คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรป (Committee on Economic and Monetary Affairs) ลงมติรับร่างกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินผ่านคริปโต
ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ ธุรกรรมคริปโตทุกรายการ ต้องมีข้อมูลของผู้ทำธุรกรรมเพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตามรอยได้ หากเป็นกรณีซื้อผ่านตัวกลางหรือ exchange ต้องทำ KYC ทั้งหมด รวมถึงกระเป๋าเงินส่วนตัว (unhosted หรือ self-hosted wallet) กฎหมายก็ระบุให้ต้องตามรอยเช่นกัน หากกฎหมายผ่านแล้ว หน่วยงานกำกับดูแลจะมีหน้าที่หาโซลูชันทางเทคนิคเพื่อให้ตามรอยได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้มีข้อยกเว้นให้การทำธุรกรรมแบบ P2P ระหว่างบุคคลโดยตรงที่ไม่ผ่านตัวกลาง
เดิมทีร่างกฎหมายฉบับนี้มีข้อยกเว้นให้ธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อยกว่า 1,000 ยูโร แต่สมาชิกกรรมาธิการลงมติยกเลิกข้อยกเว้นนี้ เท่ากับบังคับใช้ต่อทุกธุรกรรม ขั้นถัดไปร่างกฎหมายจะเข้ากระบวนการของสภายุโรป และน่าจะโหวตในที่ประชุมสภาช่วงเดือนเมษายนนี้
ที่มา - European Parliament, Coindesk, ภาพจาก European Parliament
Comments
มันจะขัดกับหลักสิทธิเสรีภาพหรือเปล่าหว่า เงินสดธรรมดาเอองก็ใช่ว่าจะตามรอยได้
คงต้องใช้เงินสดต่อ ถ้าไม่อยากให้ตามรอย แต่เงินสดใช่ว่าจะไม่ถูกตาม ถ้ารัฐจะตามจับก็พอมีช่องทางแบบในหนังมั้งครับ ฮ่าๆ
จริงเงิน คริปโตนี่ตามรอยกันตลอดอยู่นี่ครับแค่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ยิ่งผ่านตัวกลางก็ไม่ต่างไรจากธนาคารยังไงก็ตรวจได้ใครโอนไปไหนมาไหน
ถ้าโอนตรงจาก wallet เองก็เหมือนเงินสดปกติ แค่เห็นมันเดินทางไปหาใครแต่ไม่รู้ว่าของใคร
ส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้ตามรอยมากไปกว่าเงินปกตินะครับ? ธุรกรรมออนไลน์ทุกรายการที่ผ่านตัวกลางมันก็ตามได้ปกติอยู่แล้ว เงินสดเองเข้าใจว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เข้าตัวกลางมันก็มีทางตามได้อยู่บ้าง แน่นอนว่าเงินสดให้กับมือมันตามไม่ได้ก็จริง แต่ร่างกฎหมายนี้ก็ยกเว้นธุรกรรมแบบ P2P เหมือนกัน
โอ้ พึ่งทราบว่ายกเว้นให้ P2P ด้วย ขอบพระคุณสำหรับข้อมูล
ถ้าแต่โอนผ่านธนาคารก็ตามรอยได้นี่ครับ
ผ่านตัวกลางก็ต้องโดนตามรอยอยู่แล้วครับ เงินสดที่ไม่โดนตามคือ คุณจ่ายกับคู่สัญญาคุณในรับรู้กันแค่ 2 คน หรือคนอื่นไม่ได้สนใจมากนั่นแหล่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นโอนเงินให้กันเมื่อไหร่ก็คือมีตัวกลางแล้ว ตามง่ายมากๆ เพราะงั้น เงินคริปโตโอนกันตัวต่อตัว ก็เหมือนเงินสด แต่ถ้ามีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสถาบันการเงินเมื่อไหร่ก็คือเหมือนการโอนเงินข้ามบัชชีนั่นแหล่ะ
ก็ไม่แปลกครับ เขายกเว้นให้พวก p2p อยู่แล้วเพราะมันทำไม่ได้
ตัวกลางบ้านเราแบบที่ผ่านการกำกับดูแลจะต้องทำ kyc ทุกเจ้าอยู่แล้ว
ผมว่ากฎนี้น่าจะกระทบพวกกึ่งๆ ที่ไม่ใช่ exchange อย่างพวก gamefi มากกว่า เข้าใจว่าปัจจุบันพวกนี้ไม่น่าทำ kyc
ดีแล้ว
p2p ใน binance เจ้าที่ใช้บัญชีไทย แล้วมีธุรกรรมเยอะผิดปรกติ ก็เห็นว่าโดนเรียกไปคุย อยู่นะ