เมื่อกลางปีนี้ TCL เปิดตัวสมาร์ททีวีรุ่นกลางที่เปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV คือ 5-Series และ 6-Series แทนทีวีรุ่นเดิมที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Roku TV
แต่การเปลี่ยนผ่านมาสู่ระบบปฏิบัติการใหม่กลับไม่ใช่เรื่องง่าย ล่าสุด TCL ต้องหยุดขายทีวีสองรุ่นนี้ชั่วคราว หลังจากร้าน Best Buy ซึ่งเป็นผู้ขายทีวีของ TCL เพียงรายเดียวในสหรัฐพบว่าลูกค้าที่ซื้อไปแล้วเจอปัญหามากมาย ทั้งเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน และบั๊กอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาซอฟต์แวร์ทั้งสิ้น
โฆษกของ TCL ให้ข้อมูลกับ 9to5google ว่าบริษัทกำลังเร่งแก้ปัญหาซอฟต์แวร์อยู่ โดยจะออกอัพเดตให้ผู้ใช้เดิมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และจะกลับไปขายทีวีสองรุ่นนี้กับ Best Buy ต่อด้วยเช่นกัน
ที่มา - 9to5google
Comments
อาถรรพ์ Google TV มันแรงจริง ๆ 555
ขนาด Sony รุ่น 2-3 ปีที่แล้ว แสนกว่าบาท ช้าจนหงุดหงิด
ต้องซื้อ shield tv pro มาใช้
ผมก็เพิ่งซื้อทีวีค่ายญี่ปุ่นมาใหม่หมื่นห้านิด ๆ ช้ามากตอนเปิดเครื่อง พอเปิดเสร็จกดรีโมทช้าแบบว่าคำสั่งแรกกว่ามันจะทำงานชวนนึกถึงสมัยแอนดรอยด์ 2.3 นู่นเลย
ตอนแรกคิดว่าไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องช้า คาดไว้ก่อนแล้วว่ามันช้าแน่นอนก่อนซื้อเพราะไม่ใช่ตัวท็อป เนื่องจากซื้อมาต่อกับกล่อง Apple TV แต่เจ้ากรรมเนื่องด้วยไม่เคยใช้ Android TV ที่ฝังมากับเครื่องแบบนี้ เจอปัญหานึงก็คือ เปิดเครื่องปุ๊บไม่เข้าหน้า HDMI (Apple TV) ได้แบบสมาร์ททีวีเครื่องเก่า เปิดเครื่องต้องรอให้มันบูทแอนดรอยด์ให้เสร็จก่อน แล้วกว่าจะพร้อมให้กดรีโมททำงานเพื่อเลือกแหล่งข้อมูล HDMI กินเวลาไปหลายนาที แต่รู้สึกเหมือนครึ่งชั่วโมง
แต่พอเห็นว่าเครื่องของคุณราคาแสนกว่าค่อยสบายใจหน่อย 555
แนะนำให้ปิด Standby เฉยๆ ไม่ต้องถอดปลั๊กครับ
หรือถ้าเสียบปลั๊กแล้ว อย่าพึ่งรีบเปิดครับ รอซัก 2-3 นาที มันจะ Boot ตัวเองในโหมด Background ครับ เมื่อระบบพร้อมแล้ว จะสามารถเรียก HDMI CEC และ Switch Source ให้เองตามปกติครับ
Bravia ผมก็ปิดแบบนี้เช่นกันครับ 3-4 ปีแล้วครับ
ฺBravia ผม ไม่ต้องถอดปลั๊ก แค่ Stand by แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ มันก็บูทใหม่ 55555
มีช่วงนึงที่ผมเปิดทีวีค้างไว้เลยเพราะขี้เกียจรอครับ
(แต่ของผมรุ่นเก่ามากครับ ก่อนหน้า Sony เปลี่ยนมาใช้ Android)
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
แนะนำให้ปิด Standby เฉยๆ ไม่ต้องถอดปลั๊กครับ
- เวลาอยู่บ้านก็ทำแบบนี้ครับ แต่เวลาออกไปนอกบ้านกลัวเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้อะไรแบบนนี้
หรือถ้าเสียบปลั๊กแล้ว อย่าพึ่งรีบเปิดครับ รอซัก 2-3 นาที มันจะ Boot ตัวเองในโหมด Background ครับ เมื่อระบบพร้อมแล้ว จะสามารถเรียก HDMI CEC และ Switch Source ให้เองตามปกติครับ
- ลองแล้วนะครับ (แอบลุ้นเล็กน้อย) ผลลัพธ์คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คือ เปิดมาค้างที่โลโก้แบรนด์ ตามด้วยแอนิมชั่นบูทแอนดรอยด์ แล้วก็เข้าหน้าโฮมแอนดรอยด์ปกติ ต้องกดเลือก HDMI อีกอยู่ดี?
