Mark Cerny หัวหน้าฝ่ายสถาปัตยกรรม PlayStation ให้สัมภาษณ์กับ Wired เล่าเบื้องหลังกระบวนการออกแบบ PS5 ให้เราได้ทราบกัน
Cerny เล่าว่าขั้นแรกของการออกแบบคอนโซลคือการประชุมระดมสมองในทีมก่อน นำรายการฟีเจอร์ที่ใส่ไม่ทันในคอนโซลรุ่นก่อน, รายการไอเดียใหม่ๆ รวมถึงเสียงเรียกร้องจากนักพัฒนาเกมว่าอยากได้อะไร มารวมกันแล้วดูว่าฟีเจอร์ไหนควรทำ สามารถทำได้หรือไม่ ภายใต้ข้อจำกัดอะไรบ้าง
Cerny บอกว่าฟีเจอร์ที่ได้รับการร้องขอเยอะที่สุดตั้งแต่ยุค PS4 คือสตอเรจแบบ SSD โดยเขาอ้างถึง Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ที่บอกว่าฮาร์ดดิสก์เป็นตัวฉุดรั้งวงการเกม เพราะการหมุนจานเพื่อเรียกข้อมูล เป็นอุปสรรคสำคัญของการออกแบบเกม ทำให้นักพัฒนาต้องออกแบบฉากให้มีช่วงโหลดข้อมูล ไม่สามารถสร้างฉากขนาดใหญ่ที่ลื่นไหลได้อย่างที่ต้องการ
แต่ถึงแม้ข้อเรียกร้อง SSD เป็นมติเอกฉันท์ของวงการ Cerny ก็เล่าว่ายังมีรายละเอียดทางเทคนิคอีกมากที่ต้องตัดสินใจ เช่น ประเภทของ SSD, ความเร็วของ SSD (เขาเล่าว่านักพัฒนาเรียกร้อง 1 GBps แต่สุดท้ายแล้ว โซนี่ตั้งเป้าให้ได้ 5-10X)
รายละเอียดอีกอันที่น่าสนใจคือเรื่อง Integrated I/O ที่โซนี่ออกแบบชิป I/O เฉพาะเพื่อจัดการเรื่องบีบอัดข้อมูล นักพัฒนามีหน้าที่ให้เกมเรียกขอข้อมูลจากระบบเท่านั้นพอ การจัดการข้อมูลที่เก็บในสตอเรจ การขยายการบีบอัด ระบบแคช ฯลฯ ตัวชิป I/O จะจัดการให้ทั้งหมด (PS5 ใช้อัลกอรึทีมบีบอัด Kraken ของบริษัท RAD ที่เพิ่งถูก Epic ซื้อไป)
Cerny ยังเล่าถึงการออกแบบซีพียู/จีพียู ว่าต้องตัดสินใจเลือกจำนวนคอร์ของแต่ละฝั่ง ซึ่งความเห็นของนักพัฒนาก็หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีรายการฟีเจอร์แบบคัสตอมบางอย่างที่สั่ง AMD ทำให้ เช่น วิธีการเก็บข้อมูลหากเกมแครช, โหมดความเข้ากันได้กับเกมเก่ายุค PS4
ประเด็นเรื่อง Tempest 3D audio เป็นอีกเรื่องที่ Cerny พูดถึง โดยบอกว่าตั้งใจให้เกมเมอร์ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์นี้ ผ่านหูฟังทั่วๆ ไปหรือแม้แต่ผ่านลำโพงทีวี และโซนี่อยากให้นักพัฒนาทำงานง่าย จึงเพิ่มชิป 3D audio เฉพาะเข้ามาให้ใน SoC มีวิธีการทำงานคล้ายจีพียู แต่ใช้ประมวลผลแหล่งปล่อยเสียงในเกมแทน เมื่อนักพัฒนาสามารถสร้างเสียงที่รู้สึกถึงแหล่งที่มา (presence) ก็จะเพิ่มมิติการเล่าเรื่องแบบใหม่ๆ ได้
Comments
