ใครที่เคยยึดติดกับซีรีย์เกมประจำแต่ละค่าย เช่น นินเทนโดต้องมีมาริโอ เซก้าต้องมีโซนิค หรือไฟนอลแฟนตาซีจะลงแต่เครื่องของโซนี่เท่านั้น อาจจะต้องคิดใหม่กันได้แล้ว
ด้วยค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเกมที่สูงขึ้นมาก ถ้าเกมนั้นสามารถลงหลายแพลทฟอร์มได้ย่อมหมายถึงรายรับที่เพิ่มขึ้น เดิมทีเค้าใช้วิธีทำลงซักเครื่องก่อน แล้วค่อยพอร์ตตามมา แต่ความยากและค่าใช้จ่ายในการพอร์ต ทำให้เกมยุคหน้ามักจะวางแผนให้ถูกพัฒนามาพร้อมๆ กันทุกแพลตฟอร์มเลย
นั่นแปลว่าสเปกหรูหราของ PS3 แทบจะไม่มีประโยชน์สำหรับเกมข้ามแพลตฟอร์ม เพราะค่ายเกมก็ต้องเผื่อสเปกต่ำสุด (ในกรณีเกมคอนโซลก็คือ Revolution หรือถ้านับพีซีด้วยก็ต้องสเปกพีซีที่กำหนด) เมื่อรวมกับความยุ่งยากในการพัฒนาเกมบนเครื่องยุคใหม่ ในเรื่องการเขียนโปรแกรมหลาย thread สถานการณ์ยิ่งเข้าทางนินเทนโดกับพีซีเข้าไปใหญ่ ขนาด John Carmack แห่ง id software (คนสร้าง Doom และ Quake) ยังบ่นว่ายาก แล้วโปรแกรมเมอร์ธรรมดาจะเหลือเหรอครับ
ผมมองว่าถ้าในอนาคตเกมอย่างไฟนอลแฟนตาซีหรือ Bio Hazard ลงสามเครื่องพร้อมกัน ศึกเครื่องเกมรอบหน้าคงวัดกันที่ค่ายเกม 1st party (นินเทนโดหรือโซนี่เอง) และ 2nd party (ค่ายลูก) ที่ทำเกมเฉพาะลงเครื่องเดียว ว่าใครจะทำได้ติดตลาดกว่ากันล่ะครับ
อ่านเรื่องการพัฒนาเกมข้ามแพลตฟอร์มแบบเต็มๆ ได้ที่ Ars Technica เช่นเคย
Comments
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ฝั่ง Java กำลังพยายามผลักดันตัวเองว่านี่แหละภาษาของ Game Development ตัวถัดไปเพราะความสามารถในเรื่อง cross-platform นี่เอง
พูดเรื่องนี้ขึ้นมาคนแย้งกันตรึมเพราะไม่เชื่อว่าอย่าง Java จะทำได้ โดยเฉพาะในเรื่องของ performance ซึ่งก็มีการแย้งไปในประวัติศาสตร์การพัฒนาเกมที่เริ่มกันที่ * Assembly --> แล้วคนก็บอกว่า C ใช้ไม่ได้หรอก ช้า * หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนากันด้วย C --> พอ C++ มา คนก็บอกว่าไม่ได้หรอก C++ ช้ากว่า C ตั้งเยอะ * แล้วปัจจุบันก็เป็น C++ --> Java เขียนเกมได้ด้วยเหรอ? * อนาคต ???
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมว่าน่าคิดก็คือเรื่อง cross-platform นี้มันเกิดขึ้นเพราะส่วนหนึ่งเครื่องคอนโซลแต่ละเครื่องนั้นลักษณะทางภายนอกแล้วไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ ใช้คอนโทรลเลอร์มีปุ่มกดเหมือนๆกัน เวลาเล่นก็กดคล้ายกัน แต่พอมี DS ออกมา แน่นอนว่าเกมบน DS ไม่มีทางพอร์ตไปลง PSP ได้แน่ เพราะ PSP ไม่มีจอสัมผัส หรืออนาคตกับ Revolution ที่ถ้าจะทำข้ามแพลตฟอร์มจริง คงต้องออกคอนโทรลเลอร์ตามมาด้วย
นั้นมันส่วน input แค่ให้ความหมายใหม่แค่นั้นเอง ... เช่น กด a = เหวี่ยงจากซ้ายไปขวา ... แล้วค่อยเพิมอย่างอื่นเช่นเหวี่ยงอย่างไร ... ไม่ยากกว่า input แบบ analog หรอก
ที่ยากจริงๆคือ ps3 ตะหาก ... มัน 7 core เขียนยากกว่า 1 core มากกว่า 7 เท่านะ รีดความเร็วยากส์ด้วยถ้าไม่แบ่งโปรแกรมให้เป็น 7 ส่วนเท่ากันก็รีดความเร็วใด้ไม่ถึง 3.3 gig และอีก 2 เครื่อง 1-3 core เอง คาดว่าเขียนยากง่ายเท่าๆกัน โดย revolution-ที่ไช้ input เก่า (1-2 core) หรือไม่ก็ x-box360 (3 core) น่าจะง่ายที่สุดในช่วงแรก แต่หลังจากชินกับ input ใหม่ revolution (1-2 core) จะเขียนง่ายที่สุด ส่วนเขียนโปรแกรมของเครื่อง 7 core ยากส์เหมือนต้องเรียนใหม่เลย