จากข่าว Nintendo Switch OLED Model นอกจากประเด็นขยายหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 7 นิ้ว, เปลี่ยนมาใช้จอ OLED, ขยายสตอเรจเป็น 64GB แล้ว คำถามที่ทุกคนสงสัยคืออัพเกรดสเปกอื่นหรือไม่
ตอนนี้มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ทั้งหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำของ Nintendo Switch OLED Model ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง สมรรถนะเครื่องไม่ได้แรงขึ้นแต่อย่างใด
ข้อมูลอีกอย่างที่เพิ่มมาคือ ตัว Dock สำหรับต่อออกจอทีวี สามารถใช้ร่วมกันได้ระหว่าง Switch รุ่นเก่าและรุ่น OLED ทั้งกรณีนำ Switch OLED ไปต่อกับ Dock รุ่นเก่า และกรณีนำ Switch รุ่นเก่าไปต่อกับ Dock รุ่นใหม่ (สามารถซื้อแยกเฉพาะ Dock รุ่นใหม่โดยไม่ต้องซื้อเครื่องก็ได้ แต่ยังไม่ระบุราคาว่าเท่าไร รุ่นเดิมขาย 60 ดอลลาร์)
Comments
why
อาจจะเพราะไม่อยากให้คนมีเครื่องไม่รู้สึกอกหักละมั้งครับ..
ทำไมรู้สึกว่ารุ่นนี้คือรุ่นที่ทำเสร็จจริงๆ ทั้งตัวขาตั้งที่ดูใช้งานได้จริงกับ Dock ที่มีช่องแลนด้วย
จริงครับ นี่เหมือนเป็น gen แรกตัวสมบูรณ์
ขอให้ Lan เป็น 1Gbps นะ เจอ TV Q Series ประมาณปี 18/19 ต่อสาย Lan แล้วดูวิดีโอที่ถ่ายมาแล้วกระตุก
เช็คไปเช็คมาเป็น Lan 10/100!!! แล้ววิดีโอถ่าย Bitrate 100Mbps พอดี
ผมว่าไม่น่าได้นะ เกรงว่าจะเป็น lan dock บน USB-C เหมือนเดิมแค่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
อาจจะวิ่งช้ากว่า Wifi ด้วยซ้ำ แค่สัญญาณนิ่งขึ้น
ปี 21 ก็ 100 mbps ไม่พัฒนา
เรียกว่าเป็นรุ่น refined ก็แล้วกัน แต่ไม่ยอมปรับปรุงคุณภาพความทนทานจอย อันนี้ไม่ถูกใจ
แต่ USB port ภายในหายไปนะครับ คิดง่ายๆเสมือนรุ่นนี้ฝัง LAN Adapter มาด้วยโดยใช้ USB port ไปช่องหนึ่ง
รู้สึกเช่นเดียวกันว่าทำไม…. แยกสอยออกมาแบบอีหยังว่ะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ใช้กับ Dock ข้ามกันระหว่างรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าได้ ...