น่าจะยัง Boot ไม่เสร็จหรือเปล่า ลองทิ้งไว้นานกว่านี้หรือยังครับ
ว่าแต่ทีวีรุ่นอะไรครับ ปกติของ Sony เสียบปลั๊กแล้วมัน Boot รอใน Background เลยครับ
ปล.ปกติพวก Smart TV ผมจะต่อหลัง UPS ด้วยครับ เอาไว้ป้องกัน Surge ถ้าออกนอกบ้าน 4-5 วันขึ้นไปถึงจะปิด UPS ครับ
นานครับ / Toshiba ครับ
https://www.th.toshiba-visual.com/43c350kp/
ทำได้แล้วนะครับ ที่เปิดเครื่องขึ้นมาบูทเสร็จแล้วเข้าหน้า source hdmi เลย (apple tv) ด้วยการเชื่อมต่อลำโพงซาวบาร์ด้วยสายออปติคอล ถ้าเสียบลำโพงด้วย hdmi arc บูทขึ้นมาจะเข้าหน้าโฮมแอนดรอยด์ปกติ (แปลกดีแท้) ถือว่าเซฟเวลาได้ดี รู้สึกเร็วขึ้นใช้รีโมททีวีแค่ตอนเปิดเครื่อง ข้อเสียคือต้องใช้รีโมทซาวบาร์ด้วย และเวลาเร่ง หรือลดเสียงไม่มีบอกว่าระดับเสียงที่เท่าไหร่ และต้องปิดลำโพงทีวีไม่เช่นเสียงออกทั้งทีวีและซาวบาร์ เสียงไม่พร้อมกันด้วยดีเลย์นิดนึงพอรู้ว่ามาจากคนละแหล่ง
อีกเครื่องในห้องนอน ประมาณ 4หมื่น ยี่ห้อเดียวกันแต่ 3-4ปีแล้ว
เปิดหน้า Home ครึ่งนาที ต่อเน็ต1นาที เปิดYoutube จะแล็คประมาณ 2-3 นาที แรก เปลี่ยนแอพที กว่าภาพจะเคลื่อน แทบขาดใจ ?
แต่ก็ทนๆใช้ไป ไม่อยากเสียตังซื้ออะไรเพิ่ม ?
ก็ขยันซื้อกันเข้าไป CPU Mediatek บน Smart TV เนี่ย
ผมเข็ดกับพวกแอนดรอยด์ฝังเครื่อง เพราะเคยใช้ TCL นี่แหละ
ซื้อ TV ปกติตอบสนองเร็วๆ แล้วต่อกล่องเอาดีกว่า
ต่อไปนี้ถ้าซื้อ ผมเน้นภาพสวยอย่างเดียว
แล้วเอาตังค์แบ่งไปซื้อกล่อง ?
พึ่งได้ KD65X9500H ไม่รุ้สึกว่าช้านะ ...
ใช้รุ่นคล้ายๆกัน Sony KD65X9000H มายืนยันอีกเสียงว่า ไม่ช้า ไม่หน่วงเลย
เสียอย่างเดียวให้ ROM มาน้อยไปหน่อย ลง App เยอะๆไม่ได้ ลงเกมสำหรับ Android TV เยอะๆไม่ได้
ใช้ Mi TV ไม่ได้ช้า แต่ปัญหาเยอะจริง ไม่รู้เป็นที่ทีวีหรือ Software บางทีก็ Standby แล้วเปิดไม่ติด ต้องรีบูท บางครั้งเปิดขึ้นมา Refresh rate เปลี่ยนเป็น 4K30 ต้องถอด HDMI เสียบใหม่ (เสียบกับโนตบุค) บางครั้งก็ เปิดมา เจอ MAX Backlight แบบปรับลงไม่ได้ ต้องรีบูท
แถม Standby กินไฟสุด ๆ ตั้ง 30W เดือนตั้งเกือบร้อยแน่ะ ทีวีปกติ 1-2 W เอง จะถอดปลั๊กทุกครั้งที่ไม่ใช้ก็บูทช้ามากกกก
บ่น ๆ ๆ
เห็นหลายท่านคอมเมนท์แล้ว รู้สึกไม่อยากใช้ทีวีฝัง android เลยครับ 55 กด-เปิดทีต้องรอทุกอย่าง เอาแค่กดเปลี่ยนช่องแล้วช้า
ผมยังหงุดหงิด? ...ใช้แค่ Smart TV ต่อไป 555
LG: เรามี WebOS นะเออ
แนะนำใช้ WebOS ครับ ใช้มา 7 ปี ยังดีอยู่
พวก Android TV นี่น่าจะมีโหมดที่แบบว่าใช้เป็นจอภาพอย่างเดียวบ้าง เปิดเครื่องแต่ละทีทรมานจะขาดใจ รอลูกกลม ๆ วิ่งกระโดดไปกระโดดมา แถมบูทเสร็จกว่าจะพร้อมใช้งาน
