย
วันนี้อยู่ๆ ก็ใช้ไม่ได้ซะงั้น
ดู YouTube ไปขับรถไป สบายใจเฉิบ ?
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
แล้วจะมีโฆษณา ด้วยปะ
ไม่มีอยากให้โฆษณา ก็จ่ายตังเอาครับ
ให้พรีเมี่ยมแบบผมได้มีที่ยืนบ้างครับ 555
มันอยู่ในแพคเกจจ่ายเงินพรีเมี่ยม ซึ่งไม่มีโฆษณาอยู่แล้วนะครับ
น่าจะหมายถึงโฆษณาครับ
มันดูไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ยาก (และโคตรจำเป็น) สำหรับสายวิดีโอไปทำงานไปแบบข้าพเจ้ามากๆ
มาช้ายังดีกว่าไม่มาแหละนะ
Apple ทำให้มันยาก
ยาก ถ้าแอปไม่ใช้ API เล่นวีดิโอของแอปเปิล
ขอบคุณความรู้จากทั้งสองท่านครับ เห็นในซาฟารีของแมคไม่มีปัญหาเลยคิดว่าไม่น่ายา
ดูบนเว็บบราวเซอร์ กับ ดูบน Mobile App มันคนละอย่างนะครับ :))
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
สอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หน่อยได้ไหม ทำไม YouTube ถึงทำให้รองรับช้าจังครับ คาดว่าติดที่กระบวนการหรือขั้นตอนอะไรไหมครับ ทำไมถึงออกมาช้า
อันดับแรก ยุคนี้แอปพลิเคชันบนระบบปิดล้วนทำงานในสภาพแวดล้อมแบบกล่องทราย (sandbox) ทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่ง Android ที่ต้องขอสิทธิ์กับ mass storage ก่อนเพื่อใช้งานดิสก์ส่วนกลาง ยิ่งของ Microsoft นี่ยิ่งย้ายไปรันบน VM เลย ฉะนั้นการทำอะไรที่ละเมิด policy ของ OS ย่อมเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และแต่ละฟีเจอร์ที่มีแนวโน้มจะรบกวนประสบการณ์การใช้งาน ต้องใช้ API ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อควบคุมไม่ให้แอปละเมิดสิทธิ์นั้น หากเป็นแอปพลิเคชันที่ user จงใจติดตั้งเองอาจจะขออนุญาตได้ไม่ยาก แต่แอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ส่งขึ้นร้านค้าจะต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติแอปฯ ขึ้นร้านค้าทุกครั้ง Apple ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีการขอสิทธิ์พิเศษขึ้นก็ต้องรออนุมัติแอปพลิเคชันเพื่อใช้ API ที่กำหนดให้เสียก่อน
ดีเสียอีก เพราะได้เพิ่มคนดูโฆษณา
windows กับ macOS ทำได้ตั้งนานแล้ว
เอาแพลตฟอร์ม web ที่มี standard API มาเทียบกับมือถือที่ต้องรับรองการใช้งาน API ก่อน?
มันเป็นเหตุผลที่ผมใม่ใช้แทปเล็ทกับมือถืออยู่ทุกวันนี้แหล่ะ ข้อจำกัดของมือถือมันเยอะเกิน
ซักที! Premium มานานแล้วไม่เคยได้ใช้ PIP