งี้คำถามต้องเป็นมันจะมีรุ่น OLED แบบไม่เอา Dock (เพื่อจะได้ถูกลงอีกหน่อย) ไหม
ใครจะไปอยากได้ Dock ที่เพิ่มเติมแค่มีช่อง LAN
ผมว่าไม่นะครับ ขนาดตัวกล่องแดง ทุกอย่างเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ SoC ยัง ไม่มีขายแยกเลยครับ
ผมว่าตัวนี้ก็น่าจะเหมือนกัน จับตลาดคนยังไม่เคยมี Switch มากกว่า
ส่วนคนที่จะซื้อทั้งเซทเพื่ออัพเกรดจอเป็น Oled ก็อาจจะมี แต่ก็น่าจะมีหลายคนที่ขายเครื่องเก่าไปทั้งชุด มันก็ต้องใช้ Dock ใหม่อยู่ดี
หรือจะไม่ขายของเก่าเก็บไว้สะสม? ถ้าสะสม ยิ่งต้องเก็บ Dock ด้วย จะได้ครบ ๆ 555
จำได้ว่าเคยเห็นข่าวว่าที่ญี่ปุ่นมีขายเฉพาะเครื่องอยู่นะครับ (แต่ก็ไม่เคยเห็นในไทยอะนะ)
https://store-jp.nintendo.com/customize/switch-2nd/
เออ มีจริงด้วยแหะ ผมว่าถ้างั้นตัวนี้ก็น่าจะมีนะ
ใส่ด้วยกันได้จริงเหรอ ไม่ใช่ว่ารุ่นใหม่มันยาวขึ้นเหรอ
ยาวแค่ไหนก็ไม่เกี่ยวครับ เพราะเสียบลงร่องเดิม ความหนาเท่าๆเดิม
เกี่ยวครับ เพราะเค้าบอกเครื่องรุ่นเก่าใส่ dock รุ่นใหม่ได้ ถ้าเครื่องรุ่นใหม่ยาวขึ้นแปลว่าถ้าใส่เครื่องรุ่นเก่ามันจะใส่พร้อม controller ไม่ได้ เพราะ dock จะล้ำเกินเครื่อง
การที่จะเอาเครื่องรุ่นเก่าใส่ dock รุ่นใหม่ พร้อม controller ไม่ได้ มันแปลว่าใช้ด้วยกันไม่ได้เหรอครับ?
จะทำให้มันใช้ด้วยกันได้ก็แค่ถอดจอยออกรึป่าวครับ ไหนๆ ก็จะต่อ dock เล่น ยังไงก็ต้องถอดจอยออกมาก่อนอยู่แล้ว หรือผมเข้าใจอะไรผิด
ถึงจะบอกว่าจอใหญ่ขึ้น แต่ขนาดเครื่องรุ่นใหม่ (OLED) มันเท่ากับขนาดเครื่องรุ่นเก่า มันเลยใส่ได้ครับ
ที่ไม่เปลี่ยนคงเพื่อให้เครื่องโมเดลเก่ากับใหม่มีประสบการณ์ในการเล่นเกมเหมือนกัน
แบบนี้เดี๋ยวอีกปีสองปีคงประกาศเครื่องเจนใหม่แล้ว
ผมคิดว่ายังไม่เปลี่ยนเพราะ ps5 เพิ่งเปิดตัว ทำให้บ.เกมต่างๆ น่าจะใช้ทรัพยากรไปกับการทำเกมลง ps5 ซะเยอะ แถม microsoft ก็ดึงพันธมิตรเกมไปลง windows + xbox เยอะมากด้วยครับ
จะเปิดตัวรุ่นใหม่จริงๆ ก็ต้องมีเกมใหม่ด้วย และการจะมีเกมใหม่ๆ มาลงได้ บ.เกมก็ต้องมีทรัพยากรพร้อม ซึ่งน่าจะไม่ใช่ปีนี้ ทั้งโควิดด้วย แถมยังมีภาวะขาดแคลนชิปอีก
ns ตัวล่าสุดนี้คงเป็นตัวขัดตาทัพเฉยๆ กันหุ้นตกมากไปกว่านี้ เพราะตอน e3 ปู่นินไม่มีอะไรว้าวๆ ไม่เปิด ns ตัวใหม่ จนหุ้นตกไปพอควรเลย
ก็ บ. Nintendo ไงครับ ที่จะทำเกมมาพร้อมเครื่องเจนใหม่ ไม่น่าจะยุ่งทำเกมลง PS5 ด้วยครับ