มีใครใน Sony โดยเฉพาะ Sony Thai คิดจะปรับปรุงระบบการขายของตัวเองบ้างไหม
เปิดให้ Pre-Order รับสินค้าตามคิวแบบ Apple มันยากตรงไหน
เล่นเปิดจองเป็นรอบๆ เปิดจนจะสิบรอบก็เสร็จ Bot Reseller ภายใน 1 วิทุกรอบ
ไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาการขาย ทำงานเช้าชามไปวันๆ ทำเป็นเด็กเล่นขายของไปได้
นี่ขายเป็นปีแล้ว ยังแก้อะไรไม่ได้ เกมส์ก็ขายแพงกว่าชาวบ้าน
Store Thai ก็ไม่มีโปรโมชัน ไม่แจก Discount Code มานานแล้ว
PS5 เครื่อง Digital ราคา 13,900 Reseller ขาย 26,000 ผมไม่มีทางซื้ออะ
ถ้าไม่คิดจะรักษาลูกค้าของตัวเองไว้ ผมก็จะปันใจไปหา Xbox แล้ว ถึงแม้ผมจะไม่ชอบสินค้า MS ก็ตาม
เอาจริงๆนะระบบ ที่ป้องกันบอทได้ คือระบบที่ห่วย 555
กดแล้วออเดอร์ค้าง ตัดเงินไม่ผ่าน ว่ากันไป
อย่างของเราได้เพราะ ของเดอะมอลล์ ระบบล่ม รอจนระบบมันกลับมาเลยได้
หรืออย่างรอบแรกๆ nadz ก็ระบบ google form ล่มแล้วออเดอร์ล้น ถึง ลค. จะโวยวาย แต่สุดท้ายก็การันตีว่าได้เครื่องแน่
แต่อย่างว่าระบบแบบนี้มันเสียชื่อ บ. และ เสียแรงงานพนักงานมาไล่เช็คออเดอร์
ทำไมระบบกันบอท auto click ได้มันถึงห่วยหรอครับ ถ้าตามที่ว่าว่ากดแล้วออร์เดอร์ค้างอันนี้คือทำหน้าร้านมาไม่ดีเองรึเปล่า
ส่วนตัวคิดว่า Sony Thai ' ไม่แคร์ ' ว่าเครื่องจะขายออกยังไงนะ ปล่อยให้ Reseller ขายตามสภาพ
เปิด Order รอบนึงไม่เคยบอกว่าขายกี่เครื่อง สมมติว่า 100 เครื่อง น่าจะมีวิธีการกรองคนได้อยู่แล้ว ใช้ PSN ยืนยันตัวคนซื้อ, ยืนยันว่าได้คนละเครื่องจริงๆ คิดว่าถ้าคิดจะขายโดยแคร์ลูกค้าคนเล่นเกมจริงๆทำได้แหละครับ
ร้านที่ผมเป็นลูกค้าประจำเปิดจองแต่ละรอบก็ให้ลงชื่อแล้ว Gacha ชื่อเอา ก็ดูทุกคน Happy นะครับ ไม่ได้ก็ถือว่าดวงไม่ถึง แฟร์ดี
ส่วน Nadz ผมไม่ได้เป็นลูกค้านานแล้ว เห็นเปิด Pre-order ทุกรอบก็เห็นคนบ่นในช่อง comment กันตรึม
ไม่ได้บอกว่าระบบกันมันห่วยครับ
แต่ที่จะสื่อ ระบบห่วย มันกันบอทได้ เพราะ สุดท้าย บ.ต้องรับผิดชอบลูกค้าเอง หรือต้องจัดสรร คนมาดูแลออเดอร์อีกที
ฮ่าๆๆๆ คำมันกำกวมน่ะ
ต้องบอกว่า "ระบบห่วยเป็นเครื่องกันบอทในตัวของมันเอง" จริงๆ แล้วมันกันทุกอย่างนะ กันซื้อสำเร็จด้วย
จริง
พวกระบบห่วยๆ อย่างจุดชีวิตนี่ แทบไม่มีปัญหา bot เลย
คนธรรมดายังซื้อยาก
จริงครับ ผมก็แย่งบอทซื้อได้เพราะเว็บล่มนี่แหล่ะ เอาคนมารันคิวหลังบ้านเลยได้ไป ไม่งั้นนี่แทบไม่ต้องหวัง
