Netflix เผยสถิติของปุ่ม Skip Intro ที่ใช้กดข้ามฉากหรือเพลงเปิดตอนของซีรีส์ ว่าหลังเริ่มใช้มา 5 ปี มีคนกดไปแล้ว 136 ล้านครั้ง ช่วยประหยัดเวลาลงได้ 195 ปี
Netflix ยังเล่าเบื้องหลังของปุ่ม Skip Intro ว่าเริ่มจากการคิดปุ่มถอยหลัง 10 วินาที และปุ่มข้าม 10 วินาที กรณีของปุ่มถอยหลังมีประโยชน์จับต้องได้ชัดเจนคือย้อนดูฉากที่ดูไม่ทัน แต่ปุ่มข้ามนั้นไม่มีใครอธิบายได้ว่ามีไว้ทำไม นอกจากใช้กดข้ามฉากเปิดเรื่อง
Cameron Johnson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของ Netflix เล่าว่าเขามีปัญหากับการดูซีรีส์ Game of Thrones ที่เพลงเปิดเรื่องยาว จึงอยากข้ามไปดูเนื้อหาในตอนทันที แต่การเลื่อนแถบเลื่อนให้ตรงกับจุดเริ่มต้นเนื้อหาเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก บางครั้งข้ามยาวเกินไป บางครั้งข้ามสั้นเกินไป จึงเป็นไอเดียให้ทีม Netflix ลองหาสถิติมาวิเคราะห์ และพบว่า 15% ของการเลื่อนฉากเกิดขึ้นในช่วง 5 นาทีแรกของเนื้อหา ตีความได้ว่าคนจำนวนมากต้องการข้ามเพลงเริ่มเรื่อง
Netflix จึงตัดสินใจทำปุ่ม Skip Intro มาแก้ปัญหานี้อย่างเจาะจง โดยกำหนดเป้าว่าต้องใช้ง่ายที่สุด ผลจึงออกมาเป็นปุ่ม Skip Intro ที่โชว์ขึ้นเฉพาะตอนเพลงขึ้นเท่านั้น และกดครั้งเดียวข้ามได้เลย
ข้อความบนปุ่มถือเป็นอีกประเด็นที่ต้องตัดสนใจ ตัวเลือกมีทั้ง ‘Jump Past Credits,’ ‘Skip Credits,’ ‘Jump Ahead,’ ‘Skip Intro’, ‘Skip’ ซึ่งทีมพัฒนาต้องลองทดสอบกับผู้ใช้ว่าชอบแบบไหน รวมถึงทดลองกับซีรีส์บางเรื่องก่อนในบางประเทศเท่านั้น
Netflix เพิ่มปุ่มนี้เข้ามาในปี 2017 และผลคือประสบความสำเร็จอย่างสูง
whoever invented the “skip intro” button at netflix deserves the highest accolade we as a society can bestow upon a citizen and it still wouldn’t be enough
— Matt Bellassai (@MattBellassai) March 11, 2018
ที่มา - Netflix
Comments
ชอบแบบของ bilibili ไม่ต้องกด อันนี้น่าจะ user friendly สุด 55
+1 ครับ วางมือเฉยๆ ได้เลยย
สอบถามหน่อยครับ ทำไมตอนหลังของผมบางเรื่องก็ skip ให้ บางเรื่องก็ไม่ skip ไม่ทราบว่าเป็นเหมือนกันมั้ยครับ
เป็นครับ น่าจะ bug ถ้าดูแบบต่อเนื่องจะไม่ขึ้น
กับอีกอย่างบางเรื่องคงไม่ได้ set ไว้มั้ง
ผมกับแฟนนี่คือจะไม่กดปุ่มนี้เด็ดขาด รวมถึง end credit ก็จะต้องดูจนจบ ไม่ว่าเรื่องไหน เพราะเราคุยกันว่า เราต้องให้เกียรติคนทำ เค้าอุตส่าตั้งใจทำมา เราก็ต้องดูเพื่อให้เกียรติเค้า
ส่วน end credit คือ ไม่ว่าเค้าจะอยู่ในจุดไหน เค้าก็มีส่วนทำให้หนังหรือซีรีย์เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นมา
(แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ดูคือไม่ดีนะครับ แค่มาแชร์ความเห็นส่วนตัวเฉยๆ)
ซีรีส์ผมดูตอนช่วงแรกๆ กับ end credit ปิดท้ายซีซั่นเหมือนกันครับ บางทีไม่ใช่อะไร อินโทรเค้าเจ๋งดี ?