ผมว่าเค้าคงต้องการเกมจาก 3rd party ด้วยมั้ง
ผมว่า ถ้าแค่เปิดตัว เกมที่ออกมาพร้อมกันมีแค่ 1st party ก็น่าจะโอเคนะครับ ส่วน 3rd party ออกมาแต่ชื่อก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ตอน PS5 เกมนี่ ก็เห็นมีหลายสิบ แต่เกมที่ Day1ออกพร้อมเครื่องนี่ เหมือนจะมี 2-3 เกมเอง
ส่วนเรื่องการใช้ทรัพยากรในการสร้างเกม ผมว่าต่อให้มี หรือไม่มี PS5 เค้าก็ต้องทำเกมอยู่ดี แค่ลงเครื่องอะไรเท่านั้นแหละ
ถ้ามันไม่ได้เปลี่ยนวิธีการเขียนเกมแบบแทบจะกลับหัวแบบ PS3 อะนะ 55
หรือไม่ผมก็วิเคราะห์ผิดอ่ะนะ แค่ยังไม่ทำ หรือยังทำไม่เสร็จเฉยๆ ไม่มีไรมากกว่านั้น
นั่นน่ะสิ Switch Pro นี่ หักปากกาเซียนแล้วหักอีก หักจนตอนนี้ไม่มีใครกล้าฟันธงละ นินนี่นึกอยากจะออกตอนไหนก็ออก แต่ถ้าไม่อยากออกก็รอไปยาว ๆ
ปกตินิน ไม่ค่อยเพิ่ง 3rdParty เท่าไรหรอกครับ เพราะสุดท้ายเกมที่ขายดีที่สุดเอาแค่ 20อันดับแรกก็เป็นเกมนินแทบจะ 90% (มีมอนฮันผงาดมาแจมที่อันดับ15)
The Dream hacker..
ปู่เคยบอกว่า ถ้าเปิดตัวเครื่องใหม่ใน E3 ก็จะไม่มีใครแคร์ว่ามีเกมอะไรออกบ้าง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อยากขายเกมมากกว่าเครื่อง ก็เลยออกหลังงาน
ส่วนเรื่องหุ้นตกเข้าใจว่าเพราะมีคนพยายามปั่นกระแส Switch Pro พอไม่มีมันก็ตกครับ (เผลอ ๆ มันอาจจะขึ้นก่อนในช่วงนั้นไม่นาน)
ส่วนเรื่องเกมไม่ว้าวนี่ ... อืม มันยังไม่ถึงรอบที่เกมใหญ่จะออกเท่านั้นเอง คิดว่าอันนี้หลายคนน่าจะเดากันได้ (Splatoon 3 ประกาศไปนานแล้วว่าปีหน้า, Botw2 เพิ่งยืนยันวันออก ก็ปีหน้าเหมือนกัน, Smash Brother ยังไม่ออกเกมใหม่ แต่เพิ่งยืนยันว่า charactor หน้าจะเป็นตัวสุดท้าย ส่วนมาริโอ้รอบนี้ก็ไม่ออกเกมใหญ่อีก) รอบนี้มีแค่ Metroid Dread ที่เป็นตัวเอก ซึ่งก็ไม่ใช่ Prime ที่เป็น 3มิติอีก กับมาริโอ้แรบบิด
ส่วนตัวผมเฉย ๆ นะ เพราะรอบนี้ นอกจากของ MS/Bethesda แล้วแทบไม่มีเกมไหนน่าสนใจเลย
ส่วน NS รุ่นใหม่ ... ปรกติ console lifecycle อยู่ที่ 10 ปี และรุ่นใหม่จะออกประมาณปีที่ 6 ปีนี้เพิ่งจะปีที่ 4 ซึ่งจริง ๆ ก็เมคเซนส์ที่จะมี mid-gen แต่ถ้าดูความจำเป็นจริง ๆ ผมว่ามันยังไม่มี (PS4 Pro เกิดมาเพื่อ PSVR, ส่วน One X เองอันนี้ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำมาทำไม 4k?)
