ด้วยกระแสของ non-fungible tokens (NFT) ในตอนนี้ ทำให้มีคนสร้างเว็บไซต์ชื่อ The NFT Bay (พร้อมหน้าตาที่คุ้นเคย) ขึ้นมาแจกไฟล์รูปภาพ NFT ขนาดรวม 19.5TB ผ่าน BitTorrent
Geoffrey Huntley โปรแกรมเมอร์ชาวออสเตรเลียที่สร้างเว็บไซต์นี้ขึ้นมา อธิบายว่าเห็นคนจ่ายเงินซื้อ NFT กันอย่างกว้างขวาง บนความเชื่อว่าเป็นการซื้อสิทธิ (right) ความเป็นเจ้าของชิ้นงาน ผ่าน token ที่เก็บไว้บนบล็อคเชนอีกที แต่ตัวชิ้นงานจริงๆ ไม่ได้ถูกเก็บบนบล็อคเชน เป็นแค่ไฟล์ภาพ jpg ที่ฝากไว้บนเว็บโฮสต์แบบดั้งเดิม และใครๆ ก็สามารถคลิกขวา เซฟภาพเหล่านี้มาเก็บไว้ได้
สิ่งที่เขาทำคือไล่เซฟภาพทั้งหมดที่มีลิงก์บนบล็อคเชน Ethereum และ Solana มารวมกันเป็นก้อน แล้วแจกจ่ายผ่าน torrent โดยมีจุดประสงค์ให้คนเรียนรู้ว่า การซื้องานศิลปะผ่าน NFT ในปัจจุบันเป็นแค่ "การซื้อวิธีการดาวน์โหลดภาพ" ส่วนไฟล์ภาพจริงๆ ไม่ได้เก็บอยู่บนบล็อคเชนแต่อย่างใด การเก็บภาพไว้บนโฮสต์แบบดั้งเดิมไม่มีอะไรการันตีว่าลิงก์ภาพจะสามารถเข้าถึงได้ในอนาคต หากลิงก์กลายเป็น 404 มูลค่าของ NFT จะลดน้อยลงไป
การเกิดขึ้นของ The NFT Bay อาจเป็นการส่งสัญญาณบอกวงการ NFT ว่าสุดท้ายแล้ว จ่ายเงินซื้อไปก็ไม่ได้เป็นเจ้าของไฟล์ศิลปะนั้นจริงๆ เพราะด้วยสถาปัตยกรรมของ NFT ในปัจจุบัน เปิดให้คนสามารถดาวน์โหลดไฟล์ภาพ (เถื่อน) แล้วมาแจกจ่ายกันฟรีๆ ด้วยโมเดล BitTorrent แบบดั้งเดิมได้อยู่ดี ตัวของ Huntley ให้คำนิยามไฟล์ torrent นี้ว่า "The Billion Dollar Torrent" เพื่อเสียดสีเรื่องมูลค่าที่คนจ่ายซื้อชิ้นงานไปนั่นเอง
?OMG WHO RIGHT CLICKED ALL OF THE #NFTs?☠️??☠️ https://t.co/o0YRK78AkL ?☠️?? pic.twitter.com/g74TFqzX0n
— ?☠️ thenftbay.org ? ?? (@GeoffreyHuntley) November 18, 2021
ที่มา - The NFT Bay, Kotaku, TorrentFreak
Comments
แอบเห็นด้วยกับแนวทางนี้ในด้านของการอนุรักษ์ข้อมูล ตัว NFT มันแค่บอกความเป็นเจ้าของ ส่วนภาพเป็นแค่ข้อมูลดิจิทัล สำเนาเรื่อย ๆ ได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับ The Billion Dollar Torrent เพราะตราบใดที่คนยังเชื่อใน NFT มันก็ย่อมมีมูลค่า บ่งบอกความเป็นเจ้าของที่แท้จริงได้
ตรรกกะคล้าย ๆ ใช้วินโดวส์แท้ = โง่ โหลดเถื่อนก็ใช้ได้เหมือนกัน
คือมันก็ใช้ได้แหละ แต่ก็นะ...
