ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นผลงานสำคัญของ KBTG ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินหลากหลายรูปแบบที่ใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตของคนทั่วไป ทั้งขุนทอง แชทบอทช่วยเก็บเงินจากกลุ่มเพื่อนผ่านไลน์, Eatable แพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้คนทำธุรกิจร้านอาหาร
นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชัน MAKE by KBank ที่จับกลุ่มวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ที่ต้องการจัดการเงินในรูปแบบของกระเป๋าออนไลน์ไม่จำกัด มองเห็นพฤติกรรมการเงิน และวางแผนการเงินของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา MAKE สามารถสร้างยอดดาวน์โหลดรวมกันได้ถึง 200,000 ครั้ง และมีผู้สมัครใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทำไม MAKE จึงกลายเป็นแอปพลิเคชันทางการเงินที่ประสบความสำเร็จ และชนะใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ และวัยรุ่น โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ปีนับจากวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
การจะตอบคำถามนี้ได้ก็ต้องพาย้อนกลับไปถึงคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน MAKE ของ KBTG ที่ตั้งใจให้แอปพลิเคชันนี้อยู่ตรงกลางระหว่างการเป็น Mobile Banking และตัวช่วยบริหารจัดการเงิน สามารถทำได้ทั้งการทำธุรกรรมทางการเงิน สแกนจ่าย โอนเงิน ไปพร้อมๆ กับการเป็นตัวช่วยจัด จ่าย จด จัดการเงินอย่างลงตัวในที่เดียว แถมยังได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% สำหรับเงินฝากจำนวน 100,000 บาทแรกอีกด้วย
คำว่า จัด จ่าย จด มีที่มาจากฟีเจอร์สำคัญของแอปพลิเคชัน Make by KBank ซึ่งได้แก่
จัดสรรเงินเป็นสัดส่วนด้วยฟีเจอร์ Cloud Pocket
ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชัน Make by KBank เล่าให้ Blognone ฟังว่าฟีเจอร์สำคัญที่เป็นตัวสร้างความแตกต่าง และดึงดูดผู้ใช้งานโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และวัยรุ่น คือฟีเจอร์ Cloud Pocket ที่ผู้ใช้งานสามารถจัดการเงินในบัญชีด้วยการแบ่งเงินออกเป็นหลายๆ กระเป๋าได้ไม่จำกัดจำนวน โดยใช้เพียงบัญชีเดียว แก้ปัญหา Pain Point ของคนที่ต้องเปิดบัญชีเงินฝากหลายบัญชี เพราะต้องการแยกประเภทเงินตามการใช้จ่าย ให้เหลือเพียงบัญชีเงินฝากเดียว แต่มีหลาย Cloud Pocket ซึ่งเป็นเหมือนกระเป๋าเงินจำลองแทน เพราะคนในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการใช้เงินที่ต่างกัน เช่น ช่วงวัยเรียนต้องการเก็บเงินเพื่อซื้อความสุขของตัวเอง ในขณะที่คนวัยทำงานต้องการเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคต และรองรับกับค่าใช้จ่ายที่มีมากกว่า
ตัวอย่างการใช้งานจริงของฟีเจอร์ Cloud Pocket ในแอปพลิเคชัน MAKE จะแตกต่างกันออกไปตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละคน ทีมผู้พัฒนายกตัวอย่างว่า ผู้ใช้งานหลายคนมีความต้องการสร้าง Cloud Pocket เพื่อจัดสรรระหว่างเงินใช้จ่ายทั่วไป เช่น เงินค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าผ่อนคอนโด และค่างวดรถยนต์ ออกจากเงินเก็บตามวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เงินเก็บระยะยาว เงินเก็บที่วางแผนใช้ไปเที่ยวต่างจังหวัด เงินเก็บเพื่อสำรองค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในอนาคตอย่างค่าประกันชีวิต และค่าส่วนกลางคอนโด เป็นต้น ซึ่งหากไม่มีฟีเจอร์ Cloud Pocket ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากแยกหลายบัญชี ยุ่งยากกว่าการมีบัญชีเงินฝากเพียงบัญชีเดียว แต่ใช้ฟีเจอร์ Cloud Pocket ช่วยจัดการแทน
ด้วยการแก้ Pain Point นี้ ทำให้ Cloud Pocket เป็นเหมือนฟีเจอร์สำคัญที่ดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในขณะนี้มี Cloud Pocket ถูกสร้างขึ้นรวมกันแล้วกว่า 200,000 Pockets
จ่ายเงินออกจาก Cloud Pocket ตามต้องการ