แล้วเอาจริง ๆ ทำ mid-gen upgrade ก็ไม่ใช่เรื่องดีกับทุกฝ่าย นักพัฒนาเองก็ใช่ว่าจะทำเกมได้เต็มที่เพราะก็ต้องรองรับรุ่นเก่า ส่วนทีมฮาร์ดแวร์เองแทนที่จะไปโฟกัสกับเครื่องใหม่ก็ต้องมาดูเครื่องเก่าด้วย อะไรแบบนี้ครับ
บางคนจะบอกว่าเอ้ามันไม่รองรับ 4K นี่ ซึ่งก็น่าผิดหวัง ผมเดาว่าไอ้ตัวชิพ DP Mux ที่ใช้น่าจะมีแบนด์วิธไม่พอครับ หรือไม่ก็ไม่รองรับ HDMI 2.0 แต่มองในแง่ดี 4K มันก็คือ 2Kx2 (1x1 พิกเซล ขยายเป็น 2x2 พิกเซล) ซึ่งถ้าทีวีมันไม่ทำตัวฉลาดเกินไปมันก็น่าจะแสดงผลได้ไม่ต่างกับทีวี 2K/fullHD ปรกติครับ
อย่างน้อยก็เพิ่ม Bluetooth Audio Support กับแก้ Joy Com drift หน่อยเถอะคุณพี่
+1
my blog
Bluetooth Audio เนี่ย ผมลองไปศึกษามาดี ๆ มันจะมีปัญหาเรื่อง Codec ว่าจะต้องใช้ของเจ้าไหน เช่น aptx ll AAC
และต้องคำนึงถึงปัญหาเรื่องเสียงดีเลย์ด้วย (ลองคิดว่าเล่นเกมแนวเพลงแล้วดีเลย์ ก็จะเล่นไม่ได้แล้ว)
นอกจากนี้หูฟังของคุณต้องรองรับ Codec ของเจ้านั้นตามด้วย ไม่งั้นก็ดีเลย์อยู่ดี
เช่นถ้าเลือก Codec aptx ll แล้วใช้ apple air pod เสียงก็จะดีเลย์
นั่นแปลว่าต้องเลือก Codec โดยเตรียมใจจะไม่รองรับหูฟังจำนวนหนึ่งไปเลย
นอกจากนี้ ถ้าทำให้รองรับแล้ว คนซื้อไปแล้วเอาหูฟังตัวเองมาใช้แล้วดีเลย์ก็จะ โวยวาย ด่า ขอเคลม etc. เพราะไม่รู้เรื่องนี้
ดังนั้นตอนนี้เลยปล่อยให้ผู้ใช้ไปหาอุปกรณ์ต่อ bluetooth audio ของตัวเอง พร้อมหาหูฟังของตัวเองเอา ทาง Nintendo ก็ไม่ต้องรับผิดชอบกรณีเสียงดีเลย์หรืออะไรพวกนี้ด้วย
เพิ่มเติมอีกหน่อย ตอนนี้ก็มีหูฟังบลูทูธเกมมิ่งต่างๆที่ลดดีเลย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึง codec ครับ (เพราะมือถือยี่ห้อนึงยังไงก็ไม่ยอมรองรับ ผู้ผลิตหูฟังก็ต้องหาเทคนิคอื่นกันไป) ซึ่งใช้เทคนิคอะไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน (แต่ละยี่ห้ออาจจะคนละเทคนิคกันด้วย) แต่เท่าที่ผมรู้ก็คือมันก็ขึ้นอยู่กับภาครับหรือตัวหูฟังอยู่ดี
นั่นหมายความว่า Nintendo ต้องคอยซัพพอร์ตด้วยว่าหูฟังตัวไหนได้ไม่ได้ถ้าทำออกมาจริงๆ และน่าจะเป็นเหตุผลที่ Nintendo เลือกไม่ทำครับ
แล้วทำไมเค้าไม่ใช้อะไรที่มันเหมือนๆคนอื่นล่ะ ผมมีลำโพง กับหูฟัง bluetooth ก็ต่อมือถือ /TV ได้หมด ไม่เห็นต้องคิดเรื่อง codec
อย่าง playstation ก็ส่งสัญญาณเสียงไร้สายมาที่จอยได้(น่าจะ bluetooth) มั้ง