คนละประเด็นเลยครับ
น่าจะคล้ายๆกันนะครับ เพราะปล่อยฟรี แต่ผลลงานไม่ใช่ของตัวเอง คือ ดูงานใครมาบ้าง ต้นทางเขาอนุญาตยัง แล้วก็ปล่อยฟรี
ครับ ผมมองในประเด็นนี้น่ะครับ สำหรับคนที่ดูดมาปล่อย ไม่ได้มองเรื่องกฎหมาย หรืออะไร
คือจะมองว่าคนละประเด็นก็ไม่ผิด แต่จะมองให้คล้าย ๆ มันก็มีส่วน ผมจะสื่อถึงแบบนี้แหละครับ 555 แบบมันมีส่วนคล้าย
ซอฟต์แวร์เปิดใช้งานนี่เราตกลงอะไรบางอย่างกับผู้ผลิต ถ้าซื้อถูกต้องเราได้รับสิทธิ์ใช้งานในรูปแบบที่ตกลงกัน (ใช้ได้กับเครื่องเดียว หรือย้ายเครื่องได้ หรือลงกี่เครื่องก็ได้ถ้ายังเป็นคนใช้คนเดิม ขายต่อได้ไหม ฯลฯ)
ผมว่าคำถามที่ถามกันมานานแล้วคือการเป็นเจ้าของ NFT นี้หมายถึงอะไร ผมถือ NFT อยู่ = การถือลิขสิทธิ์ในโลกไหม ผู้สร้างสรรค์ได้ส่งมอบลิขสิทธิ์ทั้งหมดให้เจ้าของลิขสิทธิ์หรือไม่ หรือถ้ามอบแล้วกับคนซื้อคนแรก กระบวนการส่งผ่านลิขสิทธิ์เมื่อซื้อขาย NFT จะเป็นอย่างไร กรณีนี้มีคนเอาภาพไปแจก ถามว่าใครจะเป็นคนฟ้อง?
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าคำถามที่ว่าถามกันมานาน มันมีคนตอบกันมานานแล้วนะครับว่า ไม่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ผู้สร้างเป็นผู้ถือลิขสิทธ์นั้น ๆ ครับ
ส่วนตัวผมอ่านผ่าน ๆ ตามกลุ่ม NFT บ้าง ตามความเข้าใจของผม NFT คล้าย ๆ แบบนี้ครับ สมมุติ เราซื้อรองเท้า NIKE เราเป็นเจ้าของรองเท้านี้ เราขายต่อได้ และถ้ามัน Limited และมีคนต้องการยอะ ๆ ราคามันก็เป็นไปได้ว่ามันจะขึ้น และแพงกว่าที่เราซื้อมา มันก็เลยเกิดการซื้อเพื่อเก็งกำไร และคนแห่กันไปซื้อตอนเปิดขายแรก ๆ แต่ถามว่า เราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รองเท้านั้นมั้ย ไม่ใช่ครับ เจ้าของลิขสิทธิ์ก็คือ NIKE เราแค่มีสิทธิ์ในตัวรองเท้านั้นเท่านั้น กรณีที่มีคนก๊อปปี้รองเท้าไปขายต่อ (หรือแจก?) คนมีสิทธิ์ฟ้องก็คือ NIKE ครับ ไม่ใช่คนซื้อ
ทีนี้ก็แล้วแต่การตลาดของคนสร้างแล้วครับว่าจะทำของปั้มออกมาขายแบบเดียวเยอะ ๆ แบบ NIKE รุ่นทั่ว ๆ ไป หรือจะทำ Limited ออกมาชิ้นเดียวแล้วให้คนมาซื้อเพื่อหวังเก็งกำไร (ลุกช้าจ่ายรอบวง) แน่นอนว่า ศิลปินก็เลือกที่จะทำของชิ้นเดียว พอเวลามีของขิ้นเดียวแล้วเราซื้อ คนนอกก็มองว่าเหมือนเราซื้อลิขสิทธิ์ แต่จริง ๆ แล้วเปล่าครับ
ทีนี้พอเวลามันเป็น Digital เวลาก๊อป มันแค่คลิกขวา Copy จริง ๆ เหมือนเด๊ะ 1:1 เท่าต้นฉบับ ส่วนตัวผมมองว่า การเป็นเจ้าของ NFT ณ ปัจจุบันนี่ กาวล้วน ๆ นะ มันมีแต่ความเป็นดิจิตอลที่จับต้องไม่ได้ รู้ว่าเป็นเจ้าของ แต่มันก็ห้ามคนอื่นมาก๊อปไปไม่ได้ มันมีปัญหานี้เกิดขึ้นเยอะแยะครับ เช่น เราเป็นเจ้าของลงขายใน Opensea มันก็มีพวก ก๊อปงานเราไปขายใน Platform อื่นดื้อ ๆ ก็มีครับ บางงาน เจ้าของยังขายไม่ได้เลย คนก๊อปขายได้แล้ว 555
ตอนนี้เค้าก็พยายามหาทางที่จะแก้ปัญหาตรงนี้กันอยู่ แต่ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างครับน่าจะอีกสักพัก
เอ๊ะ ผมก็เข้าใจว่าเอา data ฝังเข้า blockchain มาตลอด ปรากฏมันไม่ใช่เรอะนี่ หรือมันมีทั้งคู่ แต่คนส่วนใหญ่ไปโฮสท์แยกเอง ?