ด้วยความที่คอนเซ็ปต์การพัฒนา MAKE ต้องการเป็นทั้ง Mobile Banking และตัวช่วยบริหารจัดการเงินในหนึ่งเดียว แน่นอนว่าผู้ใช้งานจึงสามารถโอน ถอน และสแกนจ่ายเงินจาก Cloud Pocket เพื่อนำเงินออกจากแต่ละ Cloud Pocket ได้อย่างอิสระในที่เดียว โดยไม่จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชัน Mobile Banking อื่นในการทำธุรกรรมทางการเงินอีกทอดหนึ่งในซ้ำซ้อนกัน
จดทุกการทำรายการ ดูประวัติง่ายด้วยรูปแบบแชท
เมื่อทำธุรกรรมทางการเงินเสร็จเรียบร้อย อีกหนึ่ง Pain Point สำคัญที่ผู้ใช้งานต้องเจอคือ ไม่รู้ว่าประวัติการทำรายการที่บันทึกไว้คืออะไร เพราะจำไม่ได้ หรือเข้าใจยาก MAKE จึงเปลี่ยนรูปแบบประวัติการทำรายการใหม่ให้มีรูปแบบเดียวการส่งข้อความในแอปพลิเคชันแชท โดยผู้ใช้งานสามารถบันทึกข้อความ และรูปภาพลงในประวัติการทำรายการ และกลับมาย้อนดูอีกครั้งได้ในรูปแบบแชท ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าประวัติการทำรายการแบบเดิมๆ ที่มักเป็นรายการจำนวนมากเรียงติดต่อกัน
Expense Summary ฟีเจอร์ใหม่ของ MAKE
นอกจากฟีเจอร์ทั้งสามข้างต้นที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ จัด จ่าย จด ได้ในที่เดียวแล้ว MAKE ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจากการรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้งานแอปพลิเคชันอีกด้วย
ฟีเจอร์ที่ว่านี้คือ Expense Summary ที่ช่วยสรุปการใช้จ่ายของแต่ละ Cloud Pocket อย่างชัดเจนในทุกๆ เดือน ย้อนกลับมาดูเมื่อไหร่ก็ได้ โดยแสดงข้อมูลให้เป็นเปอร์เซ็นต์การใช้จ่ายในแต่ละ Cloud Pocket
ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชัน MAKE เล่าให้ฟังว่าฟีเจอร์ Expense Summary เกิดขึ้นจากความต้องการจริงของผู้ใช้งานหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชันไปแล้ว ว่าอยากให้มีฟีเจอร์สรุปการใช้จ่ายในแต่ละ Cloud Pocket ขึ้นมา จะได้ไม่ต้องบันทึกว่าใช้จ่ายเงินจากแต่ละ Cloud Pocket ไปกับอะไรบ้างในช่องทางอื่น นอกจากนี้ Expense Summary ยังมีความพิเศษตรงที่สามารถซ่อนรายการใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากรายการได้ด้วย
ตัวอย่างของการซ่อนรายการใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องออกจาก Expense Summary ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเล่าว่า โดยปกติแล้วเราอาจมีการโอนเงินออกจาก Cloud Pocket แบบชั่วคราว เช่น คนในครอบครัวฝากโอนเงิน แล้วโอนคืนกลับมาให้ ผู้ใช้งานจึงสามารถเลือกซ่อนรายการที่ไม่เกี่ยวข้องเหล่านี้ออกได้ทันที ซึ่งจะทำให้รายการสรุปค่าใช้จ่ายของ Expense Summary สะท้อนการจัดสรรเงินในแต่ละเดือนที่ตรงกับความจริงมากขึ้น
คนทำงานสายเทคฯ เบื้องหลังความสำเร็จของ MAKE
ไม่ใช่แค่เรื่องฟีเจอร์ของแอปพลิเคชัน MAKE ที่มีความน่าสนใจจนทำให้แอปพลิเคชัน MAKE สามารถกลายเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นคนรุ่นใหม่ และวัยได้สำเร็จ โดยเฉพาะการเป็นตัวช่วยในการจัด จ่าย จด บริหารจัดการเงิน รวบรวมข้อมูลการใช้จ่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานมองเห็นพฤติกรรม และวางแผนการใช้เงินได้ดียิ่งขึ้นในแอปพลิเคชันเดียว
ความจริงแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทีมงาน KBank และ KBTG ที่อยู่เบื้องหลัง ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะคนทำงานสายเทคฯ ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน MAKE
ทีมงานผู้มีส่วนร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน MAKE เล่าถึงประสบการณ์การทำงานให้ฟังว่า KBTG มีวัฒนธรรมการทำงานที่ให้โอกาสในการคิด และลงมือทำ ให้พื้นที่ในการแสดงออกความสามารถ โชว์ความถนัดเฉพาะด้าน และใช้ความถนัดเฉพาะด้านนั้นไปกับการช่วยเหลือทีม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
Comments
เมื่อไหร่จะจ่ายบิลตรงจากในแอพได้สักที (จ่ายบิลนะ ไม่ใช่สแกน QR)
ทุกวันนี้ต้องโอนกลับไป K+ เพื่อจะจ่าย เสียเวลา
โอน เติม จ่าย
มีแค่โอนอ่ย่างเดียวเลยตอนนี้
น่าจะมี dark theme ด้วยนะครับ