คือกำลังคิดถ้าเค้าจะทำก็ทำได้น่าจะติดอะไรอย่างอื่นมากกว่าเรื่องเทคนิค เช่น ราคาจะเพิ่ม หรือไม่ก็ “ก็ไม่ใส่อ่ะ จะทำไม”
ผมก็ไม่ทราบวิสัยทัศน์ของ Nintendo เหมือนกันครับ อาจจะแค่กั๊กเฉยๆหรืออาจจะคิดว่าถ้ามันยังไม่ดีก็ไม่ใส่มาก็ได้ ผมแค่อยากจะบอกว่าเรื่องของดีเลย์มันไม่ใช่มีแค่ codec เฉยๆครับ
เรื่องอุปกรณ์อื่นๆ... สื่ออื่นๆที่ไม่ใช่เกม ดีเลย์ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสมากนัก หรือก็คือ Bluetooth มันน่าจะดีพอแล้วสำหรับทีวี เขาก็เลยใส่มากันครับ (แน่นอน มันสามารถต่ออุปกรณ์สื่ออื่นๆได้ แต่ซัพพอร์ทของทีวีก็สามารถตอบเลี่ยงไปยังอุปกรณ์นั้นแทนได้)
ส่วน PS เอง เท่าที่ผมเข้าใจมันก็ต่อหูฟังบลูทูธทั่วไปโดยตรงไม่ได้เหมือนกันครับ แต่เขาก็มีอุปกรณ์เสริมเฉพาะหรือกำหนดเสปคที่แน่นอนว่าแบบไหนถึงจะใช้ได้ อย่างจอยหรือหูฟังไร้สายของ Sony เองนั่นแหละครับ ซึ่งต่างจาก Switch ที่ตอนนี้ไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย
ตัว PS5 มีหูฟัง Bluetooth ครับ แต่ต้องเป็นของ Sony เอง ใครอยากใช้หูฟัง Bluetooth ก็ต้องซื้อของ Sony รุ่น ที่รองรับมาใช้
ในส่วนของ 3rd Party นั้น Sony ไม่ support ครับ ถ้าจะเอาหูฟัง 3rd Party มาใช้ ก็ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่ม (ซึ่งถ้าจะต่อหูฟัง bluetooth กับ NS ก็ใช้วิธีนี้)
ที่ Sony ทำงี้ได้เพราะตัวเองสามารถกำหนด spec ของเครื่อง PS5 และหูฟังของตัวเองได้ (เพราะ Sony มีขายหูฟังด้วย)
ต่างจาก Nintendo ที่ไม่มีหูฟังของตัวเอง เลยไม่สามารถกำหนด spec อะไรได้เลย
ถ้าถามว่าแล้วทำไมไม่ใช้อะไรที่เหมือนคนอื่น คำตอบคือ คนอื่น(หูฟัง/ทีวี/มือถือ) ก็ใช้ codec ไม่เหมือนกันครับ ทำให้ไม่สามารถการันตี latency ได้ กรณีนี้ถ้าเป็นดูหนัง ฟังเพลง ดีเลย์ไป 0.5 วิ อาจไม่รู้สึกอะไร
แต่ถ้าเป็นการเล่นเกมที่โฟกัสที่เสียง อย่างแนวดนตรี ดีเลย์เกิน 0.3 วินี้คือเรื่องใหญ่แล้ว เพราะมันจะกดให้ตรงจังหวะไม่ได้
อ้างอิง : https://stealthoptional.com/how-to/how-to-connect-bluetooth-headphones-to-ps5-pair-your-apple-airpods-samsung-galaxy-buds-or-any-wireless-headset-to-the-playstation-5/
ขอบคุณครับ ลืมนึกไปเลยอุปกรณ์ที่รับ bluetooth ก็คือ controller sony เอง เป็นไปได้ที่ customized แบบ lock spec มาเรียบร้อยแล้ว
เข้าใจว่า ลาเทนซี (ดีเลย์ที่เกิดจากกระบวนการทำงานของอุปกรณ์ ไม่ใช่การตั้งใจให้ดีเลย์) มันเกิดจากหลาย ๆ ส่วนประกอบกัน