แค่นี้ chain ยังใหญ่ไม่พออีกเหรอ ฮา
ใช่ๆ ผมนึกไปถึง วงการหนัง เพลงจะลง Blockchain ด้วย แล้วนค้มันแยกกัน ใน Blockchainเป็นแค่ address หรอ
แล้ว games บน blockchain ล่ะ dApp ต่างๆ ยังมีhost อยู่ใช่หรือเปล่า
เหมือนบิตคอย ตราบใดที่ยังมีเงินเติมเข้ามาในระบบมันก็ยังมีค่า
ถ้างานศิลปะที่เราซื้อมาโฮสต์ลาโลกนี่ก็เศร้าจริงๆ นะ
แล้วทำไม่ไม่โหลดเก็บไว้เองล่ะครับ
ผมลองคิดตามว่าแบบ สมมติไกล ๆ ตัว เอาแบบโลกคู่ขนานไปเลย คือเกิดโฮสต์ที่ฝากรูปไว้ลาโลกไปหมด คอมเราก็พังหมด คอมคนทำภาพก็บังเอิญพังอีก หรือก็คือพอเหลือแค่ตัวบล็อกเชนที่เราเป็นเจ้าของ จะมีทางที่จะได้รูปกลับมาไหม พอเห็นข่าวแบบนี้มันก็ชวนให้คิดได้นะครับ
อนาคตอีกหน่อยถ้าคอมพิวเตอร์ล่มพัง เกิดสงคราม เกิดระเบิด EMP สนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์มาถล่ม เราก็ค่อยคงถอยหลังเหมือนกับไปยุคหินละครับ มันคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ชีวิตเราไปผูกกับมันไป
บางอย่างอาจจะบันทึกเก็บไว้ในแผ่นคริสตัล แผ่นแก้ว แผ่นอะไรสักอย่างที่ทนทานนักร้อยๆๆ ที่เป็นที่บันทึกเรื่อง Archived คงเอาเอามาเปิดดูถ้าเปิดได้โดยไม่ต้องใช้คอมแล้ว
ผมเข้าใจว่าเหตุผลของคนทำเว็บ nft bay ก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่คุณคิด
สมมุติต้นทางที่เก็บรูปหายไป คนที่โหลดเก็บไว้ก็เอาไปค้ากำไรต่อได้ เพราะเห็นว่ามีข้อมูล address แนบมาด้วย
ผมถึงซื้อ photo printer พิมพ์ภาพออกมาเก็บไว้ไงครับ :)
NFT มันมีมูลค่าของมันนั่นแหละครับ มันเหมือนมีใบ cer ว่าผลงานที่แท้จริงอยู่ที่เรา ส่วนใครจะสำเนาไปก็เชิญตามสบาย
เสียดสีได้แสบจริงๆ ในทางกลับกันมันก็กระตุ้นในการพัฒนาเทคโนโลยีได้เหมือนกัน เมื่อถึงจุดสมดุลทุกฝ่ายยอมรับได้ ก็จะได้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
ต่อให้อยู่บน blockchain ก็แคปภาพมาลงบน photoshop ได้อยู่ดีมั้ง
อนาคต อาชีพ ตำรวจ cyber น่าจะมา
เครื่องมือ magnetic scan hd หาข้อมูล file ผิด ลิขสิทธิ์ ต้องมี
ผมก็คิดงั้นนะมันก็แค่ชื่อที่ใช้ในการตลาดคล้ายๆคำว่าAIตอนนี้นั่นแหละ อะไรๆก็ใช้AIๆไปหมด
เพราะกระบวนการทำให้เกิด NFT เพื่อเอาไปขายคืออัพโหลดมันขึ้นไป ดังนั้น original จริงๆมันคือไฟล์ที่เราอัพขึ้นไปไม่ใช่หรือ? และถ้าอัพไฟล์เดียวกันสองครั้งอันไหนจะเปนต้นฉบับ และถ้ามีภาพที่คมชัดกว่าเดิมหรือยาวกว่าเดิมมาขายจะถือว่ามันเป็นต้นฉบับมากกว่ารึเปล่าหรือขายได้แพงกว่า แบบมีเวอร์ชั่น FHD เวอร์ชั่น 4K 8K ฯลฯ
แต่ตอนนี้เหมือนเป็นเทรนไปทั่วโลกรายใหญ่ลงมาเล่นมากมาย ถ้าใครบอกความจริงว่ามันไม่ได้วิเศษอะไรขนาดนั้น ก็จะโดนเตะตัดขา(เช่นเข้ามาด่า)เพราะไปขวางทางรูปแบบการขายใหม่ของตลาด
มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรจริงๆแหละ ต้นทุนสูงแต่ผลตอบแทนมันก็สูงเหมือนกัน