ถามชาว WebOS กับชาว Tizen หากถอดปลั๊กทีวีสามารถเปิดมาโหมด HDMI อัตโนมัติมั้ยครับ เคยมี Smart TV LG ตัวก่อนที่จะเป็น WebOS เปิดมาก็เข้าโหมด HDMI ให้เหมือนตอนปิดเครื่องถอดปลั๊กเลย
ผมใช้ LG OLED B8 เปิด Stanby Mode ทิ้งไว้ ถ้าเปิดเครื่องมาใหม่ มันจะเด้งเข้า ช่องHDMIที่มีสัญญาณทันที ถ้ามีสัญญาณหลายๆช่องก็จะเข้าช่องเก่าที่ใช้งานล่าสุดครับ
ใช้ LG WEB OS ไม่มีปัญหาเลย ใช้มา3ปีแล้วยังลื่นอยู่เลย แต่คงไม่ถูกใจคนที่จะใช้แอปเยอะๆ ผมขอแค่มี Netflix Youtube VIU iQUIYI Amazon Prime ก็พอแล้ว
เป็นที่ h/w ด้วยหรือป่าวครับ
จริงๆ TV ไม่ค่อยบอก spec พวกนี้เท่าไหร่ (หรือผมไม่คิดจะดูเองเหมือนพวก มือถือกันนะ)
บางทีถ้าเป็น snap888 UFS3.1 อะไรพวกนี้ อาจจะไวก็ได้
ผมว่าเกี่ยวนะ
ชิปในทีวีส่วนใหญ่ใช้ mediatek กัน คอร์ ARM ล่างๆ เลย A53 4 cores ไรงี้ แต่มันจะมีตัวถอดรหัสวิดีโอใหม่ๆ เพียบอย่าง HEVC. VC-1, VP8, VP9, AV1 ได้ถึง 4K 60Hz
OS ก็คงมีส่วนด้วย ผมใช้ LG WebOS ก็ดีนะ
ผมเพิ่งซื้อ TCL C725 มาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ก็ไม่ได้รู้สึกช้าจนน่าหงุดหงิดใจนะครับ เป็น android tv 11 แต่ถ้าเทียบกับ LG ตัวเก่าที่เป็น webos ก็ช้าแหละ ?
ใช้ LG แล้วต่อ TV Stick ของ Android เอาไว้ดู Disney+ Hotstar ชีวิตสบายขึ้นเยอะ เปิดแป็บเดียว พวกหาให้หมดทั้งช่อง HDMI ที่ต่อ Stand by หรือเครื่องเสียงที่ต่อ Bluetooth ไว้ แถมถ้าเสียบ stick ไว้ มันจะจัดการให้เสร็จสรรพ ซ่อนเมนูของ WebOS เหมือนเป็น TV Android พร้อมใช้เลย เสียอย่างเดียว app น้อยไปหน่อย ตอนแรกก็ซื้อตามรีวิวนะ พอใช้เอง เออบางทีไม่ต้องล้ำมาก แต่ใช้งานสะดวกมันก็ดีเหมือนกัน ถถถถ ....
เหมือนจะมีผมคนเดียวที่ใช้ Nintendo Switch เป็นมีเดียเซ็นเตอร์ (ฮา)
คงเพราะใช้ดูแต่ Youtube 555
ดูจากคอมเม้นเหมือนต้องเลี่ยงๆ Android TV เลย
ที่บ้านมี Lg WebOS เก่าๆ เปิดเครื่องดูได้เลยไม่ต้องรอ เหมือนทีวีปกติเลย
บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ใส่ Spec ให้ทำงานได้ลื่นๆ ไปเลย เหมือนที่อัดลงไปในมือถือ ทั้งแรมและ SoC ที่จะต้องใช้งานได้หลายๆ ปี และยังได้รับการ Update จากทางผู้ผลิตด้วย ในเมื่อมีการสั่ง Chip และอะไหล่ต่างๆ แบบเหมาจ่ายที่ต้นทุนค่อนข้างถูก อยู่แล้วด้วย
แบบนี้ไปหาซื้อ PC Monitor จอใหญ่ๆ หรือ TV แบบที่ไม่มี Smart TV มาให้ แล้วไปซื้อ PC Dongle หรือ Set-top box มาติดตั้งแยกยังจะดีกว่า แถมราคาถูกกว่าด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คงเป็นเพราะอยากให้อายุการใช้งานของทีวีไม่นานเกินไป