ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Bob Diachenko เปิดเผยการค้นพบคลัสเตอร์ของ Elasticsearch ที่สามารถเข้าถึงได้จากอินเตอร์เน็ต โดยภายในมีข้อมูลของหนังสือเดินทางของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 106 ล้านรายการ
อ้างอิงจากการตรวจสอบโดยผู้ค้นพบ ข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อมูลที่พบได้ในหนังสือเดินทาง การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าข้อมูลโดยส่วนใหญ่นั้นเป็นข้อมูลของชาวไทยและอาจมีขอบเขตของข้อมูลครอบคลุมการเดินทางเข้าประเทศย้อนหลังถึง 10 ปี
การค้นพบดังกล่าวถูกเผยแพร่ในบัญชีทวิตเตอร์ของผู้ค้นพบในวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมาพร้อมกับระบุถึงการประสานงานกับ ThaiCERT และการแจ้งไปยังกองปราบปรามทันที เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยนี้ถูกรายงานผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของผู้ค้นพบอีกครั้งว่าได้รับการดำเนินการแล้วหลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง
ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่มาของระบบเก็บข้อมูลดังกล่าว และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลชุดนี้จะถูกเข้าถึงไปก่อนแล้วโดยผู้ไม่ประสงค์ดี
ที่มา: @MayhemDayOne (1, 2, 3)
Comments
ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวมั้ยแต่วันนี้โดนสแปมรัวๆทั้งสายเข้าทั้ง SMS เลย
ถ้าตามรูป ข้อมูลใน passport ปกติไม่มีเบอร์โทรนะครับ
มันต้องมีขาวยุโรปหลุดไปบ้างสิ
เยี่ยมครับ True ก็หลุด 3BB ก็หลุด หนังสือเดินทางยังหลุด
ตอนนี้ข้อมูลผมน่าจะเป็นข้อมูลสาธารณะหมดแล้ว
ผมหล่ะอยากรู้จริง ๆ อียูเค้าจะยังไงกับเรา ทำข้อมูลประชากรเค้าหลุดออกไปแบบนั้น
Open Data กันเลย
อันที่อยากจะให้ open ดันไม่ open
อันนี้ไม่อยาก open ดัน open
5555
Elasticsearch อีกแล้ว ดูหลายที่จะชอบใช้แต่ไม่ชอบ hardening security กันนะ
อันนี้ standard feature ซึ่งหากติดตั้งตามคำแนะนำของ elastic เป็นสิ่งที่เค้าแนะนำให้ทำ
นึกถึงมีม ทำไมเวลามีอะไรเกิดขึ้นต้องเป็นพวกเธอตลอด
อยากให้มีกฏหมาย ออกมาบังคับใช้ เรื่องรหัสผ่าน database หรือ รหัสผ่านระดับสิทธิผู้ดูแล หรือ ในส่วนที่เข้าถึงข้อมูลได้ หรือ ข้อมูลที่เกิดการ export ออกมา ว่าขั้นต่ำควรเป็นอย่างไร
พอตั้งรหัสผ่าน random ยาวๆ ผมก็มันจะโดนบ่น เอาง่ายๆ ไม่ได้เหรอ, จะใส่มาทำไมให้ยุ่งยาก, ทีมเดียวกันใส่ทำไม, บลา ๆ ๆ ๆ
555+ แต่ผมไม่เคยสนใจ จะใส่ทำไม
PDPA ไงครับ แต่ยังไม่ได้บังคับใช้
เพราะหน่วยงานรัฐไม่พร้อมแล้วคอยเลื่อนเรื่อยๆ สินะ
เอาจริงๆ PDPA ก็มีข้อยกเว้นให้กับหน่วยงานราชการอยู่เหมือนกัน
เห้ย เป็นไปได้ไง หลุดได้ไง ไม่ได้ยังเก็บอยู่ในกระดาษหรอ
โทษทีนะ กำลังไล่จับคนเห็นต่าง บล็อก url กับบล็อก popyut อยู่
เดี๋ยวว่างเมื่อไรจะค่อยมาทำนะ
กรณีนี้อาจจะโดน GDPR ได้