แล้วคนซื้อก็ยังมีสิทธิ์การปล่อยผลงานต่อได้เรื่อยๆ เหมือนเป็นการลงทุน blockchain รูปแบบนึงและกัน แต่มันกระตุ้นด้วย ชื่อเสียง และงานศิลป์
ส่วนเรื่องอัพซ้ำ มันเหมือนการด้อยค่าผลงานตัวเอง นักวาดเขาคงไม่ทำกัน ทำแล้วมูลค่าเสีย
หลายๆคนมักเข้าใจว่า crypto มันเก็บทุกอย่างไว้ในตัวมัน ซึ่งมันผิดอยู่แล้ว หลักการมันคือแค่ Log Append timestamp
Texion Business Solutions
ผมว่า NFT มันก็เหมือนใบ cert คนซื้อไม่ใช่ต้นฉบับที่ผลิดแน่ๆ เพราะสำเนาทางdigital แต่ว่าเป็นการบอกถึงความเป็นเจ้าของว่า เราคืดเจ้าของตัวจริง ใครที่มีรูปนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีใบก็คือของก็อป
หัวใจหลักคือมีกลุ่มคนบางกลุ่มไว้ฟอกเงิน
นั่นมันวัตถุประสงค์ ไม่ใช่หัวใจหลัก
เราว่าหาเหตุผลของการซื้อ nft มันก็เหมือนกับการหาเหตุผลของการเติมเกมกาชาอะ nft ยังดีที่มีโอกาสขายต่อได้ เกมกาชา บางทีเราก็แค่เสพย์งานศิลป์เหมือนกัน แต่ขายต่อไม่ได้และยั่งยืนน้อยกว่า
NFT ถ้าเทียบกับโลกจริงๆ ก็เหมือนเราซื้อใบ Cer รับรองว่าเป็นเจ้าของภาพ แต่ภาพก็ยังคงแขวนไว้แกลเลอรี่นั้น เอากลับบ้านไม่ได้ วันไหนไฟไหม้แกลเลอรี่ก็....
I need healing.
NFT ก็เหมือนเหรียญหินของชนเผ่า Yap ล่ะมั้ง เหรียญตั้งอยู่ที่เดิมแต่ซื้อเปลี่ยนสิทธิ์กัน
อืมเป็นการประชดและชี้ให้เห็นช่องโหว่ของNFT โดยตรง เพราะบางคนคิดว่า การใช้blockchainนั้นล็อคความเป็นเจ้าของตัวงานศิลปะไปด้วย แต่ในความเป็นจริงมันเหมือนแค่ token เพื่อแสดงสิทธิ์ ไม่ต่างจากกระดาษใบนึงที่เขียนหนังสือสัญญาเพื่อบอกว่าคุณเป็นเจ้าของภาพที่ฝากรูปไว้นะ แต่อาจจะยากกว่าตรงการฟ้องร้อง อาจไม่ได้รับการยอมรับเหมือนหนังสือสัญญาทางแพ่งฯ แถมตัวสัญญาก็ไม่ได้ผูกกับตัวศิลปะโดยตรง(แบบที่ว่าhostไฟล์แยกกัน) ไม่ได้นำรูปภาพใส่ไปในblockchain ตรงๆ(ผมว่ามีคนเข้าใจผิดตรงนี้เยอะ)
ก็ทำให้นึกถึงที่กลต. ว่าNFTไม่เข้าข่ายเงินcrypto เพราะเป็นแค่การแสดงสิทธิ์(ที่ไม่ได้มีการรับรองทางกฎหมายด้วย?)มันไม่ได้เป็นเจ้าของจริงๆ ต่างจากเงินคริปโตอื่นๆที่เป็นเจ้าของจริงๆ รวมถึงtoken digitalอื่นๆที่แสดงสิทธิ์เหมือนหุ้น
แต่เหมือนมีคนยกประเด็นว่าการเป็นเจ้าของNFT ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพนั้นด้วยซ้ำ? แค่แสดงความเป็นเจ้าของภาพในแบบdigitalรหัสนั้นเฉยๆ (คือเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพจริงยังไปทำอย่างอื่นได้ต่อ?) ตรงนี้ไม่แน่ใจ ใครช่วยอธิบายที แต่ถ้าแบบนั้นก็จะกลายเป็นเหมือน ขายitemในเกม เพราะแค่แลกเปลี่ยนในระบบแต่ไม่ใช่เจ้าของในโลกจริงอยู่ดี?
มีคนเคยคอมเมนต์ไว้ว่า NFT ก็เหมือนกับการจ่ายเงินซื้อใบเสร็จ
ตัวสินค้าจริงๆ อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่เราได้คือใบเสร็จที่ระบุข้อมูลว่าเราเป็นเจ้าของ