ซึ่ง ผมว่า ตัวที่สองเนี่ยไม่มีปัจจัยเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อื่น ๆ นอกจากตัวหูฟังเอง ดังนั้นผมว่าผู้ผลิตหูฟังเค้าก็คงแค่อัด DSP ให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะลดขนาดบัฟเฟอร์ที่ DSP จะใช้ถอดรหัสครับ
แต่นั่นก็ยังมี Latency ที่เกิดจากส่วนอื่นอยู่อยู่ดีครับ
Bluetooth Audio จริงๆ ปู่นินแอบใส่เข้ามาแล้วใน Firmware Version 12.0.0 ครับ
https://twitter.com/OatmealDome/status/1379934036622249989
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะใช้ได้ก็ได้ โดยอาจจะยังไม่เสร็จ, รอออกพร้อม Switch OLED หรือรอออกพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่ก็เป็นได้ (เดาล้วนๆ)
ใครซื้อเจอหักหลังออก Major change ในปีสองปีนี้แน่นวล
ผมโดนมากับ gen ของ NDS/3DS หลายรอบละ
อย่างว่านะครับซื้อก่อนได้เล่นก่อน
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ส่วนใครที่รอรุ่นโปรมาตลอดก็หลังหักไปแล้วเรียบร้อย
ไม่แปลกใจนะ มาทรงนี้ปู่คงอยากออกเครื่องใหม่คร่อม gen กับเครื่องชาวบ้านเขานั่นแหละ
อีก 2-3 ปีออกเครื่องใหม่มาก็คงสเปคพอๆ กันหรือน้อยกว่าพวก PS5/XBOX นิดนึง แล้วมีเกม 1st party exclusive พอเป็นพิธี
คนอื่นขายเครื่องขาดทุน ปู่รอขายเครื่องได้กำไรแล้วก็ไปกินหัวคิว 3rd party ต่อ ขายจอย ขายอุปกรณ์เสริมหากินตามสูตรเดิมๆ
Dock จับแปะโลโก้ Apple ละกัน
ผมว่านินอาจจะไม่ออกเครื่องโปรแล้วก็ได้ครับ อายุเครื่องเกมของนินราวๆ 6-7ปี อีก2ปีน่าจะออกเรื่องใหม่แล้ว กำลังรอเทคโนโลยีใหม่อยู่ครับ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนเป็น x86 แบบชาวบ้านมั้ย หรือจะไปต่อทาง arm ที่กำลังเป็นกระแสเลยๆ ตอนนี้
อยากให้นินกับเขียวจับมือกันทำเครื่องเกมมากๆ เอาไปสู้กับค่ายแดงกับนี่กับซอฟต์
The Dream hacker..
ปู่อาจจะกลับไปหา RISC ด้วย RISC-V :D
ปู่นินผู้ไม่เคยหักหลังเรา ,, คนซื้อเครื่องรุ่นแรก แถมเสียบด๊อกเล่นตลอด แบบผม ผ่านอัพเดทเครื่องมา 2 รุ่น ยังไม่รู้สึกว่า ตกรุ่นซักนิดเลย 555
ผมเห็นแล้วหิวเลย
บิ ชิมครีม จุ่มนม วน ๆ ไป
เบื่อเครื่องขาวอย่างเดียว เวลาอายุมากแล้วติดเหลือง ความสวยลดลงไปเยอะ ยิ่งคนซื้อสะสม เซ็งเป็ดเวลาจะซื้อเครื่องเกมส์สีขาวมือสองเหลืองอ๋อยมาเลย
ทำใจครับ สีขาวคือสีเหลืองในอนาคตครับ เอาไว้บอกอายุเครื่อง 55555
เห็นแล้วนึกถึงตัวนี้ครับ