เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา AIS จัดงานสัมนา 5G for Business is Now เน้นย้ำความสำคัญของ 5G เพื่อเป็นเครื่องมือในการเสริมขีดความสามารถการทำงานของภาคอุตสาหกรรม ทั้งภาคการผลิต โรงงานเครื่องจักร โซลูชัน หรือแม้แต่กระบวนการทำงานในขั้นตอนต่างๆ
AIS พูดถึงความพร้อมทั้งจากการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายทั้งในระดับนโยบายการขับเคลื่อนกับภาครัฐ และในระดับของการพัฒนาโซลูชันในด้านต่างๆ กับภาคเอกชน เพื่อติดปีกภาคอุตสาหกรรมไทยให้สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ด้วยเทคโนโลยีจาก AIS 5G ทั้งด้าน Platforms และ Solutions
คุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าจากการเดินหน้าลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของเทคโนโลยีโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ทำให้วันนี้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีความสมบูรณ์ พร้อมให้บริการกับภาคอุตสาหกรรมแล้ว โดยจะยึดแนวทางการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายเพื่อสร้างความสมบูรณ์ของ Digital Ecosystem ที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นได้
AIS ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa พัฒนา 5G Innovation Center บนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ภายในพื้นที่ตั้งของ Thailand Digital Valley ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาค โดยได้นำศักยภาพ 5G ที่ครอบคลุม 100% ในพื้นที่ EEC ที่มีการใช้งานมาเปิดโอกาสให้กลุ่ม Digital Tech ซึ่งมีความต้องการจะทดสอบบริการบนเครือข่าย AIS 5G อันจะทำให้เกิดการลงทุนในธุรกิจดิจิทัลควบคู่กับการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลเชิงพาณิชย์ โดยพร้อมที่จะเปิดตัวในปี 2022
นอกจากนี้ AIS ยังทำงานร่วมกับภาครัฐอย่าง ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยมีแผนงานสนับสนุน 5G infrastructure สำหรับเป็นสนามทดสอบ 5G (5G testbeds)
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมการผลิต รับการมาถึงของเทคโนโลยี 5G ณ ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน หรือ Sustainable Manufacturing Center: SMC อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของภาคอุตสาหกรรมการผลิต Smart Manufacturing แห่งใหม่ในพื้นที่ EEC
AIS ยังได้ทำงานร่วมกับนิคมอุตสาหกรรม และสมาคมต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์ในการร่วมพัฒนาธุรกิจดิจิทัลของประเทศ อาทิ สมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) และ สมาคมไทยไอโอที (TIoT) เพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมมองเห็นประโยชน์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยี และสร้างธุรกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
นอกจากนี้ AIS ยังได้จับมือร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในด้านของ Platforms และ Solutions ชั้นนำ และยังเข้าร่วมมือกับหน่วยงานระดับภูมิภาคอย่างเช่น GSMA ในการร่วมก่อตั้ง APAC 5G Industry Community และร่วมมือกับอีกหลายองค์กร อาทิเช่น 5GEC (5G Enterprise solution Consortium) เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการทำงานและนำเสนอบริการที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง และยังประกาศความพร้อมในการให้บริการต่างๆ ดังนี้
MEC (Multi-access Edge Computing) เป็นบริการที่นำศักยภาพในการประมวลผล และการจัดการข้อมูลมาอยู่ใกล้กับผู้ใช้งานหรืออุปกรณ์มากขึ้น ช่วยลดปริมาณการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ และ Cloud และช่วยลดความหน่วง (latency) โดย AIS ให้บริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ เช่น Huawei, HPE, Microsoft และ ZTE และให้บริการได้แล้วใน 2 โมเดล คือ Shared MEC และ Dedicated MEC ที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
5G Private Network บริการเครือข่าย 5G ส่วนตัวสำหรับการใช้งานเฉพาะของแต่ละธุรกิจ สามารถทำ Network Slicing สร้างโครงข่ายส่วนบุคคลเสมือนในระดับคลื่นความถี่ ทำให้เชื่อมต่อภายในองค์กรเป็นส่วนตัวแม้จะใช้เครือข่ายแบบไร้สาย โดย 5G Private Network จะให้บริการใน 3 รูปแบบ ได้แก่
Smart Manufacturing Solutions อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการผลิต การทำงานระยะไกลสำหรับภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น ผ่านการทำงานร่วมกับ Mitsubishi, Omron, TKK และล่าสุด Schneider ผู้นำด้านโซลูชันการผลิตอัจฉริยะที่จะมาเสริมการทำงานภายใต้แพลตฟอร์ม EcoStruxture ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แอปพลิเคชันได้แก่
5G IoT solutions ร่วมกับ TCS โดย AIS เข้าไปให้บริการโซลูชันด้าน IoT ที่ช่วยตอบโจทย์ในการเสริมประสิทธิภาพด้านการผลิตการปรับปรุงและตรวจสอบความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและพนักงาน การจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมถึงควบคุมต้นทุนในการผลิตที่ครอบคลุมในทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ
5G Security Platform ร่วมกับ Palo Alto Network และ Cisco AIS เข้าไปให้บริการ AIS Managed Secure Access Service Edge (SASE), AIS SD-WAN และบริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์อื่นๆ รวมทั้ง AIS CSOC ซึ่งเป็นระบบควบคุมแบบรวมศูนย์บนคลาวด์เพื่อตรวจจับและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่สามารถทำงานร่วมกับโซลูชันด้านความปลอดภัยจากพันธมิตรชั้นนำเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์
5G ยังสามารถผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ AR, VR, AI ทำให้เกิดการใช้งานจริงในธุรกิจมากมาย เช่น การประยุกต์ใช้ 5G เพื่อสร้างความยั่งยืนและความปลอดภัยในการเป็น Smart Green Mining ของ SCG และการสร้าง use cases ในเครือข่ายภาคี Thailand A.I. University Consortium intelligent connectivity ในภาคการศึกษาได้อีก เป็นต้น
ผู้ที่สนใจข้อมูลจาก AIS Business เพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมขายที่ดูแลองค์กรของท่าน หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ AIS Business