เมืองเซินเจิ้นประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ (ถึงวันที่ 20 มีนาคม) หลังพบผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มขึ้น เป็น 60 ราย จากประชากร 17 ล้านคน ส่งผลให้โรงงานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากต้องหยุดสายการผลิตไปด้วย
การล็อกดาวน์ครั้งนี้เป็นการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทางการปิดบริการขนส่งมวลชนแทบทั้งหมด และห้ามคนเดินทางเข้าออกจากเมือง
โรงงานที่กระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีที่เป็นที่รู้จัก เช่นโรงงาน Foxconn ใน Longhua Science & Technology Park พื้นที่ 3 ตารางกิโลเมตร และมีพนักงานมากกว่าสองแสนคน (Foxconn ใช้ชื่อในจีนว่า Hon Hai Precision)
ที่มา - Japan Times
ภาพโรงงาน Foxconn เมื่อปี 2011 โดย Nadkachna
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ไม่ได้ยินข่าวจีนล็อคดาวน์เมืองตั้งแต่ปลายปี 2020 แล้ว แปลว่าสายพันธุ์ล่าสุดน่าจะหนักจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เอาที่จริงคือมีล็อคดาวน์เรื่อยๆ ทีละเมืองสองเมืองตลอดปี 2021 แหละครับ แต่มันไม่ได้เป็นข่าวใหญ่เท่าเสิ่นเจิ้นข่าวนี้
ขอโทษครับ พอดี comment ผิดที่
เค้าล็อคดาวน์แทบจะทุกอาทิตย์ครับ แค่คนไม่สนใจแล้ว เพราะนโยบาย zero COVID
นานๆ จะมีข่าวออกมาครับ ปกปิดเยอะตั้งแต่ยอดผู้ป่วย ยอดคนฉีดวัคซีนก็ไม่แจ้งละครับ
โรงงานที่ผลิตสินค้าให้บริษัทผม โดนตรวจเจอคนติด 1-2 คนก็สั่งปิดชั่วคราวแล้วครับ (จากคนงานทั้งหมดเกือบหมื่นคน)
ปวดกบาลมากตอนนี้
นโยบายเบื้องบนสั่งมาก็ต้องทำตามแหล่ะครับ การทำนายโรคระบาดขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐ บางรัฐประเมินจากจำนวน บางรัฐประเมินจากความรุนแรง และมาตรการสาธารณะสุขว่ารองรับไหวไหม ซึ่งไม่มีถูกหรือผิด เพราะมันขึ้นอยู่กับบริบทของสภาพแวดล้อมแต่ละประเทศ ป่วยเยอะ คนตายน้อย ผู้ป่วยหนักน้อย อาจจะเปิดประเทศ ยกเลิกทุกมาตรการเลยก็ได้ถ้าประเทศนั้นมีประชากรไม่มาก และมีระบบสาธารณสุขที่ดี ในทางกลับกันในประเทศที่ประชากรเยอะ ระบบสาธารณะสุขตึงตัว สภาวะเดียวกันอาจต้องใช้มาตรการปิดเมือง
เค้าล็อคดาวน์ได้บ้าดีเดือดมากครับ
เห็นบอกว่าห้ามออกจากอพาร์ทเมนท์เลย
มีคนเอา มือถือ, nintendo switch, ฯลฯ ไปแลกอาหารกันด้วย
https://sg.news.yahoo.com/nintendo-switch-noodles-residents-under-145000271.html
60 คน ล็อกดาวน์ อันนี้ สองหมื่น จะผ่อนคลาย
รอดูว่านโยบาย Zero COVID ของจีนจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการย้ายฐานการผลิตไหม
อาจเป็นไปได้ถ้าจีนมียารักษาแบบเม็ด เหมือนที่ pfizer เริ่มเอามาใช้คู่กับฟาวิพิราเวียร์ แล้วลดความรุนแรงจากโรคระบาดเป็นโรคตามฤดูกาลแทน
หรือเอายาเม็ด pfizer เนี่ยและ ซื้อยกชุด แล้วเอามาบดก่อนเทใส่ในเครื่องดื่มและอาหารที่ขายในจีนไปเลย กินแล้วได้แก้โควิดไปในตัว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ไม่น่าเป็นผลดีครับ ยาฆ่าเชื้อถ้าไม่จ่ายแบบควบคุม ใช้เฉพาะที่จำเป็น มีโอกาสที่เชื้อดื้อยาได้ ยาเดิมใช้รักษาไม่ได้
คนงานได้ค่าจ้างอยู่ไหมเนี่ย
จะ Zero ได้นานขนาดไหนเชียว สุดท้ายต้องเปิดประเทศไม่ก็ส่งคนเข้าออกประเทศ จะแพร่ไปมาอยู่ดีนะ
จีน นี้ถ้าเจอปิดเมืองจริงจังมาก
เคยอ่านบทความว่า การแพร่ง่ายระดับ Omicron นี่ ไม่สามารถทำ zero case ได้
ดูกันต่อไปว่าจะจริงมั๊ย? ที่สำคัญคุ้มรึเปล่า?
