ถ้ายังจำกันได้ Seagate เคยมีข่าวปลดพนักงานในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ในวันนี้ดูเหมือนสถานการณ์นี้จะยังไม่จบ โดย Seagate ได้เปิดเผยว่าเตรียมตัวที่จะเลิกจ้างพนักงาน และปิดโรงงานที่อยู่ในสิงคโปร์ครับ
การปิดโรงงานในสิงคโปร์นั้นจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของ Seagate ได้กว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัทในช่วงเวลาเศรษฐกิจตกต่ำในขณะนี้ โดยโฆษกของ Seagate ได้เผยว่าสายการผลิตที่อยู่ในสิงคโปร์นั้นจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแทน (ได้แก่มาเลเซีย จีน และแน่นอนว่าในไทยด้วย) นอกจากนี้ Seagate ยังจะเลิกจ้างพนักงานที่ทำงานอยู่เดิมกว่า 2,000 คนซึ่งถือเป็น 2.5% ของพนักงานทั่วโลกที่ทำงานกับบริษัทอีกด้วย
ที่มา: Reuters via PC Magazine
Comments
อย่าปิดโรงงานในไทยนะ
ชอบจริงๆ เห็นฉลาก HDD แล้วเขียนว่า Assembled in Thailand หรืออะไรประมาณนี้ ^^
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
+1 ครับ.. ภูมิใจที่ได้ใช้ของผลิตในไทย.. แต่ถ้าเป็นของคนไทยทำด้วยจะดีใจมากกว่า อิอิ
หายากนะคนคิดแบบนี้ ไม่งั้น SVOA คงดังระเบิดไปแล้ว ขนาดแค่เอาของเขามาประกอบเป็นแบรนด์เนมตัวเองนะ ถ้าทำเองทั้งหมดคงถึงกับเจ๊งโดยไว...
เอ หรือผมมองโลกในแง่ร้ายไปหว่า?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่าถ้าตอนนี้มีคนคิดจะทำยี่ห้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติขึ้นมาจริงๆ ก็น่าจะไปได้อยู่นะครับ ความคิดเรื่องชาตินิยมตอนนี้มันแรงกว่าเดิมพอควรทีเดียว ที่สำคัญคือเราจะหานักการตลาดมือทองได้สักเท่าไหร่ และรัฐบาลสนับสนุนมากแค่ไหนด้วย
จริงๆอยากให้มี ผมไม่เชื่อว่าสินค้าไทยทำคุณภาพด้อยกว่าจีนแน่ๆ แต่ก็อยากให้ไทยมี R&D ในส่วนนี้ด้วย (เราส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตั้งมากมายแต่กลับไม่มีอุตสาหกรรมต่อยอด น่าเจ็บใจไหม?)
ผมก็ไม่เชื่อว่าไทยทำไม่ได้ครับ (ก็หลายๆอย่างตอนนี้ก็ไทยทำทั้งนั้น เพียงแต่เขียนว่า made in Thailand แล้วขายไม่ออก) อย่าง SVOA ที่ผมยกตัวอย่างมา ผมก็รู้ทั้งรู้ว่าข้างในมันเหมือนกันนั่นแหละ (ชิ้นส่วนมาจากทั่วโลก หรือไม่ก็มาจากแถวๆนี้ทั้งนั้น) แต่ผมก็ยังไม่กล้าซื้อมันอยู่ดี นั่นก็เพราะเหตุผลหลายๆอย่างอย่างที่คุณกล่าวมาด้วย การตลาดอาจยังไม่ดีพอ ประชาสัมพันธ์ยังไม่ถึง และที่สำคัญที่สุดคือบริการ และชุมชนที่แข็งแกร่ง
ผมเคยคิดจะัซื้อ SVOA ซักเครื่อง เพราะมันถูกกว่าแบรนด์เนมอื่นหลายตังค์ แต่พอพยายามหาข้อมูล มันแทบจะหาไม่ได้เอาเสียเลย อารมณ์เหมือนจะซื้อมือถือซักเครื่องที่มันไม่ดัง พอจะหาข้อมูลซักหน่อยว่ามีคนใช้แล้วมีปัญหาอะไรมั้ย แบตอึดมั้ย ถ่ายรูปชัดมั้ย ลำโพงชัดมั้ย หูฟังห่วยมั้ย บริการหลังการขายเป็นยังไง (อันนี้สำคัญมาก) ซึ่งข้อมูลแนวนี้มันเขียนในเวบผู้ผลิตไม่ได้อยู่แล้่ว แต่ผมหาข้อมูลแทบไม่ได้เลย สุดท้ายมันก็มาจบที่ยี่ห้อดังๆที่มีชุมชนเยอะแยะกว่าอยู่ดี เพราะของพวกนี้ราคามันไม่ได้ถูกๆ (สำหรับผม) นั่นเอง ถ้าถูกๆผมก็จะเสี่ยงซื้อมาอยู่หรอก (เช่นมือถือของ PhoneOne ที่ทนใช้อยู่ขณะนี้ เมื่อไหร่มันจะครบปีซักทีหนอ T^T)
คิดไปคิดมาก็เข้าข่ายปัญหางูกินหางของโอเพ่นซอร์สเลยแฮะ อยากใช้แต่ใช้ไม่เป็น จะหาข้อมูลก็มีชุมชนน้อยกว่า (ซึ่งตอนนี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้ว น่าดีใจมากๆ ^^) สุดท้ายมันก็อาจขึ้นอยู่กับเวลาก็เป็นได้
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
รู้สึกเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน WD สั่งเพิ่มอัตราจ้างในเมืองไทยอีก 5000 คนรึเปล่า จำไม่ได้
Follow @toandthen
@TonsTweetings
มีโรงงานในสิงคโปรด้วยเหรอ ค่าที่กับแรงงานน่าจะแพงมากเลยนะ อันนี้ไม่รู้เหมือนกันเดาเอา
แต่ถ้าแพงจริง ทำไมถึงไปตั้งที่สิงคโปรตั้งแต่ตอนแรกล่ะ
ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกว่าที่สิงคโปรสร้างมาก่อนไทยนะ
แต่ก่อนแรงงานที่สิงคโปร์ พร้อมกว่าไทยเยอะครับ
ดูเหมือนจะเป็นข่าวดีต่อไทยนะครับเนี่ย สร้างงานขึ้นอีก
~@Junior Programmer@~
เห็นเพื่อนบอกซีเกตที่โคราชยังรับคนอยู่นะ
แปลกแฮะ ผมไม่เห็นจะภูมิใจใดๆเลย ที่สถานการณ์พามาจนถึง การลงเอย แบบวันนี้
ผมรู้สึกว่าเราหลอกตัวเองมากว่า ยิ่งบอกว่าต้องมองโลกในแง่ดี ผมว่ายิ่งไปกันใหญ่
ง่ะ
ผมว่าจะไปฝึกงาน ที่ WD อะ เห็นข่าวประมาณนี้แล้วหวั่นๆ
ไปสัมภาษณ์งานที่ซีเกตโคราชเดือนที่แล้ว จนป่านนี้ยังไม่เรียกเลยครับ ชักรู้สึกว่าบริษัทนี้ไม่มั่นคงซะแล้วสิ