ปัญหาจริงๆ คือเครื่องขาดตลาด จากอุปกรณ์ที่โดนผลกระทบจากโควิด ทั้งโรงงานผลิตชิปก็ไม่พอ แค่นั้นเอง
ปัญหาอีกข้อของ ps5 คือ feature ที่มันเล่น ps4 ได้นี่แหละ จนทำให้แม้ตอนนี้ยังแทบไม่มีเกม ps5 ดังๆ คนก็ยังต้องการซื้อไปเล่นเกม ps4
ก็สมัย ps4 พี่เล่น ต่อให้ใส่ ssd แต่สปีด ได้ราวๆ sata2
flash storage ตอนนั้น เอาที่ใหญ่พอน่าจะแพงบรรลัยเลยครับ
ใช้รอมคาร์ทริดจ์สิ ไม่ต้องรอโหลด เรียกใช้งานได้เลย
NSW ก็ใช้รอมคาร์ทริดจ์นะครับ และก็ต้องรอโหลดเหมือนกัน ต่างกันแค่แทบไม่ต้องรอ install ลงเครื่องและขนาดเล็กกว่าแผ่น bd แต่ต้นทุนต่อ 1 copy แพงกว่า
เอาจริง ๆ ทั้ง 2 ทาง (m.2 กับแบบ proprietary) มันมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปครับ
ถ้าซื้อง่ายกว่า จะเป็น m.2 แถมมีหลากหลายราคา แต่มันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าอันไหนใช้งานได้ดีกับ PS5 แต่ขณะเดียวกัน บน XSX/S มันแพงกว่า แถมตัวเลือกจำกัด แต่รับประกันว่า เสียบปั๊ป ใช้ได้ 100%
มันดีทั้งคู่ แต่จะให้น้ำหนักอันไหนสูงกว่าก็ต้องว่าไปตามกรณี
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จากสองความคิดเห็นด้านบน
อืม นิยาม รอมคาร์ทริดจ์ ของสมัยก่อน กับสมัยนี้มันต่างกันจริง ๆ
How Nintendo Stopped Bootleg Games on the Nintendo 64 | MVG
Edit: พลาดแฮะ ลืมคิดเรื่องพัฒนาการของ ROM มันหยุดไปแล้วพอดี (Flash Storage พยายามกลับขึ้นไป north-bridge อยู่ตอนนี้) ตอนนี้ ทุกอย่างมันไม่ได้ติดต่อกันโดยตรง (บน unified address space) เหมือนฮาร์ดแวร์ยุคเก่า ต้องทำผ่าน control unit กลางทั้งหมดแล้ว
ดูช่องเดียวกันอีก ...
สมัยก่อน NES, SNES, N64 ROM Bank นึงได้ max สุดกี่ KB ไม่รู้ผมจำไม่ได้แล้ว ที่รอดมาได้เพราะ มันมี Chip ที่ทำ Bank Swith กลางทางได้ทีหลัง แล้ว Hardware ส่วนหนึ่งอยู่ในตลับไส่เพิ่ม spec ทีหลังได้ คือ Switch จาก Bank 1,2,3,4 แต่ก็ได้ทีละ Bank ถามว่ามี loading มั้ย ? ตอบว่ามี นึกถึง Zelda 1 หรือ Rockman 1 NES ตอนเปลี่ยน Screen มันจะค้างแป๊บนึงแล้วเปลี่ยนฉาก นั่นแหละ ROM loading
ถ้าเป็นยุค CD-Rom จริงๆ PlayStation 1 เห็น CD ความจุเยอะ ตัวเกมส์ ฉากนึงก็ได้ไม่เกิน 2MB นะ ที่เหลือ Audio หรือ Movie เปลี่ยนฉากที่ก็ คลืดดดดด คลาดดดด คลืดดด คลดาดดด (หนักๆ ก็คว่ำเครื่องช่วยเอา พอใหว)
มีใครเทียบ performance ssd ของ ps5 กับ xbox ไหม
https://www.youtube.com/watch?v=0quHGVRZMkA&t=288s