เพราะใช้แต่วัคซีนเชื้อตายยี่ห้อMade In China ไม่ยอมซื้อวัคซีนMRNAจากต่างประเทศมาใช้เพราะอะไรก็ไม่รู้(ยังรอMRNAเวอชั่นMade In Chinaอยู่ ซึ่งยังไม่มาซักที) เลยต้องดูแลดีๆหน่อย
ไม่เหมือนเวียดนาม เกาหลีใต้ ที่ก่อนหน้านี้ควบคุมดูแลได้ดีที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ตรวจเจอระดับ150-200Kต่อวัน เนื่องจากฉีดวัคซีนMRNAในสัดส่วนสูง จึงไม่สนใจแล้ว ภายในประเทศเปิดกันเต็มที่ ส่วนชาวต่างชาติก็เตรียมเปิดประเทศให้เข้ากันมากันแล้ว
เห็นข่าวจับกับ Pfizer มีชื่อใหม่อารมณ์ OEM วัคซีนไป ไม่รู้ฉีดกันเปล่า
มีข่าวเอกชนจับมือกับ Pfizer ตั้งแต่ต้นปี2021แล้วครับ แต่ทางการจีนยังไม่ยอมอนุมติให้ใช้จริง คนก็เลยเดาว่าคงรอMRNAของจีนเองเสร็จแล้วใช้
เดาว่า อุปกรณ์พวกมือถือ tablet จะขาดก่อน แล้วเดี๋ยวพวก silicon น่าจะหนัดตามมา
สรุปซื้อของปีนี้จะได้ของแพวกว่าปกติ ไม่ก็ feature แย่กว่าปกติ
อันนี้ ถือเป็นเรื่องหายนะระดับโลกเลยนะคุณ ไม่ใช่เล่น ๆ
ในเสินเจิ้น ไม่ได้มีแค่อุตสาหกรรม IT อย่างเดียวนะ
อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดตรวจ เครื่องมือต่าง ๆ รวมทั้งบริษัทเครื่องมือแพทย์อันดับ 1 ของจีน และอันดับรอง ๆ ลงมาก็ตั้งอยู่ในเมืองนี้
แค่ช่วงที่ผ่านมา ล็อคโรงงานแค่ไม่กี่โรง ก็กระทบไปทั่วโลกแล้ว
คราวนี้ล็อคทั้งเมือง สาหัสไปทั่วโลกแน่่ ๆ
คราวนี้ จะได้เห็นแล้ว ว่าจริง ๆ จีนสำคัญกับโลกระดับไหน
ก็เพราะแบบนี้ไง หลายๆ บริษัทในช่วงที่มีสงครามการค้า ถึงเริ่มหันมาหาประเทศทางเลือกในการหาวัตถุดิบ แร่ธาตุ และการตั้งโรงงานผลิตสินค้าเนี่ยแหละ หรือแม้แต่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ และประเทศข้างเคียง แม้ว่าอัตราค่าแรงและสวัสดิการจะสูงกว่าในจีน เพื่อลดการพึ่งพาจีนเพียงอย่างเดียวเท่าที่จะทำได้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แต่แร่ที่ใช้ในการผลิดต่างๆ อยู่ในจีนเยอะกว่านิ