เข้าใจเรื่องการดูนะครับ แต่ถ้าเกิดตอนอื่น Intro มันซ้ำ ๆ ยังไงมันก็กดข้ามนะ เพราะผมดูไปแล้วไม่รู้จะนั่งดูซ้ำอีกเป็นสิบ ๆ รอบทำไม
เจอ opening ของอนิเมะนี่กดข้ามหมือนกัน ยาวตั้ง 1 นาที
แต่สำหรับเรื่อง jojo ไม่ควรกดข้าม มีความลับซ่อนอยู่
end credit ถ้าทำกราฟฟิคสวยๆ ผมดูจนจบ
เหมือนสมัยนี้เค้าไม่แคร์กันแล้วครับว่าใครเป็นคนทำอะไรตรงไหน
ส่วนตัวคิดว่าการดูของแท้ หรือของถูกลิขสิทธิ์เป็นการให้เกียรติแล้ว
ส่วน end credit ผู้บริโภคไม่ถึงกับต้องรอดู
มันน่าจะมีประโยชน์กับทีมผู้สร้างในการเป็น ref เป็น portfolio มากกว่า
คิดแบบนี้เหมือนกัน
เห็นด้วยเหมือนกันครับ การจ่ายเงินแบบถูกลิขสิทธิ์เพื่อดูผลงานของเค้าก็คือการให้เกียรติรูปแบบหนึ่ง
intro GOT ผมดูทุกครั้งเลย 5555 มันน่าดูจริงๆ
สำหรับผม การให้เกียรติคนทำ คือการเสียเงินเข้ามาดูแบบถูกลิขสิทธิ์ น่าจะเพียงพอแล้วครับ ผมกดข้ามตลอด
แต่อันนี้ก็แล้วแต่ละคนจะทำแบบไหนครับ
Game of Thrones ผมนี่ดูฉากเปิดทุกครั้งและก็ยังว้าวทุกๆครั้ง
ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะดูด้วยหลายๆสาเหตุ เช่น การพักอารมณ์เพราะการดูซ๊รีย์หลายๆตอนอย่างต่อเนื่องบางทีมันล้า การดูฉากปิด ฉากเปิด ก็ช่วยพักสายตา พักอารมณ์บ้าง หรือบางครั้งฉากเปิดบางเรื่องจะมี Easter Egg ซ่อนอยู่อันนี้ก็จะดูบ่อย หรืออีกประเภทคือแบบที่ฉากเปิดฉากปิด สวยงามหรือเพลงเพราะ เป็นต้น
Series ฝรั่ง ผมว่า op มันโอเคนะ เพราะไม่ยาวมาก เทียบกับตัวหนัง
อนิเมะนี่ 1 นาทีกว่าๆ แล้วอนิเมะมันประมาณ 20 นาที พอดูต่อกันหลายๆ ตอนบางทีมันก็ ซ้ำๆ
แต่รู้แหละ เมะบางเรื่องก็ชอบซ่อนโน่นนี่ไว้ใน op
Opening Credits ของ HBO Peacemaker ผมกดข้ามไม่ลงจริงๆ
ละครหลายเรื่องแบ่งเป็นตอน มีทั้งเพลงเปิด เพลงจบต้องมาคอยกดก้ไม่ไหว เห็นมีแอพหนึ่งกดข้ามให้เลย นอนดูยาวๆไป
“กรณีของปุ่มถอยหลังมีประโยชน์จับต้องได้ชัดเจนคือย้อนดูฉากที่ดูไม่ทัน แต่ปุ่มข้ามนั้นไม่มีใครอธิบายได้ว่ามีไว้ทำไม นอกจากใช้กดข้ามฉากเปิดเรื่อง”
ปุ่มข้าม 10 วินาทีมีประโยชน์นะครับ หนังบางเรื่องที่ผมดูแล้วรู้สึกมันยืดเยื้อเกินจำเป็นบางทีผมก็กดมัน เพื่อข้ามส่วนที่หน้าเบื่อแล้วเข้าประเด็นของหนังต่อเลย ที่เพิ่งดูเมื่อคืนแล้วได้ใช้ปุ่มนี้บ่อยมากก็เรื่อง Revenge (คับแค้น) หนังของ Netflix เองครับ รู้สึกหนังมีฉากยืดยาดเยอะเกินไปหน่อย
ถ้าภาพไม่ซ้ำ ก็ดูนะ เช่นพวกหนังโรง (ถ้าไม่ขึ้นจอดำ มีแต่รายชื่อนะ)
ส่วนใหญ่ (Series) จะข้าม เพราะมีแต่ภาพแบบเดิมๆ