หลังทีมพัฒนาออกมาระบุความแตกต่างระหว่าง Horizon: Forbidden West ว่าเวอร์ชั่น PS5 จะมีภาพเรนเดอร์ใต้น้ำ เอฟเฟกต์คลื่น รายละเอียดสิ่งแวดล้อม และแสงเงาที่เหนือกว่า PS4 และอาจทำผู้เล่นที่ยังมีแค่ PS4 สนใจว่าถ้าซื้อเวอร์ชั่น PS4 แบบธรรมดาก่อน แล้วอัพเกรดเป็น PS5 ทีหลัง ตอนหาซื้อเครื่องได้แล้ว จะสามารถทำได้หรือไม่
ล่าสุดคำตอบจากหน้า FAQ ของเกมก็คือ ไม่ได้ หากผู้เล่นซื้อแค่เวอร์ชั่นธรรมดา หรือ Special Editions เพราะการอัพเกรดฟรีจะแถมให้เฉพาะ Digital Deluxe, Collector’s Editions หรือ Regalla Editions เท่านั้น และไม่มีตัวเลือกให้อัพเกรดเวอร์ชั่นได้ภายหลัง
ก่อนหน้านี้ Sony เคยระบุในบล็อกว่าเกมที่เปิดตัวพร้อมกับ PS5 เช่น Horizon: Forbidden West จะแถมอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น PS5 ให้ฟรี โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นเวอร์ชั่นไหน แต่การที่จำกัดการอัพเกรดฟรีไว้เฉพาะเวอร์ชั่นพิเศษที่แพงกว่า ดูไม่น่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคนัก
ระบบอัพเกรดของ PS4 เป็น PS5 ยังเป็นอีกจุดที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง โดยแต่ละเกมก็มีรายละเอียดแตกต่างกันไป บางเกมอัพเกรดให้ฟรี ส่วนบางเกมเช่น Ghost of Tsushima ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม และ Sony เองก็ยังไม่มีมาตรฐานการอัพเกรด หรือฐานข้อมูลรวบรวมรายชื่อเกมที่เปิดให้อัพเดตได้
ต่างจากฝั่ง Xbox ที่มีระบบ Smart Delivery อัพเกรดจากเวอร์ชั่น Xbox One เป็น Xbox Series X|S ให้ฟรีซะเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงยังสามารถติดตามรายชื่อเกมที่มีระบบ Smart Delivery อย่างเป็นทางการ และเกมที่กำลังทำระบบอยู่ได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ทันที ทำให้เป็นอีกจุดที่ตอนนี้ Xbox Series X|S ดูจะทำได้ดีกว่า PS5
ที่มา - IGN
Comments
ท้ายข่าวนี่นึกถึงทวีตนี้เลย…
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ก็ย้อนเกล็ดสมัย xbox one แหละครับ ที่ sony แขวะเรื่องยืมเกม
แต่เอาจริงๆ เรื่องการ upgrade นี่ xbox ทำดีกว่าจริงๆ เราเคยได้ยินเรื่อง forward compatibility มานานมาก ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น smart delivery. ก็บอกให้ชัดไปเลยว่าเกมไหนได้ เห็นกันตั้งแต่หน้ากล่อง และทำเป็นระบบเดียวกัน
ส่วน sony มาทำตามทีหลังแถมขนาดเกม first party ยังทำไปคนละแบบกันเลย ขี้เหนียวมาก
แถมดันมาซวย เครื่องเกมรุ่นใหม่ หายากราคาแพงอีก ระบบ upgrade จึงจำเป็นสำหรับคนที่เล่นเครื่องเก่ารอ
รอบนี้ติ่ง ps เงียบปากไปเยอะ
ประมาณนั้นครับ
แล้วผมว่าเจนนี้ โซนี่ทำตัวเองหลายอย่างเลย เช่น อัปราคาเกมเพียงแค่ซื้อเจนใหม่, อัปเกรดฟรีที่ซับซ้อน หรือแม้แต่เคสนี้ที่ไม่มีอัปเกรดฟรีถ้าหากไม่ซื้อแบบดิจิทัล (ที่ขายต่อหรือขอคืนเงินไม่ได้)
ความแตกต่างคือ รอบนี้มีคน defend โซนี่เยอะกว่าตอนนั้นที่คนไม่ค่อย defend ไมโครซอฟท์
(เอาเข้าจริง มันไม่ควรจะยุ่งยากตั้งแต่แรก เพราะเบสมันก็ x64 เหมือนกัน)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มันไม่น่าเป็นเรื่องยุ่งยากเลยนะ เกมซื้อแล้วมันก็ควรอยู่ในคลังเราแล้ว แต่โซนี่ยังทำเหมือนว่าโลกยังอยู่ในยุค CD / DVD ยุคแรกเริ่มที่เครื่องอ่านต้องแยกกัน
มันกอยู่ในคลังแหละครับ คุณเอาเกม ver ps4 ไปเล่นบน ps5 ได้ แต่ก็จะให้ภาพเหมือนเล่นบน ps4
แต่ที่คนเขาโวยกันเพราะว่า ถ้าอยากใช้ศักยภาพของ ps5 ให้เต็มที่ ต้องซื้อเกมอีกรอบ แบบที่ยุค ps4,xbone เราต้องซื้อเกม “definitive edition” ที่เป็นเกมเดิมเอามา upgrade นั่นแหละครับ (แต่อันนั้นยังไม่น่าเกลียดมาก เพราะเครื่องรุ่นนั้นเล่นเกมของรุ่นก่อนหน้าไม่ได้ มันจึงไม่ใช่การ upgrade เฉยๆ แต่เป็นการ port ด้วย)
ซึ่งฝั่ง ms ทำแคมเปญ upgrade อัตโนมัติ ชื่อว่า “smart delivery” คือเกมไหนมี logo นี้ เราจะ upgrade ให้อัตโนมัติ ทำให้คนมั่นใจว่า ไม่ต้องมานั่งซื้อ definitive edition อีกรอบ
ซึ่งฝั่ง sony แรกๆ ก็เหมือนจะทำตาม แต่ลงท้ายก็ทำไปคนละทางในแต่ละเกม มั่วไปหมด
sonyกับnintendoยังยึดติดกับแผ่นเกมอยู่เลยนะ
ทั้งที่สมัยนี้โหลดเกมออนไลน์ได้แล้ว
แผ่นเกมกับตลับเกมมันมีค่าตอน trade in ครับ ถ้าหากเราไม่เล่น เราสามารถขายต่อได้ง่าย แถมไม่ต้องกังวลว่าถ้าหากเกมไม่สามารถดาวน์โหลดแบบดิจิทัลแล้ว จะไม่สามารถเล่นเกมได้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แต่เกมกล่องแบบตอนนี้ก็ไม่ไหวนะครับ เปิดมามีแต่กล่องกะแผ่น
สายสะสมนี่เซ็ง